แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 67

ฉีเทียนเห้าคิดถึงเรื่องขึ้นมาได้ในทันใด นั่นก็คือเสื้อผ้าบนร่างกายของตนเอง

ก่อนหน้านี้ไม่ได้สังเกต ตอนนี้เมื่อคิดขึ้นมาได้ หรือว่าเสื้อผ้าของตน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนเปลี่ยน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ สีหน้าฉีเทียนเห้าก็เปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา สายตาที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงก็กลายเป็นเป็นพูดยาก

ลั่วเสี่ยวปิงพูดขึ้นว่า “....เจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ใช่คนเปลี่ยนเสื้อผ้าขอเจ้า” ดังนั้นอย่ามองนางด้วยสายตาแบบที่มองผู้หญิงในทางที่ผิดแบบนั้นดีไหม?

แน่นอน นางจะไม่พูดว่า เพื่อทายาให้กับเขา ตรงที่ไม่ควรดู นางล้วนเห็นหมดแล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจ ยังไงในยุคสมัยนี้ไม่เหมือนยุคปัจจุบัน นางเห็นร่างกายผู้ชายแล้ว จะทำให้คนอื่นคิดมาก

ได้ยินว่าไม่ใช่ลั่วเสี่ยวปิงเปลี่ยนให้ตน ฉีเทียนเห้าค่อยโล่งอก พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “เจ้าต้องการประโยชน์อะไร?”

“ให้เจ้าช่วยสอนลูกชายของข้า เจ้าคิดว่าอย่างไร?” ลั่วเสี่ยวปิงมองดูฉีเทียนเห้า

นางไม่เคยคิดที่จะให้อานอานร่ำเรียนเร็วขนาดนี้ ยังไงอานอานก็ยังไม่ถึงห้าควบ

แต่เมื่อกี้นางก็เห็นแล้ว อานอานดูเหมือนจะชอบเรียนหนังสือ

ส่วนทำไมถึงให้ฉีเทียนเห้าเป็นคนสอน?

ดูก็รู้ว่าสถานะฉีเทียนเห้าไม่ธรรมดา คนแบบนี้ มักจะต้องมีความรอบรู้อย่างแน่นอน

ในเวลานี้ นางก็ไม่รู้จะไปหาครูสอนที่ไหนให้อานอาน ฉีเทียนเห้าคนนี้ก็ดูเหมาะสมพอดี ยังไงเขาก็ว่าอยู่ ทำประโยชน์ให้ครอบครัวของนางบ้างดีกว่า ยังไงนางก็เป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ใช่หรือ?

เงินหนึ่งพันตำลึงนั่นยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ สร้างกำไรให้บ้างยังจะดีกว่า หากฉีเทียนเห้าหนีไปโดยไม่จ่ายเงิน นางก็ไม่ถือว่าขาดทุน

ฉีเทียนเห้าไม่รู้สิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงคิดในใจในตอนนี้ หากรู้ว่าตนเองถูกมองว่าเป็นคนจะคิดหนีหนี้หนึ่งพันตำลึง จะต้องหน้าดำแน่

หากก่อนหน้านี้ลั่วเสี่ยวปิงยื่นข้อเสนอนี้ ฉีเทียนเห้าจะต้องปฏิเสธแน่ ยังไงเขาก็วางแผนหลังจากอาการบาดเจ็บหายดีแล้วก็จะจากไป สอนอานอานไม่ได้

แต่ตอนนี้ ในเมื่อมีความคิดที่จะอยู่ต่อ ฉีเทียนเห้าก็ไม่มีเหตุผลปฏิเสธ

ที่สำคัญเขามองดูเด็กอานอานคนนั้นแล้วก็รู้สึกชอบ เป็นครูสอนให้เขาได้อย่างไม่คิดปฏิเสธ

อย่างมากรอเมื่อถึงตอนที่เขาจากไป ค่อยหาครูที่ดีหน่อยสักคนก็ได้

ดังนั้น ฉีเทียนเห้าจึงพยักหัวตอบตกลง

เห็นฉีเทียนเห้าตอบตกลง ลั่วเสี่ยวปิงดีใจอย่างมาก หยิบเอายาทาที่ท่านซุนให้นางออกมายื่นให้ฉีเทียนเห้า

“เห็นแก่ที่เจ้ายองตกลงสอนลูกของข้า ยาทาลบรอยแผลเป็นนี้ ข้าให้เจ้า”

ยังไงนางรับยาลบรอยแผลเป็นของท่านซุนมาก็เพื่อปกปิด ลบรอยแผลเป็นความจริงนางไม่ได้ใช้

ส่วนใบหน้าของฉีเทียนเห้า หากเสียหายไปจะเป็นการสูญเสียสิ่งล้ำค่า เอายาลบรอยแผลเป็นให้เขา ก็เป็นการได้ใช้อย่างเป็นประโยชน์

ฉีเทียนเห้าเอื้อมมือไปรับยาลบรอยแผลเป็นในมือลั่วเสี่ยวปิงมา เมื่อเห็นสัญลักษณ์บนกล่องยา ท่าทีนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

ยาที่หมอเทวดามู่หยางทำด้วยตนเอง? ผู้หญิงคนนี้มีสิ่งของของเขาได้ยังไง?

หรือว่านางเกี่ยวข้องอะไรกับหมอเทวดามู่หยาง?

เพิ่งคิดเช่นนี้ ฉีเทียนเห้าก็ปฏิเสธความคิดนี้ของตนเองอีกครั้ง

ถือยาลบรอยแผลเป็นไว้ แล้วฉีเทียนเห้าหันไปมองลั่วเสี่ยวปิง สายตามองไปที่รอยแผลเป็นบนใบหน้าลั่วเสี่ยวปิง

ในใจมีความรู้สึกประหลาด

ผู้หญิงคนนี้มียาลบรอยแผลเป็นของมู่หยาง แล้วทำไมไม่ใช้?

คิดแล้ว ความสนใจของฉีเทียนเห้าก็มองไปที่ใบหน้าลั่วเสี่ยวปิง ไม่นานก็มีคำตอบให้กับตนเอง

พูดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็หยิบโถเยี่ยวบนเตียงออกมา

คนเรามีเรื่องจำเป็นสามอย่าง นางพูดว่าห้องน้ำ ถือว่าสุภาพอย่างที่สุดแล้วไหม?

ฉีเทียนเห้าฟังลั่วเสี่ยวปิงพูดแล้วก็ยิ่งอับอาย และค่อนข้างโกรธเคือง

รับโถเยี่ยวมาจากมือลั่วเสี่ยวปิงอย่างทุลักทุเล แล้วฉีเทียนเห้าก็ไล่คน เพียงแต่มือที่ถือโถเยี่ยวนั้นร้อนผ่าวอย่างมาก

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นฉีเทียนเห้าไม่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ จึงไม่อยู่ในห้องนาน นางกลัวว่าหากตนเองทำให้ฉีเทียนเห้าโกรธขึ้นมาจริงๆ นางจะรับไม่ไหว

……

ฟ้าเริ่มมืดค่ำ ไม่มีชาวบ้านเอาเห็ดหรือเมล็ดสนมาส่งอีกแล้ว

จางเฉินซื่อกับจางต้าหลางและเอ้อหลาง ในที่สุดก็สามารถแยกเห็ดทั้งหมดเสร็จก่อนค่ำ เวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงทำเค้กพายไข่หอมกรุ่นโชยมาถึงในลาน

จางเฉินซื่อสามคนแม่ลูกได้กลิ่นหอมนี้ จู่ๆก็รู้สึกหิวขึ้นมาอย่างรุนแรง

“เสี่ยวปิง เจ้ามีฝีมือในการทำกับข้าวถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” จางเฉินซื่อถามลั่วเสี่ยวปิง กลิ่นหอมนี้ ทำให้รู้สึกหิวท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด

ลั่วเสี่ยวปิงเตรียมเค้กพายไข่ไว้สำหรับพวกจางเฉินซื่อแต่แรกแล้ว แม้แต่จางซิ่งฮวาที่รีบกลับบ้านไปทำงานเย็บปักก็คิดถึงแล้ว

ได้ยินจางเฉินซื่อถามเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงยกเค้กพายไข่ที่เตรียมไว้ให้พวกเขาออกมา ยื่นให้กับจางเฉินซื่อ พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็พอมีเงินบ้างแล้วจึงฝึกทำไปเรื่อยไง? ถือว่าฝึกได้ฝีมือมาบ้างแล้ว”

จางเฉินซื่อไม่รับเค้กพายไข่ เพียงยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “นั่นเป็นเพราะเสี่ยวปิงอัฉริยะ คนอื่นฝึกทำก็ทำไม่ได้”

จางเฉินซื่อผลักตะกร้าใส่เค้กพายไข่ พร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งของล้ำค่าขนาดนี้ เจ้าเก็บไว้ให้อานอานเล่อเล่อกินเถอะ ให้ข้าเอากลับไปแล้วจะเป็นการสิ้นเปลืองสิ่งของดีของเจ้า”

ลั่วเสี่ยวปิงฟังแล้วก็พูดขึ้นว่า “สิ้นเปลืองสิ่งของดีอะไร สิ่งของนี้ทำมาให้คนกิน ของอานอานเล่อเล่อยังมีอยู่ ป้ารับไว้ ต่อไปก็ไม่ต้องเกรงใจข้าขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะเจ้า เราสามแม่ลูกจะมีวันนี้หรือ?”

ลั่วเสี่ยวปิง พูดพร้อมกับเอาตะกร้ายื่นให้กับจางเฉินซื่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง