แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 798

"เด็กมาจากไหน?" ฉีเทียนเห้าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังเด็กที่ยึดที่นอนของเขาอยู่

ถึงแม้ว่าฉีเทียนเห้าจะไม่ได้เกลียดชังเด็ก แต่ว่า ไม่ชอบให้มีคนมาแย่งภรรยาของเขาไป ต่อให้เป็นลูกของตนเองก็ตาม

ตามปกติแล้ว อานอานกับเล่อเล่อมักต้องการอยู่ด้วยกันกับแม่ของตนให้นานๆ แต่กลับถูกฉีเทียนเห้าไล่ออกไปด้วยเหตุผลต่างๆ นานา

ตอนนี้การอยู่ด้วยกันโดยไม่ถูกรบกวนก็ไม่ง่ายเลย นี่ยังมีเด็กโผล่มาจากไหนอีกคนหนึ่ง?

ในน้ำเสียงของฉีเทียนเห้ามีความไม่พอใจโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

เดิมทีเซี่ยงเซี่ยงที่นั่งเล่นด้วยกันกับซ่งฉงปิงอยู่บนเตียง ก็ถูกฉีเทียนเห้าทำให้ตกใจกลัวจนคอหด และมุดเข้าไปในอ้อมแขนของซ่งฉงปิงทันที

ฉีเทียนเห้า : "......"

สีหย้าเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น

แต่ทว่า เมื่อฉีเทียนเห้ากำลังแสดงความไม่พอใจของตนเอง ซ่งฉงปิงก็จ้องถมึงทึงเข้ามาด้วยดวงตาราวกับคมมีด

"เจ้าอย่าทำให้เด็กตกใจกลัวสิ"

ฉีเทียนเห้า : "......" ภรรยาถูกยึดครองโดยเด็กที่ปรากฏตัวอย่างลึกลับ เขากลับไม่มีพื้นที่ที่จะบรรยายความไม่เป็นธรรมเลย แล้วก็ถูกภรรยาดุเอาด้วย

ฉีเทียนเห้ารู้สึกว่า ในใจกลุ้มจนจะแย่

ฉะนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น คำว่า'ไม่มีความสุข'ปรากฏบนใบหน้าอย่างชัดเจน

ซ่งฉงปิง : "......"

คนที่รู้จักฉีเทียนเห้ามากที่สุด ก็คือซ่งฉงปิง

เห็นฉีเทียนเห้าเป็นเช่นนี้ ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และอธิบายว่า "วันนี้เด็กคนนี้เกือบถูกคนลักพาตัวไป ข้าพบเห็นจึงพากลับมาด้วย"

ฉีเทียนเห้า : "ให้นางออกไป"

ปิงเอ๋อร์เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา จะพาเด็กกลับมาเขาไม่ได้คัดค้าน

แต่ว่า หากเด็กคนนี้ต้องการจะครอบครองปิงเอ๋อร์มันเป็นไปไม่ได้

ปิงเอ๋อร์ ต้องเป็นของเขาเท่านั้น

ฉีเทียนเห้าแสดงความเป็นเจ้าของมากจนเกินไป

เซี่ยงเซี่ยงเหมือนกับว่าเข้าใจคำพูดของฉีเทียนเห้า ทันใดนั้น ก็จับเสื้อของซ่งฉงปิงเอาไว้และร้องไห้ขึ้นมา

"ไม่เอา......ไม่อยากแยกจากพี่สาวไป ท่านลุงใจร้าย อย่านะท่านลุง....."

เสียงร้องไห้ของเด็กสองขวบครึ่งค่อนข้างทะลุทะลวง เมื่อร้องไห้ขึ้นมาก็รู้สึกเสียงดังอึกทึก และอดไม่ได้ที่ต้องการจะปิดหู

แต่ว่า ความสนใจของฉีเทียนเห้ากลับไม่ได้อยู่ที่เสียงร้องไห้ แต่เป็นคำพูดของเซี่ยงเซี่ยง

พี่สาว?

ท่านลุง?

นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาต่างวัยกันกับปิงเอ๋อร์หรอกหรือ?

เขาแก่ขนาดนั้นเลยหรือ?

ใบหน้าของฉีเทียนเห้ามืดมนลงอย่างมาก

ซ่งฉงปิงรู้สึกจนใจเล็กน้อยกับการเรียกชื่อของเซี่ยงเซี่ยง

แต่ว่า แต่เด็กที่น่ารักเช่นนี้ร้องไห้ นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร

เมื่อก่อนนางไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อเด็กๆ แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักน่าเอ็นดู หัวใจก็อ่อนโยนลงมาทันที

ดังนั้น ซ่งฉงปิงจึงโอบกอดเซี่ยงเซี่ยง และตบๆ เบาๆ "เซี่ยงเซี่ยง เซี่ยงเซี่ยงไม่ร้องไห้นะ น้าจะไม่แยกจากเซี่ยงเซี่ยงไปไหน ท่านลุงเพียงแค่พูดล้อเล่นกับเซี่ยงเซี่ยงเท่านั้น"

เพียงแต่ว่า เซี่ยงเซี่ยงเด็กคนนี้บางทีอาจจะเผชิญกับเรื่องที่เกือบจะถูกลักพาตัวเอาไปขาย จึงรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นพิเศษ

ถึงแม้ว่าซ่งฉงปิงจะเกลี้ยกล่อมแล้ว เซี่ยงเซี่ยงก็ไม่ได้คิดที่จะหยุดร้องไห้เลย

ไม่นานเด็กน้อยก็ร้องไห้จนสะอึก ทำให้ดูน่าสงสารอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนใบหน้าขาวผ่องนั้น เปื้อนไปด้วยน้ำตาก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกเอ็นดู

เห็นถึงสถานการณ์นี้ ซ่งฉงปิงทำได้เพียงปฏิบัติต่อฉีเทียนเห้าอย่างไม่เป็นธรรม "เจ้าออกไปก่อน"

ฉีเทียนเห้าคาดไม่ถึง ว่าจะเป็นตนเองที่ถูกขับไล่ออกไป เวลานี้เขามองซ่งฉงปิงด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

ตอนนี้ ไม่ควรจะเป็นเด็กคนนี้ที่ร้องไห้จนน่าปวดหัวต้องออกไปหรอกหรือ?

"เจ้าออกไปก่อน" ซ่งฉงปิงกล่าวอีกครั้ง

ภรรยาพูดถึงสองครั้ง ฉีเทียนเห้าจะทำอะไรได้อีก?

แน่นอนว่าต้องฟังคำพูดของภรรยา

เพียงแต่ว่า ท่านอ๋องเทพสงครามผู้สง่าผ่าเผย เวลานี้เดินอย่างอาลัยอาวรณ์ด้วยใบหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ มองดูน่าสงสารและดูเหงาหงอย ดูไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของเขาเลย

ด้วยเหตุฉะนี้ เนื่องจากฉีเทียนเห้าคิดว่าซ่งฉงปิงจะเรียกตนเองให้หยุด และเปลี่ยนใจ

แต่ว่า อย่าพูดถึงว่าซ่งฉงปิงเรียกฉีเทียนเห้าให้หยุดเลย แม้แต่สายตาก็ไม่ได้มองมาที่เขาเลย ยังคงตั้งใจเกลี้ยกล่อมเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดคนนั้น

อย่างไรเสียก็เป็นคู่เคียงเรียงหมอนกัน ซ่งฉงปิงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฉีเทียนเห้าคิดอะไรอยู่?

แต่ว่า ซ่งฉงปิงทำเป็นไม่รู้ กลั้นหัวเราะแล้วกล่าวว่า "อืม ก็ได้"

ฉีเทียนเห้าได้ยินเช่นนั้น ก็โล่งอกทันที

ฉับพลันก็ตะโกนเรียกไปทางหน้าประตู "ไป๋เสา"

ไป๋เสาที่รออยู่ที่หน้าประตูเมื่อถูกฉีเทียนเห้าเรียกจึงเดินเข้ามา หลังจากที่กล่าวทักทายกับซ่งฉงปิงแล้ว จึงอุ้มเซี่ยงเซี่ยงเดินออกไปด้านนอก

"แม่——ท่านแม่——"

เวลานี้ เซี่ยงเซี่ยงที่หลับอยู่ก็ตะโกนร้องออกมา แต่กลับไม่ตื่น เห็นได้ชัดว่าละเมออยู่

ได้ยินเซี่ยงเซี่ยงร้องเรียกท่านแม่ ซ่งฉงปิงก็รู้สึกเจ็บปวดใจ

ในบทบาทของความเป็นแม่ จะเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้ง่าย และเห็นใจลูกของคนอื่นได้ง่ายเช่นกัน

เพียงแต่ว่า เซี่ยงเซี่ยงร้องตะโกนออกมาแล้วก็หลับไป ซ่งฉงปิงก็ไม่ได้ปล่อยให้ไป๋เสารั้งเซี่ยงเซี่ยงอยู่ต่อ

รอไป๋เสากับเซี่ยงเซี่ยงออกไปแล้ว ซ่งฉงปิงก็มองไปที่ฉีเทียนเห้า ทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

ฉีเทียนเห้าถูกซ่งฉงปิงมองมา ก็ไม่ได้รู้สึกเขินอาย เพียงแค่กล่าวว่า "ข้าไม่ชอบให้ใครมาแย่งเจ้าไป"

ซ่งฉงปิงรู้สึกจนใจ "นั่นเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น"

เวลานี้ ฉีเทียนเห้าเดินเข้าไปข้างๆ ซ่งฉงปิง

ได้ยินเช่นนั้น ฉีเทียนเห้าก็นั่งลง นำซ่งฉงปิงมากอดไว้ในอ้อมแขน "เด็กก็ไม่ได้"

เมื่อพูดจบ ก็ไม่ต้องการฟังคำโต้แย้งของซ่งฉงปิงอีกต่อไป ฉีเทียนเห้าจึงปิดริมฝีปากของฉีเทียนเห้าเสีย

อันที่จริงแล้ว ถึงแม้ว่าฉีเทียนเห้าจะแสดงความเป็นเจ้าของอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเหมือนวันนี้

ด้วยเหตุเช่นนี้ เป็นเพราะว่าหลายวันมานี้ฉีเทียนเห้ารู้สึกไม่สบายใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้หลังจากแยกกับซ่งฉงปิงไป ความรู้สึกไม่สบายใจนั้นก็รุนแรงยิ่งขึ้น

บางทีเพื่อต้องการละทิ้งความไม่สบายใจนี้ไป จูบนี้ของฉีเทียนเห้าจึงลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง......

วันต่อมา ฉีเทียนเห้าไม่ได้ออกจากบ้าน

เพียงแต่ว่า ถึงแม้จะไม่ได้ออกจากบ้าน ฉีเทียนเห้าก็มีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงไปที่ห้องหนังสือ

ซ่งฉงปิงกับเซี่ยงเซี่ยงกำลังเล่นกันอยู่ในลานบ้าน เวลานี้ ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทดังอยู่ไม่ไกล.......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง