แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 490

ใช่แล้ว จางเอ้อเก่าแต่งงานแล้ว

แต่งงานไปก่อนที่จะเกิดโรคระบาดหนึ่งเดือน เพิ่งจะสดๆ ร้อนๆ เลย

เมื่อเห็นว่ามีคนมาสร้างเรื่องเดือดร้อนให้ลั่วเสี่ยวปิง จึงอดไม่ได้ที่จะรีบเข้ามาช่วยเหลือ

บัดนี้เขาไม่ใช่ไอ้คนไม่ได้เรื่องเหมือนในตอนนั้นแล้ว ไม่สามารถใช้วิธีที่ทำให้คนประณามแบบนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาได้อีกต่อไป เกวียนเล่มนี้ก็ยังพอใช้ได้

เมื่อบรรดาชาวไร่ชาวนาเห็นเกวียนของจางเอ้อเก่า ก็มีคนนึกถึงที่มีของรถเล่มนั้นออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็แอบหัวเราะโดยไม่พูดจา

ถ้าหากมีคนข้างๆ ที่ไม่รู้ คนที่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังนั้นก็กระซิบบอกข้างหูของเขา ชั่วพริบตา ทุกคนต่างก็รอดูการแสดงดีๆ

ถึงอย่างไรในหมู่บ้านตอนนี้ ทุกคนต่างก็มองไปยังลั่วเสี่ยวปิง

ใครกันที่ให้ลั่วเสี่ยวปิงทำให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี?

แต่ทว่า คนรับใช้ไม่รู้ถึงสถานการณ์ แต่ย่าลั่วรู้ดี เมื่อเห็นจางเอ้อเก่ารีบเข็นเกวียนชำรุดเล่มนั้นเข้ามา ก็โกรธเคืองอย่างมาก "รีบเอาเกวียนพังๆ ของเจ้าไปให้พ้นเลยนะ เกวียนพังๆอย่างนี้ให้คนนั่งได้อย่างไรกัน?"

จางเอ้อเก่าได้ยินเช่นนี้ ก็มองไปยังเกวียนชำรุดที่อยู่ด้านหลังของตนเองอย่างไม่มีความผิด จากนั้น ก็เอ่ยปากอย่างไม่มีความผิดว่า "ก็ไม่ได้ให้คนนั่งนะ"

ย่าลั่วขมวดคิ้ว รู้สึกว่าคำพูดนี้มีความแปลกๆ เล็กน้อย แต่นึกไม่ออกว่าแปลกตรงไหน

คนบางคนที่ฉลาดปราดในหมู่บ้านก็ฟังออกถึงความหมายในคำพูดของจางเอ้อเก่า แต่ไม่ได้บอกกับพวกย่าลั่ว

แน่นอนว่าพวกลั่วเสี่ยวปิงเข้าใจ จีเหวินจุนก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้ข้างหูของลั่วเสี่ยวปิง ยิ้มแล้วกล่าวว่า "พี่เสี่ยวปิง คนในหมู่บ้านของพี่สนุกดีนะ"

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ ก็เพียงแค่ยิ้มๆ

สองสามเดือนมานี้จางเอ้อเก่าเปลี่ยนไปอย่างมากจริงๆ

เดิมทีที่นางได้เสนองานให้กับจางเอ้อเก่า ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณเขา แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีความมุมานะ เขาสามารถยืนด้วยตัวคนเดียวด้านหน้าร้านค้าตำบลได้ ทำงานก็ค่อนข้างคล่องแคล่ว เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ก็เหมือนกับคนละคนจริงๆ

เพียงแต่ โดยทั่วไปพวกเขาก็ไม่เคยได้แลกเปลี่ยนกัน วันนี้การปกป้องอย่างโจ่งแจ้งนี้ของจางเอ้อเก่า นางจึงค่อนข้างรู้สึกเกินความคาดหมาย

ย่าลั่วคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็คิดไม่ออกว่าคำพูดของจางเอ้อเก่าผิดปกติตรงไหน ก็เลยไม่คิดแล้ว

และลั่วหลานก็ฟังไม่ออกถึงความหมายในคำพูดของจางเอ้อเก่า เพียงแต่กล่าวอย่างโมโหว่า "เกวียนเล่มนี้ของเจ้าไม่ได้ให้คนนั่ง แล้วยังต้องการให้พวกเราเช่าอีกเหรอ?"

จางเอ้อเก่า: "แต่เกวียนของข้าถูกนะ!"

ลั่วหลาน "ข้ามีเงิน จะมาใช้ของถูกของเจ้าหรือ?"

จางเอ้อเก่า "เอาล่ะ ท่านมีเงิน ท่านไม่เช่า"

จางเอ้อเก่าพูดพลาง ส่ายหัวดิกๆ ทำท่าทีผิดหวังอย่างมาก

หลังจากนั้น ภายใต้สายตาของทุกคนที่กลั้นเสียงหัวเราะไว้ ตะโกนโห่ร้องเกวียนชำรุดเล่มนั้น และจากไปด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าด กระทั่งเดินไปได้สองสามก้าวไม้กระดานก็ร่วงหล่นลงมา หัวใจของลั่วหลานก็สั่นสะท้านเมื่อได้เห็น

ลั่วหลานตบๆ หน้าอกตัวเองอย่างรู้สึกใจหาย คิดในใจว่า ยังดีที่ตนเองไม่ได้ต้องการนั่งเกวียนเล่มนั้น ไม่เช่นนั้นที่ร่วงลงมาจากเกวียนก็คือนาง

"ฮูหยิน......." เวลานี้ คนรับใช้จึงเอ่ยปาก อย่างแฝงไปด้วยความระมัดระวังว่า "ท่านไล่เกวียนเล่มนั้นไปแล้ว แล้วจะไปในเมืองเพื่อแจ้งศาลได้อย่างไรกัน?"

ลั่วหลาน: "......" อีนังเด็กบ้าคนนี้ พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดจริงๆ

หากรู้ว่าคนรับใช้ที่ซื้อมาข้างถนนตาถั่วเช่นนี้ นางก็คงจะไม่สิ้นเปลืองเงินนั้นหรอก คนที่ได้ไม่คุ้มเสีย ไหนเลยจะมาปรนนิบัติรับใช้นางได้? ชัดเจนว่ามาสร้างปัญหา

"ฮูหยิน......"

รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาของฮูหยินของตนเอง คนรับใช่จึงไต่ถามอย่างระมัดระวังอีกครั้ง

ลั่วหลาน:"ยังจะแจ้งศาลอะไรอีกล่ะ? ไม่มีเกวียนแล้วเจ้าอยากจะให้ข้าเดินเข้าไปหรือ? ตาถั่วขนาดนี้เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะขายเจ้าเสีย?"

แน่นอนว่าคนใช้คนนั้นของลั่วหลานก็ตามออกไปด้วย เพียงแต่เดินไปได้สองสามก้าวก็หยุดลง หันหน้ากลับมาแล้วมองไปยังลั่วเสี่ยวปิง แต่ก็สบตากับลั่วเสี่ยวปิงพอดี

คนรับใช้ชะงักงันไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถอยไป หลังจากจ้องมองกับลั่วเสี่ยวปิงอยู่สองสามวินาทีจึงได้หันเดินจากไป

"น้องเสี่ยวปิง เจ้ากำลังมองอะไรอยู่หรือ?" อวี้หนิงถาม

เพียงแต่มองตามสายตาของลั่วเสี่ยวปิงไป ก็เห็นเพียงภาพด้านหลังของคนรับใช้คนนั้น และไม่เห็นอะไรอื่นอีกเลย

ลั่วเสี่ยวปิง: "ไม่มีอะไรหรอก ในเมื่อเรื่องราวได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเราก็กลับไปก่อนเถิด"

ส่วนคนรับใช้คนนั้น นางรู้สึกว่าร่างกายของนางไม่ธรรมดาจริงๆ

แต่เช่นนั้นแล้วเป็นอย่างไรเล่า?

เรื่องราวและคนไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาง นางจึงไม่อยากให้ความสำคัญมากนัก

ลั่วเสี่ยวปิงพูดพลางมองไปยังจางเฉินซื่อที่อยู่ข้างๆ "อาสะใภ้ เมื่อครู่นี้ต้องขอบคุณท่านอย่างมาก ถ้าหากไม่มีท่านเพื่อนทั้งสองคนนี้ของข้าก็อาจจะถูกรังแก"

อวี้หนิงและจีเหวินจุนล้วนปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจ ไม่เช่นนี้ก็คงจะไม่ถูกลั่วหลานด่าอยู่ครึ่งค่อนวันโดยไม่เอ่ยปากพูดหรอก

จางเฉินซื่อยิ้มพลางโบกไม้โบกมือ "นี่มันเรื่องใหญ่อะไรเล่า เรื่องเล็กน้อยก็เท่านั้น"

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ จึงดึงอวี้หนิงและจีเหวินจุนมาแนะนำต่อจางเฉินซื่อ "อาสะใภ้ ทั้งสองคนนี้คือเพื่อนของข้า คนหนึ่งชื่ออวี้หนิง อีกคนหนึ่งชื่อจีเหวินจุน"

จางเฉินซื่อกล่าว แล้วแสยะยิ้มให้กับจีเหวินจุนและอวี้หนิง "ทั้งสองคนช่างเป็นเด็กที่น่ารักชวนมองจริงๆ"

จีเหวินจุนและอวี้หนิงก็รู้สึกยินดีอย่างมาก จึงเข้าไปแล้วเรียกอาสะใภ้ตามลั่วเสี่ยวปิง เมื่อได้ยินจางเฉินซื่อก็ดีใจอย่างมาก พยักหน้าหลายครั้งติดต่อกัน

แต่ในเวลานี้ ตระกูลลั่วไม่ได้ปรองดองกันเช่นนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง