แก้มของชารอนร้อนผ่าว เธอเชื่อคำพูดของรีเบคก้าอย่างง่ายดายโดยไม่คิดหน้าคิดหลังเลย ชารอนเชื่ออย่างสนิทใจว่าไซม่อนหลับนอนกับรีเบคก้าไปแล้ว อย่างไรเสีย มันก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นกันหรอก
ชารอนไม่คิดเลยว่ารีเบคก้าจะโกหกเธอ อีกอย่าง รีเบคก้ายังจงใจถ่ายภาพในมุมหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดด้วย
ในตอนนั้น ชารอนเชื่อในคำพูดของรีเบคก้าอย่างสนิทใจ เธอจึงไม่ได้ฟังสิ่งที่รีเบคก้ากำลังพูดต่อ ชารอนกลับจากไปในทันที นั่นทำให้ชารอนไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นบ้าง
ทว่า ดูเหมือนว่าไซม่อนอ่านความคิดของชารอนออก เมื่ออยู่ต่อหน้าไซม่อน ชารอนแทบจะทำตัวมีความลับอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ก็ได้ ฉันยอมรับว่าฉันอารมณ์เสีย ฉันเศร้า แต่ฉันก็โกรธมากเหมือนกัน แม้ว่าการแต่งงานของเราจะเป็นแค่การลงนาม แต่คุณก็ไม่ควรแอบไปมีอะไรกับรีเบคก้านิ” ชารอนกล่าว สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ชารอนไม่มีอะไรให้ต้องละอายใจอีกแล้วในการสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกไป
ไซม่อนกอดเอวชารอนเอาไว้แน่นและโน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหู “ไม่ต้องห่วงนะ คุณจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมต้องการ ไม่มีคนอื่นแน่นอน" ไซม่อนกระซิบด้วยเสียงต่ำ
น้ำเสียงของไซม่อนดูเหมือนจะทำให้ชารอนตกอยู่ในภวังค์ ใบหูของชารอนเริ่มร้อนผ่าว หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ
ชารอนเงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในดวงตาอันล้ำลึกของไซม่อน เธอเริ่มหายใจลำบากและติดขัด “คุณ...” ชารอนโพล่งออกมา
ชารอนอยากจะถามไซม่อนว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง เขาพลันก้มศีรษะลงแล้วจูบเข้าที่ริมฝีปากของชารอน
ริมฝีปากของทั้งสองประกบกัน พวกเขาจูบกันอย่างดูดดื่ม อีกทั้ง ทั้งคู่ยังแลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกันด้วย แต่ทว่า ในครั้งนี้ ชารอนไม่ได้พยายามผลักไซม่อนออกไปเลย เธอหลับตาลงและปล่อยให้ไซม่อนจูบต่อไป
ชารอนไม่คิดเลยว่าไซม่อนจะโน้มตัวเข้ามาจูบเธอแบบนี้ ในตอนแรก ชารอนกังวลแค่ว่าเธอจะไปสัมผัสกับบาดแผลบนร่างกายของไซม่อนจนทำให้อาการแย่ลง แต่ในตอนนี้ เธอกลับลืมทุกอย่าง ทั้งสองจูบกันอย่างลึกซึ้ง ดูเหมือนว่าชารอนจะหลงใหลในเสน่ห์อันท่วมท้นของไซม่อนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
ทันทีที่ไซม่อนปล่อยตัวชารอน ริมฝีปากอันบอบบางของเธอพลันกลายเป็นสีแดงสด แก้มของชารอนแดงก่ำ เธอรู้สึกเขินอาย
ไม่นานนัก ชารอนก็กลับมารู้สึกตัว เธอขยับออกจากอ้อมแขนของไซม่อนทันทีที่นึกถึงบาดแผลบนร่างหาย “ฉันแตะโดนแผลอะไรคุณรึเปล่า?” เธอกล่าว
สายตาของไซม่อนไม่สามารถคาดเดาได้เลย ไซม่อนขมวดคิ้วและเผยสีหน้าไม่พอใจทันทีที่เห็นความกังวลบนใบหน้าของชารอน ทันใดนั้น ไซม่อนก็แสร้งทำเป็นว่าเจ็บแผลขึ้นมาจริง ๆ
ทว่า ด้วยความที่ชารอนเพิ่งโดนไซม่อนแกล้งมา เพราะฉะนั้น ในตอนนี้ เธอจึงไม่เชื่อเขาเลย ชารอนคิดว่าเขาแสร้งทำเป็นเจ็บเพียงเพื่อแกล้งเธออีกครั้ง
“หยุดแกล้งฉันได้แล้วน่า ฉันไม่ได้โง่ขนาดที่จะถูกหลอกได้สองครั้งหรอกนะ”
แต่ทว่า ในครั้งนี้ ท่าทีของไซม่อนกลับเปลี่ยนไป ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูเจ็บปวด ทันใดนั้น ชารอนต้องมองไปที่ไซม่อนด้วยความสงสัย เธอสัมผัสถูกบาดแผลของเขาจริง ๆ รึเปล่า? ตอนที่เธอทุบหน้าอกของเขาไปเมื่อครู่?
ทันทีที่ดึงมือออกมาจากหน้าอกของไซม่อน หัวใจของเธอพลันเต้นแรง นั่นเป็นเพราะมีเลือดไหลซึมออกมาจากผ้าก๊อซที่พันรอบหน้าอกของไซม่อน ชารอนรู้สึกตื่นตระหนกไม่น้อย “ฉันขอโทษ... ฉันขอโทษ ฉันทุบคุณแรงเกินไป เดี๋ยวฉันจะเรียกหมอมาดูเดี๋ยวนี้แหละ" เธอกล่าว
ชารอนลุกขึ้นและวิ่งออกจากห้องไปทันที ไซม่อนไม่มีโอกาสหยุดเธอด้วยซ้ำ
ชารอนรีบตะโกนเรียกหาหมอ หลังจากนั้น คุณหมอก็เดินมาดูอาการบาดเจ็บของไซม่อน ดูเหมือนว่าบาดแผลของเขาจะเปิดออกมาเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน คุณหมอก็พันผ้าพันแผลให้ไซม่อนอีกครั้ง “ทำไมคุณไม่ระมัดระวังตัวเลยล่ะ?” คุณหมอถามด้วยสีหน้างุนงง
"มันเป็นความผิดของฉันเองค่ะ คุณหมอ ฉันบังเอิญไปโดนบาดแผลของเขาเอง” ชารอนกล่าว เธอก้มศีรษะลงราวกับกำลังสำนึกผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO