แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 838

เมื่อซ่งฉงปิงเอ่ยออกมาว่า ‘เสด็จอา’ ซ่งหลิงหลิงกับฉีเทียนเห้าจึงหันไปมองซ่งฉงปิง ภายในห้องเงียบกริบ

ซ่งฉงปิง “.....” เกิดอะไรขึ้นหรือ

แววตาของนางสับสนมาก

“ฮ่าๆๆๆ!” ซ่งหลิงหลิงหัวเราะ

หัวเราะแบบที่เรียกว่าท้องคัดท้องแข็ง

“เสด็จอา! ฮ่าๆๆ ท่านพี่เรียกควรเรียกเขาว่าเสด็จอาจริงๆ ด้วย”

ซ่งหลิงหลิงขำ แต่สีหน้าของฉีเทียนเห้ากลับดำเหมือนก้นหม้อ

เขาสาวเท้ายาวๆ ไปข้างหน้าและดึงซ่งฉงปิงออกมาจากตรงหน้าซ่งหลิงหลิง กอดนางไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเต็มที่

ฉีเทียนเห้ามองซ่งหลิงหลิง “นางควรจะเรียกข้าว่าอย่างไรนะ”

น้ำเสียงอันเย็นชานั้นแฝงไปด้วยการคุกคาม

เสียงหัวเราะของซ่งหลิงหลิงขาดหายไปอย่างฉับพลันราวกับถูกอุดลำคอ

“เสด็จ... ท่านพี่ควรเรียกท่านว่าสวามี!” ซ่งหลิงหลิงตระหนักดีถึงสภาพการณ์ตรงหน้า

ไม่มีทางเลือก หากเสด็จอาโกรธขึ้นมาจริงๆ คงจะน่ากลัวมาก

เมื่อเห็นว่าซ่งหลิงหลิงเข้าใจอะไรๆ ดี สีหน้าของฉีเทียนเห้าจึงผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก

แต่ถึงกระนั้น จัดการเรียบร้อยไปแล้วหนึ่งก็ยังต้องจัดการอีกหนึ่ง

เขาก้มลงหลุบตา

ฉีเทียนเห้ามองซ่งฉงปิง

“เจ้าว่า เจ้าควรเรียกข้าว่าอะไร”

กับซ่งหลิงหลิงแทนตัวว่า ‘ข้า (เปิ่นอ๋อง)’ กับซ่งฉงปิงแทนตัวว่า ‘ข้า (หว่อ)’ ปฏิบัติต่อทั้งคู่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

เมื่อซ่งฉงปิงพบกับสายตาที่อันตรายของฉีเทียนเห้า ความกลัวก็ฉายวาบขึ้นมาในดวงตา

“สามี...”

สองพี่น้องไม่ต่างกัน ซ่งฉงปิงเองก็ฉลาดรู้เรื่องการอ่านสถานการณ์เช่นกัน

เมื่อได้ยินซ่งฉงปิงเรียกเขาว่าสวามี สีหน้าของฉีเทียนเห้าจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย

แม้เขาจะรู้ ว่าในที่สุดนางจะลืมเขา

แต่อย่างน้อยก่อนที่นางจะลืมเขา เขาไม่อยากให้นางเรียกเขาว่าเสด็จอา

ใครจะเรียกเขาว่าเสด็จอาก็ได้ แต่นางเรียกไม่ได้

เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้านาง เขาไม่เคยคิดอยากจะเป็นคนที่แก่อาวุโสกว่านาง

แน่นอนว่ามันไม่เป็นไรที่ระหว่างทั้งสองคนจะมีการพูดหยอกกันสนุกเล็กๆ น้อยๆ

แต่ฉีเทียนเห้ารู้ดี ว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองคงไม่มีการหยอกล้อกันสนุกๆ เช่นนี้อีกต่อไป

แล้วหัวใจก็เจ็บขึ้นมาอีกครั้ง

ซ่งหลิงหลิงที่ถูกเพิกเฉยก้าวเข้ามาอย่างระมัดระวัง นางถามว่า “เสด็จอา ตอนนี้จะให้ข้ายืมท่านพี่ได้หรือยังเจ้าคะ”

ไม่มีทางอื่น เสด็จอาหวงก้างเกินไป

นางจะพาท่านพี่ของนางไปได้ก็ต่อเมื่อเสด็จอาของนางยินยอมเท่านั้น

ฉีเทียนเห้ามองซ่งหลิงหลิงด้วยแววตาที่สว่างเหมือนคบเพลิง

ความจริงในช่วงเวลาที่มีอยู่จำกัดเช่นนี้ ฉีเทียนเห้าอยากจะใช้เวลากับซ่งฉงปิงให้มากขึ้น

เพราะด้วยวิธีนี้เท่านั้น ที่จะทำให้นางลืมเขาช้าลง

แต่ทว่า...

