แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 467

"ท่านอ๋อง ตอนที่เกิดโรคระบาด พระชายาก็อยู่ด้านในเมืองหลินอาน........."

"ปัง——"

คำพูดของอั้นปายังไม่ทันจบ ฉีเทียนเห้าก็ตบลงบนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าอย่างรุนแรง

เพียงแต่ ถ้ายังต้องการที่จะเข้าใจสถานการณ์มากกว่านี้ ฉีเทียนเห้าก็อาจจะต้องออกไปเดี๋ยวนี้

"ด้านในเมืองหลินอาน ตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไรบ้าง?"

อั้นปานำทุกเรื่องที่ตนเองรู้ ใช้น้ำเสียงที่รวดเร็วและกระชับพูดออกมา

ฟังจบ ภายในใจของฉีเทียนเห้าก็กระวนกระวายไม่น้อย แต่ก็ยังสงบจิตใจแล้วกล่าวว่า: "ให้คนเข้ามา!"

ไม่นานก็มีองครักษ์ปรากฏตัว

"ต้าชิ่งมีองครักษ์ของแคว้นซีหรง พวกเจ้าต้องหาออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด จักต้องหาอั้นชีให้พบ"

องครักษ์แต่ละคน ล้วนเคยร่วมมือร่วมใจในการทำภารกิจกับเขามา เขาจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเป็นความตายของพวกเขาได้

พูดจบ ก็สั่งอีกคนว่า "เจ้า จักต้องระดมสมุนไพรและเสบียงอาหารโดยเร็วที่สุด และส่งไปเมืองหลินอาน"

หลังจากกำชับสั่งเรื่องเหล่านี้จบ ฉีเทียนเห้าก็ออกจากค่ายทหาร

บัดนี้เสี่ยวปิงมีอันตราย เขาจะต้องไปอยู่ข้างกายเสี่ยวปิงโดยเร็วที่สุด

เพียงแต่เพิ่งจะออกจากค่ายทหาร ก็เห็นจีซิงยี่รีบร้อนออกมา

ฉีเทียนเห้าไม่ได้สนใจจะเปลืองเวลากับจีซิงยี่ และเตรียมที่จะเดินออกไปทางด้านนอก

"ท่านอ๋อง ช้าก่อน!"

จีซิงยี่ร้องเรียกฉีเทียนเห้าเอาไว้ได้ทัน เวลานี้ในมือของจีซิงยี่กำลังถือกระดาษข้อความเล็กๆ หนึ่งแผ่น นั่นก็คือจดหมายของลูกสาวของเขาให้จีซิงยี่เอามาให้เขา พอเขารับเอาไป เนื้อหาด้านในก็ทำให้เขาตกใจอย่างมาก

"ข้ายังมีธุระ เชิญแม่ทัพจีตามสบาย" ฉีเทียนเห้าก็ไม่หันหน้ากลับมา

"ข้าก็ทำเพื่อเมืองหลินอานไม่ใช่หรือ?" จีซิงยี่กล่าวถาม

ฉีเทียนเห้าได้ยินเช่นนี้ ก็หยุดเดิน แล้วมองไปยังจีซิงยี่

ฉีเทียนเห้าในเวลานี้ แววตาเคร่งขรึมและรีบร้อน ทำให้เพียงแค่จีซิงยี่เห็นก็รู้ว่าการคาดเดาของตนเองนั้นถูกต้อง

"ข้าจะพยายามช่วยระดมวัตถุดิบ" จีซิงยี่เพียงแค่พูดแบบนี้ออกมาประโยคหนึ่ง

เพราะว่าเขารู้ว่าเวลานี้ฉีเทียนเห้าก็น่าจะรู้ว่าคืออะไร ไม่ต้องให้เขาพูดมาก

ฉีเทียนเห้าได้ยินเช่นนี้ ก็ใช้เพียงส่งสายตาไปขอบคุณจีซิงยี่ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ในชั่วพริบตา คนก็หายสาบสูญไปจากในสายตาของจีซิงยี่

……

เวลานี้ ณ เมืองหลินอาน

ก็ไม่รู้ว่าใครที่อยู่ในเมืองเป็นคนเริ่มแพร่กระจายว่าต้นตอของโรคระบาดในครั้งนี้คือตระกูลเว่ย อีกทั้งการพูดและการกระทำ ก็มีเหตุมีผล

ในคำเล่าลือเหล่านี้ ก็มีเพียงแค่สองประการเท่านั้น

ประการแรก เวลาที่เว่ยเจ๋อฉีเป็นโรคเร็วที่สุด แล้วก็ร้ายแรงที่สุด

ประการที่สอง ก่อนหน้าที่คนเหล่านั้นจะล้มป่วย ต่างก็ได้คบค้าสมาคมกับตระกูลเว่ยไม่มากก็น้อย กระทั่งหมอที่ติดเชื้อในขณะนี้ ก็เพราะไปตรวจรักษาที่ตระกูลเว่ยจึงได้ติดเชื้อ

ตอนแรกเริ่ม เหล่าประชาชนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แต่เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ตอนที่เว่ยเจ๋อฉีออกมาพูดเป็นพยานเรื่องประสิทธิผลของยาสมุนไพร ก็เคยพูดเอาไว้ อีกทั้งข้อโต้แย้งทั้งสองนั้นก็ค่อนข้างที่จะมีน้ำหนักจริงๆ

ต่อมา เมื่อในเมืองมีข่าวออกมาว่าสมุนไพรไม่พออีกครั้ง จึงได้รับผลกระทบทางอารมณ์ความรู้สึก บรรดาประชาชนจึงเริ่มเชื่อข่าวลือนี้อย่างมาก

หลังจากนั้น ตระกูลจึงถูกคนล้อมเอาไว้

บรรดาประชาชนที่ถูกความโกรธแค้นครอบงำ และข่มขู่ว่าจะจุดไฟเผาตระกูลเว่ย เพราะเป็นบ่อเกิดหายนะของประชาชน

เหล่าประชาชนในเวลานี้ ไหนเลยจะคิดว่าเว่ยหยวนหมิงของตระกูลเว่ยจะเป็นนักปราชญ์หรือไม่?

ชีวิตก็จะไม่เหลือแล้ว มีนักปราชญ์จะสามารถทำอะไรได้เล่า?

ทั้งไม่สามารถเป็นยาได้ ทั้งไม่สามารถเป็นอาหารได้

เวลานี้ คนตระกูลเว่ยนั่งอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า สีหน้าของแต่ละคนไม่น่าดู

แม้แต่เว่ยเจ๋อฉาวและอวี้หนิงที่แอบปกป้องลั่วเสี่ยวปิงอยู่ก็ได้กลับมาแล้ว

แน่นอนว่า ฉวี่ซื่อร่างกายไม่ค่อยดี คนตระกูลเว่ยจึงไม่ให้นางเข้ามา

ถึงแม้พวกเขาจะนั่งอยู่ที่โถงด้านหน้า ไม่ได้อยู่ใกล้กับประตูใหญ่ แต่เสียงของประชาชนด้านนอกพวกเขาก็ยังคงได้ยินอย่างชัดเจน

"ท่านปู่ ท่านพ่อ ข้า......" เว่ยเจ๋อฉีน้ำตาคลอเบ้า "ข้าจะออกไป......."

เว่ยเจ๋อฉีพูดพลาง หันตัวกลับแล้วจะเดินออกไป

ได้ยินเสียงดัง"ตึง" เว่ยเจ๋อฉีคุกเข่าลงตรงหน้าทุกคน

"ท่านปู่——"

เว่ยเจ๋อฉีมองเว่ยหยวนหมิง เหมือนกับเด็กที่หมดหนทางคนหนึ่ง

หลังจากอาการป่วยหายดี ภายในใจของเขาก็คล้ายกับถูกโรคภัยทำลาย เปลี่ยนเป็นอ่อนแอถึงขีดสุด ไม่มีจิตใจที่ฮึกเหิมเหมือนแต่ก่อนเลย

"ท่านปู่ ขอโทษ เป็นข้า......เป็นข้าที่ทำให้พวกท่านต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าต้องขอโทษพวกท่านด้วย"

เว่ยเจ๋อฉีพูดพลางสะอื้นไห้ และนำหัวลงกระแทกบนพื้น จากนั้นก็มาเงยหน้าขึ้นมาอีกเลย

จนกระทั่ง มีมือคู่หนึ่งอยู่บนหัวของเขา เว่ยเจ๋อฉีจึงเงยหน้าขึ้นมา น้ำตาอันหมดหนทางบรรจบกับดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรักเมตตาและมีวิสัยทัศน์

"เจ้าเด็กโง่ ครอบครัวเดียวกันจะมาพูดแบบนี้ทำไม?" เว่ยหยวนหมิงประคองเว่ยเจ๋อฉีขึ้นมาด้วยมือของตนเอง "ที่พี่ชายสองสามคนของเจ้าพูดนั้นมีเหตุผล มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า ไม่โทษว่าเจ้าเป็นต้นเหตุ"

ตำพูดของเว่ยหยวนหมิง เหมือนกับมือหนึ่ง ที่ปลอบประโลมจิตใจของเว่ยเจ๋อฉีที่ได้รับบาดเจ็บจากการเจ็บป่วย

หลังจากเว่ยหยวนหมิงปลอบโยนเว่ยเจ๋อฉีดีแล้ว สายตาก็มองไปยังหน้าประตูอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ก้าวเท้ามุ่งไปยังหน้าประตู

"ท่านพ่อ——"

"ท่านปู่——"

คนในบ้านส่งเสียงตามๆ กัน

เว่ยหยวนหมิงหันหน้ากลับมา มองไปยังลูกหลาน

"ความโกรธเคืองของประชาชน จะต้องมีคนปลอบประโลม พวกเจ้าอยู่ในบ้านเถิด อย่าออกมา"

ความหมายนี้ก็คือ เขาเตรียมที่จะออกไปเผชิญหน้ากับความโกรธเคืองของประชาชนด้วยตัวคนเดียว

แต่ทว่า ชายตระกูลเว่ย ไม่มีใครอ่อนแอกลัวตายแม้แต่คนเดียว

ยิ่งเว่ยเจ๋อฉี ที่เขาต้องทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ ก็เป็นเพียงแค่คิดไปเองว่าตนเองเป็นต้นเหตุ และโทษตัวเองมากเกินไป

ฉะนั้น หลังจากได้ฟังคำพูดนั้นของเว่ยหยวนหมิง คนตระกูลเว่ยจึงแสดงออกเหมือนกันว่า ถ้าหากจะต้องเผชิญหน้า ก็ต้องไปเผชิญหน้าด้วยกัน พวกเขาจะไม่เห็นแก่ตัวกลัวตายโดยเด็ดขาด

ถ้าหากปลอบใจประชาชนได้ก็ดีไป แต่ถ้าหากไม่ได้ พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวความเป็นความตายโดยสิ้นเชิง

คนตระกูลเว่ยล้วนเด็ดเดี่ยวอย่างมาก เว่ยหยวนหมิงเห็นว่าไม่อาจโน้มน้าวได้ ในที่สุดก็ทอดถอนใจหนึ่งที จากนั้นก็พยักหน้า

ต่อจากนั้น บรรดาผู้ชายตระกูลเว่ย ก็เดินตามกันมุ่งไปยังหน้าประตู......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง