ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 62

ชารอนถึงกับต้องตั้งรับ ฟิโอน่าตบไม่โดนหน้าเธอด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะชารอนคว้ามือของฟิโอน่าเอาไว้

“คุณป้าฟิโอน่าคะ หนูไม่ใช่คนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของเด็กคนนั้น หนูแค่มาเยี่ยมแซลลี่เองนะคะ” ชารอนสามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้แม้จะต้องเผชิญหน้ากับฟิโอน่าที่กำลังรู้สึกโกรธเคือง

ทว่า ฟิโอน่าเชื่อไปแล้วว่าเป็นชารอนเป็นคนผลักแซลลี่ตกบันได และเมื่อชารอนอ้างว่าเด็กในท้องแซลลี่ไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด มันเพียงแต่จะทำให้ชารอนดูแย่ในสายตาของฟิโอน่าก็เท่านั้น

ถึงอย่างไร ชารอนพลันสังเกตเห็นว่าท่าทีของแซลลี่เปลี่ยนไป ก่อนที่แซลลี่จะเสียลูกในท้อง เธอยอมรับไปแล้วว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด

ถึงกระนั้น หลังจากสูญเสียเด็กไป แซลลี่ก็หมดความกลัวเพราะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ตัวตนของเด็กอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น โฮเวิร์ดจึงไม่มีวันได้รู้อีกต่อไปแล้วว่าแซลลี่กำลังนอกใจเขาอยู่

ฟิโอน่าก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่พลาดตบไม่โดนชารอน เธอกระชากมือกลับไปและคำรามใส่ชารอน “คอยดูเถอะ! หลังจากที่แกเอาชีวิตของหลานฉันไป ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้คนอย่างแกหนีรอดไปได้แน่!” ฟิโอน่าสาบานว่าจะขับไล่ชารอนออกจากตระกูลแซคคารี่เสีย

ชารอนเหลือบมองไปยังแซลลี่ ดวงตาของแซลลี่กำลังส่องประกายด้วยความเย่อหยิ่ง

ชารอนเข้าใจแล้วว่าเด็กในท้องเป็นแค่เบี้ยสำหรับแซลลี่ ถึงแม้จะฆ่าเด็กในท้องไป เธอก็ไม่รู้สึกเสียใจหรือเศร้าโศกเลยแม้แต่น้อย

ทว่า หากชารอนยังคงยืนอยู่ในห้องนี้ มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาเข้าตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น ชารอนจึงเมยเฉยใส่ฟิโอน่าที่กำลังตะโกนและหันไปกล่าวคำพูดกับแซลลี่ "งั้นก็ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ๆ และขอให้เด็กคนนั้นได้เกิดมาเจอกับแม่ดี ๆ ในชาติหน้าก็แล้วกัน" หลังจากนั้น ชารอนก็หมุนตัวกลับและจากไป

แซลลี่จ้องไปยังแผ่นหลังของชารอน คำพูดของชารอนทำให้แซลลี่รู้สึกบีบคั้นหัวใจไม่น้อย 'นางชารอน นางสารเลว มันพยายามจะขู่เรางั้นหรอ? ชาติหน้าบ้าบออะไรกัน? ใครเชื่อเรื่องชาติหน้าก็บ้าแล้วล่ะ!'

ฟิโอน่าซึ่งถูกเมินเฉยรู้สึกโกรธมากเสียจนต้องจนกระทืบเท้า เธอชี้ไปที่ชารอนและสบถไม่หยุดจนกระทั่งเลือนร่างของชารอนหายไปจากประตู

ทว่า ฟิโอน่ายังคงควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ถึงอย่างไร ทันทีที่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ความเย็นชาในดวงตาของเธอก็พลันหายไป ไม่นานนัก ฟิโอน่าก็เผยยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมาแทน

ทันทีที่ฟิโอน่าเยี่ยมแซลลี่เสร็จแล้ว เธอก็ออกมาจากโรงพยาบาล ทันทีที่ฟิโอน่าขึ้นรถ เธอก็รีบโทรหารีเบคก้า “รีเบคก้า มาเจอกันหน่อยสิ”

"แต่ว่า..."

“หนูเต็มใจเป็นเสมียนหรือยังไงกัน? ก่อนหน้านี้ หนูเป็นคนบอกป้าเองไม่ใช่เหรอว่าชอบไซม่อนน่ะ? หนูจะยอมแพ้ง่าย ๆ เลยเหรอ?” ฟิโอน่ายังคงยิงคำถามใส่รีเบคก้าไม่หยุด

รีเบคก้าก้มศีรษะลง “หนูก็ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเหมือนกันแหละค่ะ แต่เขาเย็นชากับหนูมากเลย...”

ฟิโอน่าจับมือรีเบคก้าและตบเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ “ผู้ชายก็เหมือนกันหมดทุกคนนั้นแหละ ตราบใดที่หนูแสดงให้เขาเห็นถึงความพยายามและปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี เขาจะไม่ปฏิเสธหนูอย่างแน่นอน อีกอย่าง คุณลุงดักลาสและป้าเองก็ยังจับตาดูหนูอยู่ด้วยนะจ้ะ ตราบใดที่หนูเต็มใจ หนูอาจจะได้เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลแซคคารี่ก็ได้นะ หนูต้องการแบบนั้นไหมล่ะ?”

“คือหนู...” รีเบคก้ารู้สึกอายและหลับตาลง อันที่จริง เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับไซม่อน

ทันใดนั้น ฟิโอน่าก็มองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่นานนัก ฟิโอน่าเผยยิ้มออกมา “ไม่ต้องกลัวไปหรอกจ่ะ พรุ่งนี้หนูก็ไปทำงานเป็นเลขาของเขาแทนนะ ไซม่อนไม่กล้ายุ่งกับหนูแน่ เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะลุงดักลาสคอยหนุนหลังให้หนูอยู่ไงล่ะจ้ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO