เสื้อผ้าที่อยู่ในร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปนางได้ดูไปทั้งหมดแล้ว ก็ล้วนแต่เป็นสไตล์ที่มักจะขายอยู่ตามท้องถนนซึ่งมันธรรมดามาก นอกจากนี้ราคาเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็ยังแพงอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจจะไม่ดี
แต่ถ้าเป็นสไตล์กังฟูอะไรประมาณนั้นล่ะ?
ลั่วเสี่ยวปิงมีความคิดอยู่ในใจแล้ว แต่กลับไม่ได้รีบร้อนพูดเรื่องนี้กับอู๋วิ่นเฉิงและภรรยาของเขา
อย่างไรเสียนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน ถ้าจะมาบอกว่านางสามารถออกแบบเสื้อผ้าในรูปแบบที่แปลกใหม่ได้พวกเขาก็อาจจะไม่เชื่อเช่นกัน ดังนั้น ลั่วเสี่ยวปิงจึงตัดสินใจที่จะรอให้มีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาก่อนแล้วค่อยมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอีกที
หลังจากที่จ่ายเงินแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ซื้อของเล็กๆน้อยๆอีกสักหน่อย แล้วก็ขึ้นเกวียนวัวและรีบกลับบ้าน และตอนที่กลับไปถึงบ้านก็เกือบจะเที่ยงแล้ว
ในเวลานั้นเองจางซิ่งฮวา ก็กำลังนั่งอยู่ที่ในลานบ้านและกำลังดูเด็กทั้งสองคนเล่นกันอยู่ และด้านข้างก็เต็มไปด้วยกองลูกสน และยังมีเห็ดที่ถูกส่งมาถึงที่นี่โดยตรงหนึ่งกอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเวลาเพียงช่วงบ่ายป้าเฉินและจางต้าหลางได้ไปมาหลายครั้งแล้ว
“ท่านแม่”
อานอานมองเห็นลั่วเสี่ยวปิงก่อน จึงร้องเรียกออกมาด้วยความประหลาดใจและดีใจ หลังจากที่ เล่อเล่อ ได้พบลั่วเสี่ยวปิงแล้ว เขาก็วิ่งตะบึงตรงไปหาลั่วเสี่ยวปิงอย่างรวดเร็ว
ลั่วเสี่ยวปิงอุ้มเล่อเล่อ ขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่ลานบ้าน
“พี่เสี่ยวปิง”
จางซิ่งฮวา ลุกขึ้นยืน แล้วเรียก ลั่วเสี่ยวปิงอย่างเขินอาย
“ซิ่งฮวา วันนี้ต้องขอบคุณเจ้ามากนะ” ลั่วเสี่ยวปิงขอบคุณจางซิ่งฮวา
แต่จางซิ่งฮวากลับโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วพูดว่า “พี่เสี่ยวปิง นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก”
ลั่วเสี่ยวปิงเพียงแค่ยิ้มแย้มไปมา และไม่ไปพูดเกี่ยวกับหัวข้อนี้อีก แต่กลับพูดกับจางซิ่งฮวาว่า “ซิ่งฮวา ข้าจำได้ว่างานเย็บปักถักร้อยของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว ข้าขอไหว้วานเจ้าสักเรื่องจะได้ไหม?”
พอซิ่งฮวาได้ยินว่าเป็นงานการเย็บปักถักร้อย ดวงตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมา แต่นางกลับยังคงถ่อมตนอยู่มาก “เรื่องเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องที่ผู้คนปั้นขึ้นมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าทั้งนั้น ข้ามีความรู้เพียงผิวเผินเท่านั้น ว่าแต่พี่เสี่ยวปิงต้องการให้ข้าทำอะไรหรือ? ถ้าท่านบอกว่าข้าสามารถทำได้ข้าก็จะทำให้ท่านอย่างแน่นอน”
แม้ว่านางจะพูดถ่อมตนมากก็ตาม แต่ ลั่วเสี่ยวปิงกลับมองออกว่าจางซิ่งฮวา มั่นใจในงานเย็บปักถักร้อยของตัวเองเป็นอย่างมาก
ในขณะนั้นเอง จางเอ้อหลางก็กำลังเดินหอบผ้าสามสี่พับเข้ามา ลั่วเสี่ยวปิงจึงพูดว่า “ข้าต้องการให้เจ้าเย็บเสื้อให้พวกเราสามแม่ลูกสักสองสามตัว และ ข้ายังอยากจะไหว้วานให้เจาช่วยเย็บผ้าห่มที่อยู่ในบ้านให้ด้วยสักหน่อย”
ถึงแม้ว่าเจ้าของเดิมจะเคยเย็บเอาไว้แล้ว แต่จะให้นางหยิบเข็มกับด้ายคงเป็นไปไม่ได้จริงๆ
ในขณะที่จางซิ่งฮวา กำลังมองดูผ้าจำนวนมากนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของนางก็เบิกกว้างขึ้น นางประหลาดใจมากเห็นได้ชัด
แต่นางก็รับฟังคำพูดของลั่วเสี่ยวปิงนางจึงพยักหน้าโดยไม่ได้คิดอะไรและพูดว่า “ได้”
จางซิ่งฮวา ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งในทันที แล้วพูดว่า “พี่เสี่ยวปิง ถ้าไม่อย่างนั้นให้ข้าทำที่บ้านของท่านเถอะ เช่นนี้ยังจะสามารถช่วยท่านดูแลอานอานกับเล่อเล่อสักหน่อยได้ด้วยนะ”
เดิมทีลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ได้คิดที่จะให้ จางซิ่งฮวา มาทำที่บ้านของเขาเองเลย แต่เมื่อ จางซิ่งฮวา เสนอขึ้นมาอย่างนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ตาเป็นประกาย และนางก็คิดเพียงว่าความคิดนี้ไม่เลวเลยจริงๆ
“งั้นก็ได้ หากเจ้าเย็บเสื้อเสร็จหนึ่งตัว ข้าก็จะให้ค่าแรงเจ้าห้าสิบเหวิน” ลั่วเสี่ยวปิงไม่เคยคิดที่จะขอให้จางซิ่งฮวาทำให้ฟรีๆอยู่แล้ว
เมื่อจางซิ่งฮวาได้ยินว่านางยังต้องจ่ายค่าแรงให้นางเงินอีกเป็นเงินห้าสิบเหวิน นางก็โบกมือไปมาด้วยความตกใจ
“ไม่......ไม่ได้พี่เสี่ยวปิง ข้า......”
“ซิ่งฮวาอย่ามัวแต่ปฏิเสธข้าก่อนเลย” ลั่วเสี่ยวปิงพูดขัดคำพูดของจางซิ่งฮวาแล้วหลังจากนั้นก็ทำสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมา “คำขอของข้าเองค่อนข้างสูงมาก ในอนาคตข้าอาจจะยังต้องร่วมมือกับเจ้าในระยะยาวด้วย ถ้าหากเจ้าไม่รับ หรือว่าจะให้ข้าไปหาคนอื่นอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อจางซิ่งฮวาได้ยินดังนั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากไปมา นางดูมีท่าทางหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่กลับตัดสินใจไม่ได้นิดหน่อย และสุดท้ายนางก็มองไปที่พี่รองของนางอย่างทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
ลั่วเสี่ยวปิงจึงพยักหน้า แล้วพูดว่า “เจ้าช่วยเราทำผ้านวมก่อน หลังจากนั้นก็ทำเสื้อที่พวกเขาสามารถปลดกระดุมก่อนใส่ได้ซึ่งไม่ปักลายดอกไม้แบบเรียบๆเหมือนกันอีกหนึ่งตัว ส่วนอันที่มีการปักลายที่เหลือ ถึงเวลานั้นเจ้าค่อยทำทีหลังก็ได้”
นางต้องแน่ใจก่อนว่ามีในบ้านมีเสื้อสวมใส่และมีผ้าห่มใช้แล้ว นางค่อยคิดที่จะหาเงินอีกที
หลังจากที่พูดจบแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็วาดเสื้อกั๊กตัวเล็กๆที่เด็กผู้ชายสวมใส่ขึ้นมาแล้วชุดหนึ่ง
สำหรับนางกับ ฉีเทียนเห้า นางไม่ได้วาดภาพใดๆ นางเพียงแค่ปล่อยให้ จางซิ่งฮวาทำอะไรก็ได้ตามต้องการเท่านั้น
หลังจากที่พูดเรื่องนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ลืมที่จะคำนวณค่าจ้างที่จะให้พวกจางเอ้อหลางนำกลับไปด้วย
เห็ดเก้าสิบชั่งมีราคาเก้าร้อยเหวิน บวกเกวียนวัวอีกสิบเหวิน ค่าจ้างของจางเอ้อหลางคือสามสิบเหวิน และให้ จางซิ่งฮวาเป็นเงินมัดจำ อีกห้าสิบหวิน ลั่วเสี่ยวปิงได้จ่ายเงินไปโดยตรงเกือบหนึ่งตำลึงแล้ว
สำหรับลูกสนเหล่านั้น ลั่วเสี่ยวปิงตัดสินใจว่าจะชั่งน้ำหนักพวกมันเข้าด้วยกันแล้วค่อยคำนวณค่าใช้จ่ายในภายหลัง
เมื่อสองพี่น้องได้รับเงินกันแล้ว พวกเขาต่างก็มีสีหน้าที่ตื่นเต้นดีใจ และปฏิเสธคำขอที่จะให้อยู่รับประทานอาหารของลั่วเสี่ยวปิง โดยตกลงกันว่าจะเข้ามาทำผ้าห่มทีหลังในตอนบ่าย แล้วสองพี่น้องก็ออกไปก่อนเลย
เมื่อสองพี่น้องจากไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็หยิบผลไม้เคลือบน้ำตาลสองไม้ออกมาจากข้าวของที่ตัวเองซื้อมาให้อานอานกับเล่อเล่อกิน
ก่อนหน้านี้เด็กสองคนอิจฉาตาร้อนกันมากตอนที่เห็นคนอื่นๆกินผลไม้เคลือบน้ำตาล แต่ตอนนี้ตนเองสามารถกินได้แล้ว พวกเขาทั้งคู่จึงมีความตื่นเต้นดีใจอยู่เต็มใบหน้า
เมื่อเห็นเด็กสองคนมีความสุข ลั่วเสี่ยวปิงก็อารมณ์ดีมากเช่นกัน
ก่อนที่จะทำอาหาร ลั่วเสี่ยวปิงตัดสินใจว่าจะไปดูอาการของ ฉีเทียนเห้า ที่นอนอยู่บนเตียงก่อน
แต่พอเข้าไป ลั่วเสี่ยวปิงก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นสภาพของผู้ชายที่อยู่บนเตียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...