ซ่งฉงปิงกล่าวพลางมองหลัวเจิ้งหยางด้วยสายตาเย็นชา
กล่าวตามจริง หากไม่คิดว่าจัดการหลัวเจิ้งหยางตอนนี้จะนำความยุ่งยากมาให้เสด็จพ่อ นางจะไม่ห้ามฉีเทียนเห้าสั่งสอนหลัวเจิ้งหยางเด็ดขาด
อย่าว่าแต่ห้ามเลย นางยังจะทำให้เขาได้เห็นดีด้วย
คราวนี้หลัวเจิ้งหยางกลับได้ยินวาจาของซ่งฉงปิงชัดแจ้งแล้ว
ข้า เสด็จพ่อ?
หรือว่า...
หลัวเจิ้งหยางหันไปมองทางซ่งฉงปิงด้วยความเหลือเชื่อ
แต่ซ่งฉงปิงในเวลานี้ยังคงถูกฉีเทียนเห้าบังไว้เหมือนเดิม ดังนั้นหลัวเจิ้งหยางจึงมองไม่เห็นนาง
แต่ถึงจะมองไม่เห็น หลัวเจิ้งหยางก็พอมั่นใจเรื่องหนึ่งได้แล้ว
นั่นก็คือ เขาตายแน่
ตายแน่ ตายแน่ๆ
ใครจะไปคิดกันว่านางคนสวยที่เจอกลางถนนจะหาใช่ใครอื่น แต่กลับเป็นองค์หญิงเตี้ยนเซี่ยในตอนนี้
เป็นองค์หญิงใหญ่เฉยๆ ยังพอว่า แต่ยังมีอีกฐานะหนึ่ง นั่นก็คือพระชายาของอ๋องเซ่อเจิ้งด้วย
แต่ ไหนว่าองค์หญิงใหญ่เกิดและเติบใหญ่ที่บ้านนอกอย่างไรเล่า?
ไหนว่าองค์หญิงใหญ่มีลูกแล้วสองคนอย่างไร?
ไหนว่าองค์หญิงใหญ่เป็นสาวทึนทึกอายุยี่สิบกว่าแล้ว?
ด้วยข่าวลือเหล่านี้ หลังจากมาเหมืองหลวง เขาจึงไม่มีความสนใจองค์หญิงใหญ่สักนิด
แต่ผู้ใดสามารถบอกเขาได้บ้าง โลกใบนี้กลายเป็นความเพ้อฝันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ผู้ใดบอกเขาได้บ้าง ว่าทำไมองค์หญิงใหญ่ไม่เพียงแต่ไม่มีความหยาบกระด้างอย่างหญิงบ้านนอก ทั้งยังไม่เหมือนผ่านการมีลูก แต่กลับดูอ่อนเยาว์และมีบุคลิกที่ต่างจากคนอื่นขนาดนั้น?
ถ้าเขารู้แต่แรก จะถึงกับรนหาที่ตายหรือ?
หลัวเจิ้งหยางหันไปมองฝูงชนที่รายล้อมอยู่ตามสัญชาตญาณ
หลัวเจิ้งหยาง “...” ทำไมรู้สึกว่าสายตาที่คนพวกนี้มองเขามันเหมือนกับกำลังมองคนโง่อยู่เลยล่ะ?
ตอนนี้เอง หลัวเจิ้งหยางแทบตกใจจนโง่งมไปแล้ว
เมื่อครู่ยังพอต่อต้านและแย่งภรรยากับฉีเทียนเห้าเพราะไม่ทราบได้
แต่ตอนนี้ แม้แต่ความกล้าที่จะมองอีกฝ่ายก็ยังไม่มีเลย
ทำอย่างไรได้?
ใครใช้ให้เขาจะแย่งภรรยา ภรรยาของฉีเทียนเห้าให้ได้ล่ะ?
เขาเคยได้ยินชื่อเสียงความโหดของอ๋องเซ่อเจิ้ง
หากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ล่วงเกินเขา บางทีหลัวเจิ้งหยางยังอาจไม่กลัว
แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่ล่วงเกิน ทั้งยัง...ล่วงเกินหนักอีก
หลัวเจิ้งหยางแทบอยากร่ำไห้ปราศจากน้ำตาแล้ว
แต่ไม่ว่าหลัวเจิ้งหยางอยากร่ำไห้ปราศจากน้ำตาอย่างไร สุดท้ายก็ยังถูกนำตัวเข้าวังหลวงอยู่ดี
แต่ก่อนที่หลัวเจิ้งหยางจะถูกนำตัวเข้าเมืองหลวง ฮ่องเต้หย่งคังซ่งหยุนดาก็ทราบข่าวแล้ว
ซ่งหยุนดาโมโหสุดขีด
โมโหจนจะสบถคำหยาบแล้ว
นี่มันอะไร? กล้าแย่งร้านค้าบุตรีของเขา แล้วยังจะกล้าแย่งของของบุตรีเขาอีก?
บอกว่าของของบุตรีเขาก็คือของของเขาอะไร หลัวเจิ้งหยางเจ้าเด็กเปรตนั่นก็คู่ควรหรือ? เขาก็คู่ควรด้วยหรือ?
ขนาดกับฉีเทียนเห้าเจ้าเด็กนั่นยังไม่กล้าพูดด้วยเลย ใครให้ความกล้ากับเขากัน?
ซ่งหยุนดาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมน เผยความน่าเกรงขามออกมาจนหมด ท่าทางพิโรธหนัก พลอยให้คนที่รับใช้อยู่ข้างกายต้องลำบากไปด้วย
บรรดาคนที่รับใช้มีคนเก่าคนแก่จากจวนอ๋องอวี้ และมีคนที่เดิมก็อยู่ในวังหลวง
ถึงฮ่องเต้องค์ใหม่จะขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน แต่ทุกคนก็ตระหนักดีว่าฮ่องเต้หย่งคังในเวลานี้ไม่เหมือนกับฮ่องเต้หย่งเฉิงความน่าเกรงขามบนตัวนั้นฮ่องเต้หย่งเฉิงเทียบไม่ติดฝุ่นเลย
ดังนั้นขณะที่ซ่งหยุนดาโกรธ ใครก็รับไม่ไหว
ดีที่ซ่งหยุนดามีบัญชา “เด็กๆ เรียกไอ้แก่หลัวหงนั่นเข้าวังมา ข้าจะดูสิว่าเขาสั่งสอนลูกอย่างไร”
เมื่อหลัวหงเห็นหลี่กงกงรับตั๋วเงินที่ตนมอบให้ก็โล่งอก
จากนั้นก็ได้ยินหลี่กงกงกล่าวเพียง “ข้าน้อยมิใช่คนปรนนิบัติฝ่าบาทอย่างใกล้ชิด ข้าน้อยจึงไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านโหวเย๋เชิญเถอะ...”
หลี่กงกงกล่าวพร้อมกับทำท่าเชื้อเชิญ
หลัวหง “...”
หลัวหงถลึงตามองหลี่กงกง สีหน้ายอดแย่ ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร แทบอยากสับหลี่กงกงเสียเดี๋ยวนี้
ไม่ทราบ?
ไม่รู้แล้วทำไมไม่รีบบอก?
ไม่รู้แล้วยังจะรับตั๋วเงินเขาอีก?
หลี่กงกงอยู่ในวังนานหลายปี ย่อมรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่ส่งมาจากหลัวหง
หลี่กงกงตกใจจนเหงื่อกาฬซึมหลัง
เพราะไม่มีผู้ใดยินดีถูกคุกคามเอาชีวิต
แต่เขาจะทำอย่างไรได้?
ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยรับสั่งไว้ หากมีคนของจวนอู่หมิงโหวต้องการติดสินบน ก็ให้เขารับเอาไว้ จากนั้นก็ปิดปากสนิท ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
ถึงจะรู้สึกว่าการทำเช่นนี้จะใจดำไปหน่อย แต่หากให้เขาเลือกใหม่ เขาก็ยังจะเลือกไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ไม่ใช่อู่หมิงโหวผู้นี้
นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ?
หลี่กงกงคิด จากนั้นก็ปล่อยให้เหงื่อตรงแผ่นหลังไหลเป็นทาง ทว่าว่าใบหน้ากลับแทบจะเป็นปกติ
อยู่ในวังหลวงมานาน ความสามารถในการรับกับความกดดันมิได้ฝึกมาเสียเปล่า
สำหรับหลัวหง ไม่ว่าเขาอยากจัดการหลี่กงกงอย่างไร เขาก็ไม่ใช่คนโง่งม หากเขากล้าทำอะไรคนของฮ่องเต้ในเมืองหลวง รับรองเลยว่าเขาต้องออกจากเมืองหลวงไม่ได้ในเสี้ยววินาทีแน่
ดังนั้นถึงหลัวหงจะรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก แต่ก็ยังสูดลมหายใจเข้าลึก เก็บกดความเดือดดาลไว้ในใจ
สะบัดแขนเสื้อ เดินออกไปที่ประตู
เอาแต่คิดในใจว่าด้วยความสามารถในการทำงานขององครักษ์ลับของตน น่าจะส่งข่าวมาทันก่อนที่ตนจะเข้าวังได้ ก่อนที่จะเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้ขอเพียงทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เช่นนั้นเขาก็ยังคิดหาวิธีรับมือได้ทันกาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...