ที่ฝ่ามือรู้สึกเจ็บแปลบ ซูชิงลั่วไม่สนใจสิ่งเหล่านี้และรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เกือบจะในทันที ประตูก็ถูกลงกลอนจากด้านนอก
นางกัดฟันและทุบประตูอย่างแรง พร้อมกับตะโกน แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับ
นางพิงกำแพงและตรวจสอบสถานการณ์ภายในห้องอย่างระมัดระวัง
ห้องนี้หันไปทางเหนือ อากาศเย็นและชื้น ในกลิ่นหอมแปลกๆ นั้นผสมผสานไปกับกลิ่นเชื้อรา ไม่เหมือนห้องที่ใช้รับรองแขกปกติ
องค์หญิงอวี้หยางเป็นคนทำร้ายนางหรือ? ทำไมล่ะ? นางไม่เคยพบองค์หญิงอวี้หยางมาก่อนเลยนะ
หรือบางที อาจมีคนแอบอ้างชื่อองค์หญิงอวี้หยางมาทำร้ายนางก็ได้
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะหนีออกไปได้อย่างไร
ซูชิงลั่วรีบเดินไปที่หน้าต่างบานหนึ่งและพยายามผลักออก อย่างที่คิด หน้าต่างถูกตอกปิดตายไว้
ยังมีอีกบานหนึ่ง
นางวิ่งไปที่หน้าต่างบานนั้นพร้อมกับความหวังสุดท้าย ปรากฏว่ามันสามารถเปิดได้!
แต่ทันทีที่เปิดออก นางก็ต้องสิ้นหวังอีกครั้ง เพราะข้างล่างหน้าต่างเป็นหน้าผา แม้จะไม่ลึกจนมองไม่เห็นก้น แต่ถ้ากระโดดลงไปก็คงต้องตายแน่ๆ
สิ่งที่ทำให้นางหวาดกลัวยิ่งขึ้น คือร่างกายของนางเริ่มรู้สึกไม่ปกติ นอกจากร่างกายจะเริ่มร้อนขึ้นแล้ว ขาทั้งสองข้างก็เริ่มอ่อนแรงลงด้วย
ในตอนนั้นเอง นางได้ยินเสียงพูดคุยมาจากข้างนอก
แม่ชีเด็กคนเมื่อครู่กล่าวว่า "ต้องระวังให้ดี"
เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นอย่างกะล่อนว่า "วางใจได้ ข้าไม่เคยพลาด รอแค่ให้เรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์..."
ในที่สุดซูชิงลั่วก็เข้าใจแล้วว่าในห้องนี้วางยาอะไรไว้ นางเหงื่อแตกไปทั่วร่าง กัดฟันดึงปิ่นปักผมออกจากศีรษะแล้วแทงเข้าที่แขนตัวเองอย่างแรง
จะต้องหนีออกไปให้ได้ มิฉะนั้นชีวิตนี้ของนางคงต้องพังทลายลงแน่
ที่ประตูมีเสียงกลอนที่ค่อยๆ ถูกคลายออกดังขึ้น
ซูชิงลั่วถอดกระโปรงชั้นนอกออกแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง กระโปรงสีเหลืองอ่อนนั้นไปติดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ข้างล่าง ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน
จากนั้นนางก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดพยุงตัวออกไปทางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว เอาเท้าแตะลงบนผนังดินที่นุ่มตัวใต้หน้าต่างอย่างช้าๆ เลื่อนไปทางข้างหน้าต่าง ซ่อนตัวอยู่ใต้เงาไม้ใหญ่ราวกับลูกแมว
เวลานี้เองชายคนนั้นก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวว่า "ที่ทำให้คุณหนูต้องรอนาน เป็นความผิดของข้าเอง"
เขาหยุดชะงักไป "คนหายไปไหน?"
"คุณหนูน้อย เจ้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?" เขายกม่านเตียงขึ้น
"ข้าเห็นเจ้าแล้ว อยู่ตรงนี้เอง!" เขาสอดตัวเข้าไปดูใต้เตียง
ห้องก็มีอยู่เท่านี้ คนเป็นๆ ทั้งคนจะหายตัวไปได้อย่างไร?
สีหน้าชายผู้นั้นเคร่งขรึม ดันหน้าต่างเปิดออกอย่างแรง
หัวใจของซูชิงลั่วเต้นรัว นางจับขอบหน้าต่างไว้แน่น จนรู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายนิ้ว แต่ก็ไม่กล้าขยับตัว
เมื่อชายคนนั้นเห็นกระโปรงสีเหลืองอ่อนที่ต้นไม้ จึงโกรธอย่างโมโหว่า "แม่ชีเด็กนี่ทำงานประสาอะไร คนกระโดดหน้าต่างหนีไปแล้ว!"
พูดจบก็วิ่งออกไปอย่างโกรธจัด
ซูชิงลั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรวบรวมกำลังที่จะลุกขึ้น แต่แผ่นหลังกลับถูกหนามอะไรบางอย่างเกี่ยวจนเป็นแผล ความเจ็บปวดแปลบก็พุ่งเข้ามาทันที
หน้าผากนางชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าภายในห้องอีกครั้ง นางจึงรีบก้มตัวซ่อนเป็นแมวอีกครั้ง
เมื่อแม่ชีเด็กคนนั้นเห็นกระโปรงตัวนั้นก็รู้สึกหงุดหงิด "ข้าไม่คิดว่านางจะกระโดดหน้าต่างหนีไป นางช่างเป็นหญิงบริสุทธิ์ที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวจริงๆ เอาอย่างนี้ เจ้าพาคนลงไปหานางก่อน แม้ว่าจะตายแล้ว หากเจอศพนางก็ยังได้รับรางวัล"
"รางวัลแค่นั้นจะเทียบกับสินเดิมมูลค่าสามแสนตำลึงได้อย่างไร?" ชายคนนั้นหัวเราะเยาะและลุกขึ้นออกไปด้วยความโกรธ
ซูชิงลั่วกลัวว่าพวกเขาจะกลับมาอีก จึงรออยู่สักครู่จนแน่ใจว่าพวกเขาไปหมดแล้วจึงลุกขึ้นอีกครั้ง
เหงื่อที่ออกท่วมหลัง เมื่อซึมเข้าไปในบาดแผลยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
แต่นางไม่มีเวลาสนใจสิ่งเหล่านี้ ใช้แรงทั้งหมดปีนขึ้นไปบนหน้าต่าง
นางแทบไม่มีแรงแล้ว แถมในห้องก็ยังมีกลิ่นหอมแปลกๆ ลอยออกมาอีก นางเกือบจะล้มลงเพราะขาอ่อนแรง แต่รีบจับขอบหน้าต่างเอาไว้แน่น
ดินใต้เท้าค่อยๆ ร่วงลงไป ตกกระทบลงไปบนกระโปรงสีเหลืองอ่อนที่อยู่ด้านล่างอย่างแรง
ท้องฟ้าเริ่มมืด กระโปรงสีเหลืองอ่อนตัวนั้นดูไม่เด่นชัดเหมือนก่อนหน้า แต่กลับถูกเงาไม้บดบังทำให้สีสันสดใสหายไป
ซูชิงลั่วไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป ปีนกลับเข้าไปในห้องและนอนล้มตัวลงบนพื้นที่เย็นเยียบ
กลิ่นหอมภายในห้องเข้มข้นมากขึ้น แม้ว่าหน้าต่างจะเปิดอยู่ก็ตาม แต่กลิ่นนั้นก็ไม่จางหายไปเลย
ความรู้สึกแปลกๆ ภายในร่างกายที่เคยสงบลงไปแล้ว กลับมาอีกครั้งและดูจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
นางก้มหน้าลงมอง กระโปรงชั้นนอกหายไปแล้ว กางเกงสีขาวก็เปื้อนดินโคลนและคราบเลือด
ถ้าออกไปในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเช่นนี้ หากเจอคนเข้า ชื่อเสียงของนางคนต้องป่นปี้เป็นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แต่งกับขุนนาง