แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 581

ที่หน้าจวนอ๋องอี้ว คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันและชี้ไม้ชี้มือพูดคุย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแนวโน้มที่คนจะมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้าเคยได้ยินหรือเปล่า”

“เคยได้ยินสิ”

ที่หน้าจวนอ๋องอี้ว คำพูดที่ได้ยินบ่อยที่สุดก็คือคำพูดนี้

ทันใดนั้นก็มีคนถามขึ้นมา

“เอ๊ะ พวกเจ้าได้ยินสิ่งใดรึ ข้าแค่ตามคนอื่นๆ เข้ามาดูเฉยๆ ไม่รู้เลยสักอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่”

ทันใดนั้นคนผู้นี้ก็ถูกคนจำนวนมากเข้ามารุมล้อม

เมื่อมีคนที่ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวเข้ามาแบบนี้ แบบนี้ก็จะตอบสนองความอยากซุบซิบนินทาของพวกเขาได้พอดีมิใช่หรือ

“เจ้ายังไม่รู้อีกรึ ได้ยินมาว่าเจียเล่อจวิ้นจู่แห่งจวนอ๋องอี้วเคยอาศัยอยู่ที่หอนางโลม”

“ยิ่งกว่านั้นอีก ข้าได้ยินมาว่าเจียเล่อจวิ้นจู่เคยนอนกับชายในหอนางโลม แถมยังเคยท้องให้กำเนิดลูกสองคนในคราวเดียว”

“... ท้องเด็กสองคน เกรงว่าพ่อของเด็กจะไม่ใช่คนเดียวกันละสิ”

“.....”

กล่าวได้ว่าในระยะเวลาสั้นๆ เรื่องที่เจียเล่อจวิ้นจู่ถูกขายให้กับหอนางโลมรวมถึงเรื่องที่เคยท้องลูกสองคนก็ถูกเล่าลือไปในเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว

กว่าอ๋องอี้วจะรู้ก็สายเกินไปเสียแล้ว

ณ จวนอ๋องอี้วในเวลานี้ อ๋องอี้วกำลังร้อนใจจนหัวหมุน

เว่ยหวินซีเองก็มีสีหน้าร้อนใจ “ท่านอ๋อง ระ... เรื่องนี้... ปิงเอ๋อร์ของเรา นาง...”

เมื่อเห็นพระชายาของตนร้อนใจ อ๋องอี้วซ่งหยุนดาจึงกลายเป็นฝ่ายที่สงบลง

“ใครก็ได้ เข้ามา”

ซ่งหยุนดาเอ่ยออกมา

ในไม่ช้าก็มีองครักษ์ปรากฏตัวออกมา

ซ่งหยุนดาออกคำสั่งด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ไปโรงเรียนรับซื่อจื่อกลับมา เดินประตูหลัง แล้วก็ให้คนพาคุณชายน้อยกลับตระกูลเว่ยด้วย”

ซ่งหยุนดาจัดการมากมายเช่นนี้ เพราะกังวลว่าซ่งเฮงจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน ที่หุนหันทำสิ่งต่างๆ โดยไม่สนใจอันตรายใดๆ เพื่อปิงเอ๋อร์

ส่วนลูกของปิงเอ๋อร์ ท่ามกลางข่าวลือที่ถูกตีแผ่ไปแบบนี้ ทั้งยังไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือใคร ถ้าคนพวกนั้นรู้ฐานะของเด็กทั้งสองคน เกรงว่าพวกนั้นคงจะลงมือเด็กทั้งคู่ด้วย

ด้วยเหตุนี้เขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนจะมีอะไรเกิดขึ้น

“ตอนไปตระกูลเว่ย อย่าลืมบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทางนี้กับท่านพ่อตาของข้าด้วย”

องครักษ์รับคำสั่งและออกไป

เว่ยหวินซีเดินเข้ามาจับมือซ่งหยุนดาไว้แน่น “ท่านอ๋อง ให้คนไปหาปิงเอ๋อร์เถิดเพคะ ถ้าปิงเอ๋อร์ไปปะทะกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างนอกเข้าล่ะ จะทำอย่างไร”

ซ่งหยุนดาได้ยินดังนั้นจึงตบมือของเว่ยหวินซีเบาๆ เพื่อปลอบโยน “อย่ากังวลไปเลย ข้าให้คนออกไปหาปิงเอ๋อร์แล้ว คิดว่าอีกไม่นานเดี๋ยวกลับมาแล้วละ”

เว่ยหวินซี “ท่านอ๋อง สิ่งที่พวกเขาพูดกัน...”

แม้ว่าเว่ยหวินซีจะพูดออกมาเพียงแค่นั้น แต่ซ่งหยุนดาก็เข้าใจ

ถึงอย่างไรปิงเอ๋อร์ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาตั้งแต่เล็กๆ เรื่องที่ปิงเอ๋อร์เคยผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้าง ถึงพวกเขาจะตรวจสอบมาบ้างแล้วก็ไม่มีทางเข้าใจอย่างถ่องแท้อยู่ดี

แต่ว่า... แล้วมันยังไงล่ะ

ซ่งหยุนดากล่าวว่า “เราต้องเชื่อใจปิงเอ๋อร์”

ขณะที่กล่าวคำนี้ออกมา ซ่งหยุนดาก็นึกถึงฉีเทียนเห้า คนที่เขาเดาว่าเป็นบิดาของหลานทั้งสองคน

แต่เขาก็เคยได้ยินคำพูดที่ว่าเมื่อมีข่าวลือก็ย่อมมีมูล

ดังนั้นซ่งหยุนดาจึงกล่าวต่อไปว่า “แม้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดจะเป็นความจริง นั่นก็ต้องเป็นเพราะปิงเอ๋อร์ไม่มีทางเลือก ไม่ว่าอย่างไรปิงเอ๋อร์ก็เป็นลูกสาวของเรา”

ซ่งหยุนดาเอ่ยปลอบโยนเว่ยหวินซี เว่ยหวินซีเอ่ยด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ใช่แล้ว ปิงเอ๋อร์เป็นลูกสาวของเรา”

ทั้งสองคนรอคอยและคอยปลอบโยนซึ่งกันและกัน

ทว่าทันใดนั้นเอง คนเฝ้าประตูก็เข้ามารายงานข่าวใหม่จากข้างนอก

“ท่านอ๋อง มีแม่ลูกคู่หนึ่งมาอยู่ที่ด้านหน้า ชายหนุ่มที่แต่งกายเหมือนปราชญ์บอกว่าเขา... เขาคือคู่หมั้นที่ถูกจวิ้นจู่ทอดทิ้ง บอกว่าตอนนี้จวิ้นจู่ได้ดีแล้ว ดังนั้นจึงทิ้งเขาไป”

เพราะพวกเขาไม่กล้ากิน

ในความทรงจำของพวกเขา พวกเขาเคยกินบะหมี่กับข้าวแบบนับครั้งได้ นับประสาอะไรกับการกินเนื้อ

ของอร่อยขนาดนี้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึง

นอกจากนี้หมอเทวดายังรักษาอาการป่วยให้พวกเขาแล้ว ถ้าพวกเขากินอาหารของหมอเทวดาอีก พวกเขาก็จะทำตัวเกินไปแล้ว

เมื่อซ่งฉงปิงเห็นว่าพวกเขาต่างระมัดระวังตัวขนาดนี้ นางจึงยิ้มโดยไม่พูดอะไร

นางเริ่มด้วยการสั่งให้ไป๋ซู่ ไป๋เสาและองครักษ์นั่งลงกินข้าว พวกเขาออกมาตั้งนานแล้วละยังไม่ได้กินอะไรสักอย่างเลย

ไป๋ซู่กับคนอื่นๆ นั่งลงและเริ่มกินอาหาร

เด็กๆ สิบเอ็ดคนเฝ้ามองพวกเขากินและกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้ง

น่ากินมาก!

อยากกินมาก!

มีเด็กโตสองสามคนที่ท้องร้องออกมาเนื่องจากท้องโล่งเพราะไม่ได้กินอาหารมาหลายมื้อ

เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านมาพอสมควรแล้ว ซ่งฉงปิงจึงวางถ้วยของตัวเองและมองเด็กๆ กลุ่มนั้น จากนั้นจึงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “พวกเจ้าจะไม่กินด้วยกันจริงๆ หรือ”

ทุกคนมองหน้ากัน ไม่ได้ส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้พยักหน้ารับ ทำแค่เพียงเม้มปากเท่านั้น

อยากกิน แต่ว่า... มันไม่ดี

เมื่อเห็นแบบนั้น ซ่งฉงปิงจึงถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้

“นี่ ข้าอุตส่าห์ลำบากทำอาหารเหล่านี้ แต่พวกเจ้ากลับไม่มีใครกินสักคน สงสัยคงเป็นเพราะฝีมือการทำอาหารของข้าไม่ดีพอแน่ๆ... ดูเหมือนจะต้องทิ้งทั้งหมดเสียแล้วละ”

ว่าแล้วซ่งฉงปิงจึงสั่งให้ไป๋ซู่เก็บถ้วยชาม

ไป๋ซู่เข้าใจจุดประสงค์ของซ่งฉงปิง ดังนั้นจึงกลั้นยิ้มและพูดพลางเก็บไปด้วยว่า “คุณหนูทำอาหารอร่อยมากจริงๆ ยากนักที่ข้าจะมีโอกาสได้กิน คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะไม่กินอาหารที่คุณหนูตั้งใจทำให้ เฮ้อ...”

ว่าแล้วไป๋ซู่จึงเตรียมจะจัดการอาหารและซุปที่เหลือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง