แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 476

หลังจาก'หมออู๋'พูดเสร็จ อยู่ๆมือปราบพวกที่จับ'หมออู๋'อยู่นั้นก็ล้วนล้มลงกับพื้น

จากนั้น'หมออู๋'กระโดดขึ้นไปบนหลังคา

ฉากกะทันหันนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก

ไป๋เสาและเว่ยเจ๋อชาววิ่งตามขึ้นไป แต่ในเวลานี้ ข้างหลังของ'หมออู๋'มีคนเสื้อดำหลายคนปรากฏขึ้น จากนั้น'หมออู๋'ก็จากไปภายใต้การปิดบังของคนเสื้อดำ

รอจนกว่าไป๋เสาและเว่ยเจ๋อชาวสองคนจัดการคนเสื้อดำเหล่านั้นเสร็จ 'หมออู๋'ก็หายไปตั้งนาน

สถานการณ์เงียบขรึมมากในเวลานี้

เหล่าชาวบ้านก็ฟื้นสติมาไม่ทัน

ลั่วเสี่ยวปิงมองทิศทางที่'หมออู๋'จากไป นึกถึงคำพูดที่'หมออู๋'พูดก่อนจากไป มีความรู้สึกกังวลใจ

ถึงแม้ตัวการของเรื่องนี้หนีพ้นไปได้ แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าต้นเหตุไม่ใช่มาจากตระกูลเว่ย แต่เป็นสายลับของแคว้นซีหรงที่ลับลอบเข้ามาในต้าชิ่ง ชาวบ้านที่ร่วมกันต่อต้านคนต่างเชื้อชาตินั้นก็จะไม่ระบายความโกรธต่อคนในตระกูลเว่ยอีกแล้ว

แต่ถึงแม้ชาวบ้านจะไม่วุ่นวายในต้นเหตุของเรื่องนี้แล้ว แต่เรื่องที่ยาถูกทำลายมาสองครั้งติดกันนั้น ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านหลายคนยังไม่รู้ แต่ตอนนี้เหล่าชาวบ้านล้วนรู้แล้ว ดังนั้นเลยถามลั่วเสี่ยวปิงและกัวหงหยางว่า ยาในเมืองไม่พอแล้วจริงหรือ

แต่ยังไม่ทันรอให้กัวหงหยางคิดดีๆว่าจะตอบชาวบ้านยังไง ก็มีทหารเฝ้าประตูเมืองวิ่งมา

"นายท่านขอรับ นอกเมืองมีคนมาขอรับ"

กัวหงหยางอึ้งไปก่อน จากนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ

มีคนมา?

งั้นต้องเป็นคนที่มาช่วยแน่เลย

"ข้าไปดูที่ประตูเมืองก่อน พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ เรื่องของยาข้าจะให้คำอธิบายกับพวกเจ้าแน่นอน"

พูดจบ กัวหงหยางเห็นว่าเหล่าชาวบ้านยังห่วงใยอยู่ ก็ปลอบใจว่า"พวกเจ้าไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเป็นราชสำนักหรือเป็นข้า ล้วนไม่ทอดทิ้งพวกเจ้า ไม่ว่าเมื่อไหร่ข้าก็จะอยู่สู้พร้อมกับพวกเจ้า"

ระหว่างที่พูด กัวหงหยางก็มองไปทางลั่วเสี่ยวปิงและซุนมู่หยาง"ถึงแม้พวกเจ้าไม่เชื่อข้า ก็ควรเชื่อหมอเทวดาลั่วและหมอเทวดาซุน"

เหล่าชาวบ้านมองไปทางลั่วเสี่ยวปิงและซุนมู่หยางด้วยจิตสำนึก ในที่สุดก็เลือกที่จะเชื่อ

เพราะถ้าไม่เชื่อจะทำอะไรได้อีกล่ะ?

ตอนนี้มีแต่เชื่อพวกเขาถึงมีทางออก

คนเรามีชีวิตอยู่ ก็ต้องมีความศรัทธาที่ทำให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

กัวหงหยางไปแล้ว เดินไปทางประตูเมืองอย่างรีบร้อน

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปทางประตูเมือง รู้สึกว่าจะมีเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็ตัดสินใจที่จะพาไป๋เสาเดินไปทางประตูเมืองด้วย

เดิมทีคนตระกูลเว่ยก็คิดจะตามไป แต่ลั่วเสี่ยวปิงบอกว่านางไปสักครู่หนึ่งก็กลับ เลยปฏิเสธให้คนตระกูลเว่ยไปด้วย

แต่ก่อนจะไป ลั่วเสี่ยวปิงสั่งคนตระกูลเว่ยว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าออกจากบ้าน เพราะโรคระบาดยังไม่จบ ออกจากบ้านในเวลานี้จะมีโอกาสติดเชื้อ

สำหรับชาวบ้านเหล่านั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็เป็นคำพูดนี้ : ไม่มีเรื่องอะไรอย่าออกจากบ้าน

จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงยื่นสูตรยาสูตรใหม่ที่แท้จริงให้ซุนมู่หยาง จากนั้นก็เดินไปทางประตูเมือง

และในเวลานี้ กัวหงหยางก็วิ่งไปถึงหน้าประตูเมืองอย่างรวดเร็ว จากนั้นปีนขึ้นไปบนกำแพงเมือง

แต่ตอนที่กัวหงหยางยืนอยู่บนกำแพงเมือง สิ่งที่เห็นไม่ใช่การนำอาหารหรือยามาเสริมให้ หรือเป็นการช่วยเหลือใดๆ แต่เป็นทหารมาประชิดกำแพงเมือง

คนที่เป็นผู้นำกองทัพนั้น คือหลิวผิงหรงที่รับผิดชอบป้องกันแถบนี้ ซึ่งเป็นขุนนางระดับห้า

ถึงแม้กัวหงหยางได้ถูกเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองระดับสี่ แต่เนื่องจากยังไม่ได้ไปดำรงตำแหน่ง ตอนนี้ก็แค่ใช้สิทธิ์นายอำเภอซึ่งเป็นขุนนางระดับเจ็ดเท่านั้น เมื่อเผชิญกับขุนนางที่เป็นระดับห้า ถือว่ายังด้อยกว่าขั้นหนึ่ง

หลิวผิงหรงที่ขี่อยู่บนหลังม้านั้นได้เห็นกัวหงหยางที่อยู่บนกำแพงเมือง ดวงตาลึกซึ้งมาก เพียงโบกมือใส่กัวหงหยางอย่างเรียบง่าย

ระหว่างที่พูด ก็พูดต่อ"ข้ารู้ว่านายท่านกัวไม่อยากตาย แต่ฝ่าบาทสั่งให้ขุนนางตาย ขุนนางจะไม่ตายไม่ได้ เจ้ายอมรับความจริงนี้เถอะ"

ความหมายนี้คือไม่ผ่อนผันให้

ในเวลานี้กัวหงหยางก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปต่อต้านยังไง?

เพราะคำพูดหนึ่งของนายท่านหลิวพูดได้ถูกต้อง ฝ่าบาทสั่งให้ขุนนางตาย ขุนนางจะไม่ตายไม่ได้

พวกเขาในฐานะที่เป็นขุนนาง ไม่สามารถต่อต้านกับอำนาจของจักรพรรดิได้

"ทุกคน เตรียมพร้อม"หลิวผิงหรงกล่าว

จากนั้นก็เห็นทหารเหล่านั้นหยิบธนูมาจากข้างหลัง

ลูกธนูแต่ละดอกล้วนมีวัตถุไวไฟผูกมัดอยู่ ขอให้จุดไฟแล้วยิงเข้าไปในเมือง งั้นเมืองทั้งเมือง......

"ไม่ได้!"

"รอก่อน!"

ตอนที่เหล่าทหารเตรียมลูกธนูเสร็จ หลิวผิงหรงเตรียมจะจุดไฟอยู่ เสียงสองเสียงก็ดังขึ้นพร้อมกัน

กัวหงหยางมองลั่วเสี่ยวปิงที่ไม่รู้ขึ้นมาในกำแพงเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นด้วยความแปลกใจ ส่วนลั่วเสี่ยวปิง ไม่ได้มองกัวหงหยางอีก

เวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงมองหลิวผิงหรงที่อยู่ข้างล่างด้วยสายตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง

"เวลาที่เกิดโรคระบาดค่อนข้างจะเร็ว ถึงแม้นายท่านกัวสั่งปิดเมืองใาตั้งนานแล้ว แต่ที่อื่นก็ต้องมีการเกิดโรคระบาดแน่นอน ตอนนี้เมืองเรามีสูตรในการต้านทานโรคระบาดแล้ว กำลังถึงยามจำเป็นในการต้านทานโรคระบาด หากเจ้าสั่งเผาเมืองจริงๆ แล้วถ้าอนาคตเจ้าหรือคนอื่นเกิดติดเชื้อขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ เจ้ารับผิดชอบไหวหรือ?"

ลั่วเสี่ยวปิงถามหลิวผิงหรง ดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่หลิวผิงหรง ทำให้หลิวผิงหรงมีความรู้สึกตกใจที่ไม่อาจบรรยายได้

เหมือนกับว่าคนที่ควรอยู่เหนือกว่าในตอนนี้ควรเป็นนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง