ฉีเทียนเห้าใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีตรงไปทางแม่น้ำ
แต่ถึงกระนั้นก็ยังสายเกินไป
เขาทำได้เพียงมองซ่งฉงปิงตกลงไปท่ามกลางแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว มองเห็นแค่ว่านางกำลังขยับริมฝีปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา ดังนั้นเขาจึงมองไม่ชัด
ภายในหัวของเขาว่างเปล่า
เขารู้สึกแค่ว่าโลกของเขากำลังจะพังทลาย
เดิมทีเขาคิดว่าเขาใกล้ตายแล้ว และจะจากไปอย่างเงียบๆ
แต่เพราะเหตุใดเขาจึงต้องมาเห็นปิงเอ๋อร์ตกลงไปในแม่น้ำเช่นนี้
ทันใดนั้นฉีเทียนเห้าก็ไม่คิดอะไรอีกต่อไป
เขาเพียงแค่ทำตามหัวใจของตัวเอง ดังนั้นก่อนที่ซ่งฉงปิงจะจมลงไปในน้ำ ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันตอบสนองสิ่งใด เขาก็กระโดดลงไปในแม่น้ำนั้นแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแทบจะเป็นเรื่องชั่วประเดี๋ยวเดียว ดังนั้นจึงไม่มีใครตอบสนองได้ทันท่วงที
ไม่มีใครคิดว่าฉีเทียนเห้าจะกระโดดลงไป
ตอนที่พวกเขาวิ่งไปถึงริมแม่น้ำ ในแม่น้ำยังมีร่างของใครให้เห็นเสียที่ไหน
“เสด็จอา!” ซ่งหลิงหลิงท้อแท้ใจเป็นอย่างมาก
“นายท่าน!” ขอบตาของหนานเฉินกลายเป็นสีแดง
ไป๋เสาร้องห่มร้องไห้
ชั่วขณะนั้นที่ริมแม่น้ำไร้ซึ่งความปีติยินดี
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หนานเฉินจึงค่อยสงบลง
เขาสั่งองครักษ์ลับที่เหลือว่า “กวาดล้างพรรคพวกของอ๋องจั๋วให้ราบคาบ ส่งข่าวกลับไปที่ต้าชิ่ง”
ว่าแล้วหนานเฉินจึงหลับตาลง ในดวงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างล้ำลึก “คนอื่นที่เหลือตามข้ามา ตามหาเลียบไปตามแม่น้ำ ถ้าไม่เจอ เราจะไม่กลับต้าชิ่ง!”
“ถ้ามีชีวิตอยู่ก็ต้องพบ ถ้าตายแล้วก็ต้องเห็นศพ” หนานเฉินแทบจะเอ่ยคำเหล่านี้ลอดไรฟันออกมา
เมื่อหนานเฉินพูดจบ ขอบตาของเขาก็แดงก่ำ
ทันทีที่หมุนตัวกลับ น้ำตาก็ไหลรินออกมาจากหางตาของหนานเฉินอย่างเงียบเชียบ
“หนานเฉิน!” ไป๋เสาเรียกหนานเฉิน
หนานเฉินหยุด ทว่าไม่ได้หันกลับไป
ไป๋เสา “ข้าจะไปกับเจ้า”
ไป๋เสาเอ่ยพลางสะอึกสะอื้นเล็กน้อย
หนานเฉินได้ยินดังนั้นจึงหันกลับไปมองไป๋เสา “เจ้ากลับไปต้าชิ่ง”
คำพูดของหนานเฉินหนักแน่น
จวิ้นจู่น้อยและซื่อจื่อน้อยยังต้องการคนดูแล
ไป๋เสาได้ยินดังนั้นกลับยิ่งแน่วแน่ “ไม่! ข้าอยากจะออกตามหาองค์หญิงใหญ่กับเจ้า ถ้ายังมีชีวิตก็ต้องหาให้เจอ ต่อให้สิ้นชีวิตแล้วก็ต้องได้เห็นพระศพ”
สายตาที่มุ่งมั่นของไป๋เสาทำให้หนานเฉินปฏิเสธไม่ลง
ในที่สุดหนานเฉินจึงพาไป๋เสาไปด้วย
ในระหว่างนั้นหนานเฉินไม่ได้สนใจใครอื่นอีก
องครักษ์ลับที่ยังเหลืออยู่ร่วมมือกับทหารของแคว้นซีหรง ช่วยกันกำจัดพรรคพวกของอ๋องจั๋ว
ส่วนอ๋องจั๋วนั้นถูกวางยาพิษจนสิ้นชีพไปนานแล้ว
หลังจากจบสิ้นตรงนี้แล้ว เหล่าองครักษ์ลับที่เนื้อตัวปกคลุมไปด้วยเลือดก็ไม่พูดอะไรทั้งสิ้นและจากไปอย่างเงียบๆ
ในขณะนี้เอง ทันใดนั้นองครักษ์ลับสองคนก็ไปปรากฏตัวต่อหน้าซ่งหลิงหลิงและคุกเข่าต่อหน้านาง
“ทูลองค์หญิงหก ข้ากระหม่อมขออภัยที่ไม่สามารถปกป้องทั้งสองพระองค์ได้ ข้ากระหม่อมจะไปตามหาท่านอ๋อง อย่างน้อยก็ต้องนำกระดูกของท่านอ๋องกลับไปต้าชิ่งให้ได้”
ทั้งสองคนคืออั้นเอ้อกับอั้นซาน พวกเขาคอยสอดแนมอยู่ที่แคว้นซีหรงมาตลอด
หลังจากซ่งหลิงหลิงมาถึงแคว้นซีหรง ทั้งคู่ก็เริ่มรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของนาง
แต่พูดกันตามจริงแล้ว สุดท้ายนายท่านของพวกเขาก็คือฉีเทียนเห้า
ตอนนี้พวกเขาเฝ้ามองผู้เป็นนายตกลงไปในแม่น้ำกับตาของตัวเอง เวลานี้พวกเขาจึงอยู่ปกป้องซ่งหลิงหลิงไม่ได้อีกต่อไป
เวลานี้ในดวงตาของซ่งหลิงหลิงเต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้นางมองเห็นอั้นเอ้อกับอั้นซานได้ไม่ชัด
แต่นางก็ยังพยักหน้า “ตกลง พวกเจ้าไปเถิด!”
อั้นเอ้อกับอั้นซานโน้มศีรษะทำความเคารพ จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นอี้ฉู่จ้งจึงไล่ผู้คนออกไป และขุนนางสูงศักดิ์แห่งซีหรงก็จากไปกันหมด
บางสิ่งก็มีลิขิตเป็นของตัวเอง
แม้ว่าหลิงหลิงจะไม่ได้มีส่วนกับเรื่องนี้ ภัยพิบัตินี้ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยง
และหากมีส่วนในเรื่องนี้ บางทีภัยพิบัติอาจเปลี่ยนไปเป็นอีกอย่าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเหมือนกัน
ทันใดนั้นซ่งหลิงหลิงก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางเงยหน้ามองอู้เจิน “อู้เจิน ท่านช่วยท่านพี่ของข้าได้หรือไม่”
ซ่งหลิงหลิงรู้ว่าอู้เจินมีความสามารถอยู่บ้าง
อู้เจินได้ยินดังนั้นจึงส่ายหน้า “ถ้าหากข้าเข้าไปแทรกแซง หายนะก็จะบังเกิดและได้ไม่คุ้มเสีย ตอนนี้อาจจะถึงวาระแห่งภัย ปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีของมันเถิด”
““อมิตาภพุทธ...”
สามวันต่อมาจึงมีข่าวลือแพร่ออกมาจากเมืองหลวงของแคว้นซีหรง
กษัตริย์อี้ฉู่จ้งหายตัวไปพร้อมกับพระชายา
ในฐานะกษัตริย์ อี้ฉู่จ้งได้พระราชทานนามให้องค์ชายห้าแห่งซีหรง
เวลานี้ซ่งหลิงหลิงกับอู้เจินยืนอยู่ด้วยกันที่ริมแม่น้ำ คนหนึ่งสวมอาภรณ์สีแดง คนหนึ่งสวมอาภรณ์สีขาว
ซ่งหลิงหลิงหันกลับไปมองทางตัวเมืองและมองอู้เจิน “อู้เจิน ละทิ้งทรัพย์สมบัติเช่นนี้ ท่านไม่เสียใจทีหลังจริงๆ หรือ”
ซ่งหลิงหลิงไม่เคยเข้าใจว่าอำนาจนั้นสำคัญแค่ไหน
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนางจึงไม่รู้สึกอะไรเลย หลังจากที่เสด็จพ่อของนางลงจากตำแหน่ง
นางรู้แค่ว่าภายใต้อำนาจนั้นมีคนไร้ความปรานีอยู่มากมาย
พระราชวังเงียบเหงาเย็นชาอยู่เสมอ
แต่ถึงกระนั้นนางก็อยากรู้จริงๆ ว่าอู้เจินคิดอะไร
อู้เจินมองซ่งหลิงหลิง “ข้าเป็นพุทธศาสนิกชน เพราะมีความสัมพันธ์กับท่าน ข้าจึงเข้าสู่โลกแห่งฆราวาส เรื่องอื่นนั้นเกี่ยวกับข้าตรงไหน”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซ่งหลิงหลิงได้ยินประโยคนี้ หลังจากฟังแล้ว ซ่งหลิงหลิงจึงหัวเราะ
เพียงแต่เมื่อมองไปยังแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ซ่งหลิงหลิงรู้สึกหมดอาลัย “อู้เจิน ข้าจะได้พบกับท่านพี่อีกหรือไม่”
อู้เจิน “หากมีคราวได้พบ ย่อมได้พบกันอีก หากไม่มีคราวได้พบ คงไม่ได้พบกันแล้ว”
ซ่งหลิงหลิงไม่เข้าใจ
แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังหันไปอธิษฐานกับแม่น้ำ ‘ขอให้ท่านพี่ปลอดภัย!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...