“อืม...” ฉีเทียนเห้าพยักหน้า

แม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆ พยางค์เดียว แต่ก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างติดอยู่ที่ลำคอ ทำให้เสียงของเขาซึมเซาอย่างหาใดเปรียบ

ซ่งหลิงหลิงยินดีมาก นางก้าวไปจับมือของซ่งฉงปิงและพานางวิ่งออกไป “ท่านพี่ เร็วเถิด ที่นั่นอยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล เรารีบไปจะได้รีบกลับ”

ส่วนภายในห้อง มือของฉีเทียนเห้ายังคงนิ่งค้างในท่าที่กำลังโอบซ่งฉงปิงเหมือนเมื่อครู่นี้ และเวลานี้มือนั่นก็สั่นสะท้านเล็กน้อย

ฉีเทียนเห้ามองมือของเขาด้วยนัยน์ตาที่มืดมนลง

เมื่อเห็นซ่งหลิงหลิงมีท่าทางเช่นนี้ ซ่งฉงปิงจึงประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย

หลิงหลิงนิสัยดีมาก นางชอบ แต่... ถ้าหลิงหลิงจะเกลียดนาง... บอกตามตรงว่านางเข้าใจได้

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ซ่งหลิงหลิงก็เป็นองค์หญิง แม้ว่าฮ่องเต้พระองค์ก่อนจะปฏิบัติต่อนางไม่ดี ทั้งยังรับสั่งให้นางแต่งงานเพื่อเกี่ยวดองทางการเมือง แต่พระองค์ก็ยังเป็นเสด็จพ่อของนางอยู่ดี

ตอนนี้แม้ว่าซ่งหลิงหลิงจะยังเป็นองค์หญิงและเสด็จพ่อก็ไม่ได้ทำอะไรกับนาง แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่เหมือนเดิมอยู่ดี

ดังนั้นถ้าซ่งหลิงหลิงเกลียดนาง นางก็เข้าใจได้

เพียงแต่มันคงจะน่าเศร้าเล็กน้อย

“เหตุใดข้าจะต้องเกลียดท่านพี่ด้วยล่ะ” ซ่งหลิงหลิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้ม “ท่านพี่ไม่ได้ทำอะไรข้าเสียหน่อย นอกจากนี้เสด็จพ่อของข้าก็ไม่เป็นไรมิใช่หรือ”

ซ่งฉงปิงจ้องไปที่ดวงตาของซ่งหลิงหลิง พยายามดูว่านางเอ่ยออกมาอย่างจริงใจหรือว่าเสแสร้ง

แต่นางมองเห็นเพียงแค่ความจริงใจในสายตาของซ่งหลิงหลิง

ซ่งหลิงหลิงเห็นซ่งฉงปิงมองนางแบบนี้นางจึงจับมือของซ่งฉงปิงไว้ นางยิ้มและกล่าวว่า “ถ้าท่านพี่รู้สึกผิดกับข้า ท่านพี่แค่ช่วยหาวิธีทำให้ชาวบ้านเหล่านี้มีหนทางรอดก็พอ ท่านพี่คิดว่าเป็นอย่างไรเจ้าคะ”

ซ่งฉงปิงได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า “ได้สิ!”

ว่าแล้วซ่งฉงปิงจึงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ “สิ่งนี้ข้าเขียนตอนมีเวลาว่าง น่าจะมีประโยชน์สำหรับเจ้า”

ระหว่างทางที่มา นางเห็นสภาพของแคว้นซีหรงมามากมาย

ถ้าไม่ใช่ทะเลทรายรกร้างก็เป็นทุ่งหญ้า หรือไม่ก็เป็นภูเขาและแม่น้ำ

สถานที่ที่แตกต่างกันออกไปล้วนมีกฎแห่งการเอาตัวรอดที่ต่างกัน เหมือนกันตรงที่จะมีพืชผลที่ต่างออกไป

ตอนอยู่ในยุคปัจจุบัน นางพอจะมีความเข้าใจเรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง

ดังนั้นนางจึงเขียนความคิดของตัวเองลงไปตอนที่มีเวลาว่าง

ซ่งหลิงหลิงรับไปอ่าน ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“ท่านพี่ ขอบคุณจริงๆ เจ้าค่ะ! ถ้ามีสิ่งนี้ ประชาชนแคว้นซีหรงจะไม่ต้องลำบากอีกต่อไป” ซ่งหลิงหลิงกล่าวและกอดซ่งฉงปิงอย่างมีความสุข

เพียงแต่ในตอนที่ซ่งฉงปิงมองไม่เห็น ขอบตาของซ่งหลิงหลิงแดงระเรื่อขึ้นมา และแววตาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน

มีทั้งความรู้สึกผิด ความใจอ่อน และความโศกเศร้า...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง