แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 453

“คือพวกเราที่ไร้ประโยชน์ ไม่ได้ปกป้องน้องสาวดีๆ วันนี้ยังให้น้องสาวมาปกป้องพวกเรา นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เว่ยเจ๋ออี้พูดกะทันหัน

เว่ยเจ๋ออี้อายุเท่าลั่วเสี่ยวปิง แค่โตกว่าไม่กี่เดือน ปีนี้ยี่สิบเท่ากัน

สำหรับซ่งหลิงหลาง ตั้งแต่เด็กเขาก็เข้ากันไม่ได้ ทุกครั้งก็คือซ่งหลิงหลางรังแกเขา แต่ว่าทุกครั้งล้วนเป็นซ่งหลิงหลางที่ร้องไห้ก่อนและฟ้องก่อน ทำให้เขาทนรับความลำบากไม่น้อย หลังจากนั้นเขาก็ตัดขาดไม่ไปมาหาสู่กับซ่งหลิงหลางอย่างเด็ดขาด วันก่อนเขาถึงรู้เรื่องที่ซ่งหลิงหลางไม่ใช่น้องสาวของตัวเอง ไม่รู้ว่าดีใจแค่ไหน

ถึงแม้ ในช่วงเวลาโรคติดต่อระบาดแบบนี้นางดีใจก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสม

แล้วก็ น้องสาวเมื่อครู่นี้ เขาดูแล้วก็ชอบมาก แต่ว่าทำไมถึงได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้? เว่ยเจ๋ออี้รู้สึกเสียใจ

คำพูดของเว่ยเจ๋ออี้ ทำให้ตระกูลเว่ยเข้าสู่ความเงียบสงบในทันใด

“ไม่ได้” สุดท้าย เว่ยเหลียงเฉิงพูดขึ้นก่อน “จะให้นางเสี่ยงอันตรายเพราะช่วยฉีเอ๋อร์ไม่ได้”

เว่ยเหลียงเฉิงเป็นพ่อของเว่ยเจ๋อฉี พูดแบบนี้ออกมา ก็เท่ากับว่าจะสละชีวิตของเว่ยเจ๋อฉี สำหรับเขาแล้วคือความโหดร้าย

แต่ ฝั่งหนึ่งคือลูกชาย อีกฝั่งหนึ่งคือหลานสาว เขาไม่สามารถทำได้ที่จะให้หลานสาวที่ค้นหามานานขาดนั้นเสี่ยงอันตรายเพื่อลูกชายตัวเอง

คนตระกูลเว่ยมองดูเว่ยเหลียงเฉิง ไม่มีคนพูด

เพราะว่าการตัดสินใจในตอนนี้ สำหรับคนตระกูลเว่ยแล้วมันโหดร้ายมาก

แต่ว่า พวกเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของเว่ยเหลียงเฉิงโดยไม่พูด

เลือกอย่างไร ความจริงในใจพวกเขารู้ดี

คนหนึ่งป่วยจนไม่ไหวแล้ว คนหนึ่งสภาพดี

เพราะว่าไม่อยากเพราะว่าคนหนึ่งแล้วสูญเสียอีกคนหนึ่ง

จากนั้น สุดท้ายเว่ยหยวนหมิงเข้าไปข้างหน้า เคาะประตูหน้าสวนที่ไป๋เสาปิดไว้

“เรื่องอะไร?” ไป๋เสาถามโดยมีประตูกั้น แต่ว่าไม่ได้เปิดประตู

เว่ยหยวนหมิง “ให้นายหญิงของพวกเจ้าออกมาเถิด พวกเราไม่รักษาแล้ว”

ตอนที่พูดคำพูดนี้ น้ำเสียงของเว่ยเจ๋อหมิงค่อนข้างต่ำ

ด้านในเงียบไปครู่หนึ่ง ผ่านไปชั่วครู่ก็ไม่มีคนตอบ

เพราะว่าไป๋เสาไปถามลั่วเสี่ยวปิงแล้ว

สำหรับคำพูดของคนตระกูลเว่ยด้านนอก ไป๋เสาได้ยินหมดแล้ว เล่าให้ลั่วเสี่ยวปิงฟังหมดแล้ว

ฟังคำพูดที่ไป๋เสาเล่าแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเพียงจุกที่ลำคอ

วินาทีนี้ ความรู้สึกในใจที่ไม่ใส่ใจไม่อยากนับญาติอันน้อยนิดสุดท้ายก็จางหายไปแล้ว ขณะนี้ เธอเกิดความรู้สึกอยากออกไปนับญาติทันที

แต่ว่า สุดท้ายก็กดไปลงไป “พูดกับพวกเขา ถ้าหากโรคติดต่อในครั้งนี้ควบคุมไม่ได้ ใครก็หนีไม่พ้น ข้ารักษาก็ต้องรักษา ไม่รักษาก็ต้องรักษา ถ้าหากพวกเขาเป็นห่วงข้าจริง ก็รักษาร่างกายของตัวเองไว้ให้ดี อย่าให้ข้าต้องเป็นห่วง”

คำพูดนี้ เมื่อเทียบกับแข็งกระด้างก่อนหน้านี้ อ่อนโยนขึ้นมากแล้ว

ถึงแม้ว่าความแข็งกระด้างก่อนหน้านี้เพียงเพื่อปกป้องพวกเขา แต่วินาทีนี้ ลั่วเสี่ยวปิงถือว่าพวกเขาเป็นคนในครอบครัวของตัวเองอย่างจริงจังแล้ว

ไป๋เสาสามารถฟังออกถึงความเปลี่ยนแปลงในคำพูดได้ ดังนั้นถึงข้างประตู ก็นำคำพูดของลั่วเสี่ยวสื่อออกไป

คนตระกูลเว่ยฟังแล้ว ทันใดนั้นในใจทั้งวุ่นวายสับสนปะปนกันหมด

“เด็กคนนี้ นาง......เป็นคนฉลาด” เว่ยหยวนหมิงถอนหายใจ

จากคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง ไม่ยากที่เขาจะเดาออก ความจริงลั่วเสี่ยวปิงรู้อะไรบ้างแล้ว

เขาก็รู้ดี เด็กคนนั้นเป็นคนมีความคิด และไม่มีทางออกมาง่ายๆเพราะพวกเขา

เป็นเช่นนี้แล้ว ยิ่งทำให้เขาปวดใจ

“นายท่าน......” ฉวี่ซื่อถูกอวี้หนิงพยุงตัวไว้ ในสายตาเต็มไปด้วยความร้อนรน

ว่ากันว่า ยาแคปซูลชนิดนี้ เมื่อนานมาแล้ว เคยต่อต้านโรคติดต่อที่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว และผ่านการวิจัยค้นหามาร้อยปี สูตรยาของเหลียนฮัวชิงเวินได้รับการพัฒนานานแล้ว ผ่านการผสมพัฒนาใหม่

เธอก็เคยวิจัยโดยเฉพาะแล้ว และทำการปรับสูตรขั้นสุดท้ายแล้ว

ส่วนยาบางอย่างในฉบับแก้ไขและฉบับตั้งเดิมก็ซ้ำกัน กับสมุนไพรที่ตัวเองเลือกออกมาในครั้งนี้ก็ยิ่งซ้ำกันจำนวนมาก

หากเป็นเช่นนี้ งั้น.......หมายความว่าเธอผลิตเหลียนฮัวชิงเวินวานออกมาตามสูตรก็สามารถเห็นผลได้?

คิดเช่นนี้แล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ตั้งหม้อกลั่นยาของตัวเองขึ้นมาในช่องว่างอวกาศ เริ่มผลิตเหลียนฮัวชิงเวินวานของตัวเองขึ้นมา

ลั่วเสี่ยวปิงทำขึ้นมา ก็ทำไปห้าขวด ข้างในมีเม็ดยาขนาดใหญ่เท่าเม็ดถั่วเขียวประมาณห้าร้อยเม็ด

ถ้าหากได้ผล เช่นนั้นก็สามารถใช้ในเหตุการณ์เร่งด่วนได้ ถ้าหากไม่สามารถใช้ได้ ในอนาคตก็สามารถใช้ได้

หลังออกจากช่องว่างอวกาศ ลั่วเสี่ยวปิงก็ทิ่มเข็มลงบนตัวเว่ยหู่อีกครั้ง

เว่ยหู่สะลึมสะลือ “ข้าน้อย เป็นอะไรไป?”

ลั่วเสี่ยวปิงเฉยชาไม่หน้าแดง “เมื่อครู่เหนื่อยเกินไป เจ้าถึงได้หลับไป”

พูดไป ลั่วเสี่ยวปิงแบมือ เห็นยาเม็ดหนึ่ง

เว่ยหู่มองดูเม็ดยา ไม่ได้ถามอะไรมาก รับไปโดยตรง เงยหน้ากลืนลงไป

ไม่ได้เป็นเพราะเชื่อใจลั่วเสี่ยวปิง แต่เป็นเพราะเขารู้อย่างชัดเจน มีเพียงแค่ทดลองยาไม่หยุด เขาถึงจะมีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อ

มีซินแสคนหนึ่งอยู่ข้างกาย ก็ดีกว่ารอตายอย่างไม่มีความหวัง

หลังจากเว่ยหู่กินยาลงไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้ยุ่งต่อ แต่นั่งอยู่อีกฝั่ง คิดสูตรยาต่อ

เวลาผ่านไปทีละวินาที เสียงดังขึ้นกะทันหัน ดึงสติลั่วเสี่ยวปิงกลับมา

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปทางเสียง ลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างฉับพลัน......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง