แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 800

ซ่งฉงปิงมองไปยังฉีเทียนเห้า "เจ้าต้องการจะไปแคว้นซีหรงหรือ?"

จดหมายนี้เป็นซ่งหลิงหลิงที่เขียนมา บอกว่าในอีกสามเดือนนางกับองค์ชายสามของแคว้นซีหรงจะแต่งงานกัน ขอเชิญเสด็จอาและเสด็จอาสะใภ้มาเจ้าร่วมพิธีด้วย

เสด็จอากับเสด็จอาสะใภ้ที่ซ่งหลิงหลิงกล่าว แน่นอนว่าหมายถึงฉีเทียนเห้ากับซ่งฉงปิง

หากตามปกติแล้ว นี่ก็ไม่มีอะไร

แต่ว่าตอนนี้ ความสัมพันธ์ของซ่งฉงปิงกับซ่งหลิงหลิงค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

อย่างไรเสีย ถึงแม้ว่าซ่งหลิงหลิงกับซ่งฉงปิงจะมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกัน แต่ท่านพ่อของซ่งหลิงหลิง ก็คือซ่งหยุนจางฮ่องเต้หย่งเฉิง ตอนนี้ถูกกักขังอยู่ที่อารามหลวงเพื่อบำเพ็ญตนอยู่ ท่านพี่ของซ่งหลิงหลิงก็ถูกกักตัวอยู่ในเมืองหลวง บางคนถูกตัดศีรษะ และส่วนที่เหลือถูกส่งไปยังศักดินาเพื่อควบคุมตัว

ถึงแม้ว่าจะไม่ผิดที่จะทำอย่างนี้ แต่คนเหล่านั้นก็เป็นญาติพี่น้องของซ่งหลิงหลิง เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากของซ่งหลิงหลิงถ้าหากจะไม่รู้สึกขัดข้องหมองใจเลย

อีกอย่างหนึ่ง ต่อให้ซ่งหลิงหลิงไม่ถูกลิดรอนตำแหน่งองค์หญิงไป แต่ทว่า สำหรับซ่งหลิงหลิง ฐานะของนางยังคงน่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง

ภายใต้สถานการณ์นี้ ซ่งหลิงหลิงเชิญพวกเขาไปงานแต่งงาน ท้ายที่สุดแล้วมีความจริงใจมากน้อยแค่ไหนกัน?

ซ่งฉงปิงรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย

พูดตามตรง นางค่อนข้างชอบอุปนิสัยนั้นของซ่งหลิงหลิงจริงๆ

แต่ หากว่าทั้งสองคนโกรธกันเพราะว่าเปลี่ยนฮ่องเต้ เช่นนั้น......ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ซ่งฉงปิงก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

"อย่าคิดมากเลย ถ้าเจ้าไม่อยากไป เราก็ไม่ต้องไป ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเวลาอีกต้องสามเดือนนะ"

จากที่นี่ไปยังแคว้นซีหรง ถึงแม้จะเดินทางช้า เวลาหนึ่งเดือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว

และยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าฉีเทียนเห้าจะปฏิบัติดีต่อซ่งหลิงหลิงมาโดยตลอด และคิดว่าซ่งหลิงหลิงเป็นผู้อ่อนอาวุโสกว่า แต่สำหรับฉีเทียนเห้าแล้ว ไม่ว่าผู้ใด ก็ไม่สามารถเทียบได้กับซ่งฉงปิงทั้งนั้น

ฉะนั้น สำหรับฉีเทียนเห้า จึงไม่มีอะไรจะต้องกังวล

ที่ให้ซ่งฉงปิงดู ก็แค่อยากบอกเรื่องนี้ให้นางทราบก่อนก็เท่านั้น ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรมันไม่สำคัญ

ซ่งฉงปิงพยักหน้า และไม่ได้กล่าวอะไรอีก

ไม่นาน คนที่ฉีเทียนเห้าส่งออกไปก็กลับมา

เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำให้คนทั้งสองประหลาดใจก็คือ คนของฉีเทียนเห้า ไม่ได้สืบถามที่อยู่อาศัยของแม่มดกู่

เดิมทีแล้ว ถึงแม้ว่าแม่มดกู่จะเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหยุนจางหรือหนานเจียง แต่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าที่อยู่ของแม่มดกู่นั้นอยู่ที่ไหน

ตามคำบอกเล่าของประชาชนที่นี่ แม่มดกู่มักจะลึกลับมาก ปรากฏไม่เป็นเวลา และจากไปไม่เป็นเวลาเช่นกัน แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีใครรู้เลยว่าแม่มดกู่พักอยู่ที่ไหน

กระทั่ง สิ่งที่น่ามหัศจรรย์ไปยิ่งกว่านั้นคือ ไม่มีใครรู้ว่าแม่มดกู่อายุเท่าไหร่

บางคนก็บอกว่า แม่มดกู่มีอายุอย่างน้อยร้อยปี แต่จุดนี้ก็ไม่มีใครแน่ใจ

ข่าวสารเหล่านี้ ทำให้ซ่งฉงปิงรู้สึกแปลกใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในความคิดเห็นของนาง แม่มดกู่มีอายุเพียงแค่ 70-80 เท่านั้น

แน่นอนว่า สิ่งที่ซ่งฉงปิงให้ความสนใจยิ่งกว่าไม่ใช่อายุของแม่มดกู่

ในความคิดของนาง แม่มดกู่ยิ่งลึกลับ ก็ยิ่งค้นหาไม่เจอ นางก็ยิ่งไม่สบายใจ อยากที่จะหาแม่มดกู่ให้เจอ

และมักจะรู้สึกว่า การพบเจอกับแม่มดกู่จะต้องเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา

ในฉับพลัน ซ่งฉงปิงรู้สึกเสียดายในตอนที่ได้พบเจอกับแม่มดกู่ที่ตลาด ก็ไม่ได้เอ่ยถามให้กระจ่าง แต่ปล่อยให้แม่มดกู่เบี่ยงประเด็นนั้นออกไป

เพราะตามหาแม่มดกู่ไม่เจอ ซ่งฉงปิงจึงไร้ชีวิตชีวาไปหลายวัน

ฉีเทียนเห้าเห็นซ่งฉงปิงเป็นเช่นนี้ ก็กลัวว่าซ่งฉงปิงจะอึดอัดใจ จึงอนุญาตให้ซ่งฉงปิงออกไปเดินเล่นได้

และแน่นอนว่า ฉีเทียนเห้าต้องการตามไปด้วย

เพียงแต่ว่า เขายังคงไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของตนเอง แต่กลับเปลี่ยนเป็นองครักษ์ที่ดูทึ่มทื่อและเสียโฉมคนนั้น

เดิมทีแล้ว ซ่งฉงปิงต้องการพาเซี่ยงเซี่ยงออกไปด้วยกัน

อย่างไรเสีย เด็กสองขวบครึ่งมีใครบ้างที่จะไม่ชอบเที่ยวเล่น?

เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำให้ซ่งฉงปิงรู้สึกแปลกใจก็คือ ถึงแม้ว่าในแววตาเซี่ยงเซี่ยงจะเต็มไปด้วยความปรารถนา แต่ในท้ายที่สุดยังคงส่ายหัว แสดงให้เห็นว่าไม่ออกไป

ซ่งฉงปิงเห็นความผิดปกติเช่นนี้ของเซี่ยงเซี่ยง ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังฉีเทียนเห้า

เห็นได้ชัดว่า ซ่งฉงปิงสงสัยว่าฉีเทียนเห้ากำลังบีบบังคับเซี่ยงเซี่ยงอยู่

"เข้าไปเดินเล่นที่ร้านขายเครื่องประดับกันเถอะ" ฉีเทียนเห้ากล่าว

ปิงเอ๋อร์ไม่ชอบการเดินซื้อของมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่ ตามที่เล่าลือกันว่าแม้แต่ผู้หญิงที่ไม่ชอบเดินซื้อของ เมื่อได้เดินซื้อของแล้วก็จะรู้สึกมีความสุขเช่นกัน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็พาปิงเอ๋อร์ไปใช้เงินกันเถอะ

ซ่งฉงปิงเหลือบมองร้านขายเครื่องประดับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกปรารถนาเลย แต่ยังคงพยักหน้า

หากบอกว่า ด้านในร้านขายเครื่องประดับที่อื่นมีสิ่งของสวยงามมีค่า เงิน ทอง อัญมณีล้วนมีหมด หยกก็มีไม่ขาด แต่ร้านขายเครื่องประดับแห่งนี้กลับแตกต่างกันออกไป

เมื่อเดินเข้าไป สิ่งที่เห็น เป็นสีขาวทั้งหมด

ของที่วางอยู่ในตู้ ของที่แขวนอยู่บนผนัง ชุดที่พนักงานใส่และเถ้าแก่ใส่......

เวลานี้พวกเขาราวกับเดินเข้าไปในโลกสีขาว เงินที่ขาวเรืองทำให้ดวงตาของพวกเขารู้สึกพร่ามัว

เถ้าแก่เห็นว่าซ่งฉงปิงมีบุคลิกที่ดี เสื้อผ้าบนร่างกายก็เป็นวัสดุที่ค่อนข้างดี จึงเดินเข้าไปต้อนรับพร้อมกล่าวว่า : "ฮูหยินไม่ทราบว่าท่านต้องการสิ่งใดหรือ?"

"เอาของทุกชุดที่ดีที่สุดในร้านของพวกเจ้าออกมาดูหน่อย"

ไม่รอให้ซ่งฉงปิงเอ่ยปาก ฉีเทียนเห้าที่อยู่ข้างๆ ก็พูดออกมาก่อนเลย

เถ้าแก่ได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปทางฉีเทียนเห้า

เมื่อเห็นว่าบนใบหน้าของชายหนุ่มที่ดูซื่อๆ ตรงไปตรงมามีรอยแผล ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

ทำไมฮูหยินคนนี้ยังไม่ทันพูด หญิงรับใช้ข้างกายฮูหยินก็ยังไม่ทันได้พูด องครักษ์ผู้ซื่อๆ ตรงไปตรงคนนี้กลับเอ่ยปากเสียแล้ว?

นี่......

เถ้าแก่มองซ่งฉงปิงอย่างทำตัวไม่ถูก

อย่างไรเสียก็ไม่เคยเห็นองครักษ์คนไหนที่สามารถตัดสินใจแทนฮูหยินได้เลย

อีกทั้ง ในโอกาสนี้ องครักษ์มีสิทธิ์ที่จะพูดด้วยหรือ?

เถ้าแก่รู้สึกว่า องครักษ์ผู้นี้ตาไม่มีแววเลยจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง