ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 11

"เอาล่ะ" เฉินซ่ามองโหลชีอย่างครุ่นคิด พลางว่า "หาดอกไม้"

หาดอกไม้สำคัญกว่า

เขารีบรุดเข้าไปในป่าทึบนั้น

"นายท่าน ป่าทึบอันตรายยิ่ง..."

"จะตามก็รีบตาม บ่นอิดออดอยู่นั่น เป็นผู้ชายรึไม่?" โหลชีปรายตามองเขา พลางก้าวตามไป

อิงโกรธจัด ตะคอกใส่ระหว่างที่ตามไปว่า "อยากลองดูหรือไม่เล่าว่าข้าเป็นชายจริงรึไม่?"

"ลามก" โหลชีสะบัดคำใส่เขาสองคำอย่างไม่หันกลับมามอง

เขาลามก? ใครกันที่สงสัยว่าเขาเป็นชายหรือไม่? ผู้หญิงคนนี้ขาดการอบรมจริงๆ !

อิงยังคิดจะเถียงกลับ หากเฉินซ่าที่อยู่ด้านหน้าส่งเสียงเย็นว่า "หุบปากให้หมด"

ป่าทึบทำให้แสงลอดผ่านได้น้อย มีกลิ่นเหม็นเน่าชนิดหนึ่งในอากาศ ทำให้รู้สึกอึดอัด ใบไม้ร่วงใต้ฝ่าเท้าหนานัก เหยียบย่างแต่ละก้าวจมลึกลงไปมากโข ไม่รู้ว่าทับถมใบไม้ร่วงมากี่ปีแล้ว

เงียบมาก เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของพวกเขา

ที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือ พวกเขามักจะเห็นต้นไม้ที่โดนไฟเผาเป็นต้นหรือเป็นหย่อมเป็นระยะ ใต้ต้นไม้มีซากกระดูกโดนไฟเผาเล็กน้อย จนดูมิออกว่าเป็นผู้ใดแล้ว

หากพอนึกถึงคนที่พวกเขาส่งมาก่อนหน้านี้ ทหารองครักษ์หกสิบคนที่มิมีใครรอดกลับมา ฐานะของโครงกระดูกพวกนี้พอคาดเดาได้เลย

รังสีเฉินซ่าเย็นเยียบ ปากบางเม้มแน่น พวกนี้เป็นทหารของเขา ตายเพื่อเขาทั้งนั้น!

แต่พวกเขาไม่มีเวลาไปสืบหาสาเหตุการตายของโครงกระดูกและต้นไม้ที่ถูกเผาเหล่านั้น หาดอกลึกลับ หาดอกลึกลับสำคัญยิ่งกว่า

ไม่รู้ว่าเดินไปนานเท่าใดแล้ว ทหารองครักษ์พลันพูดเสียงต่ำว่า "ร้อนนัก"

ใช่ ร้อนมาก ยิ่งร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ทันไรพวกเขาก็เหงื่อออกดั่งฝนตก จนเสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด พวกเขาแต่ละคนอย่างกับโดนหิ้วขึ้นมาจากน้ำ

และมิรู้เมื่อใดที่พื้นดินใต้ฝ่าเท้ารับรู้ได้ถึงความลาดชัน พวกเขาเดินเข้าไปในเขาแล้ว

ซือซือ ซือซือ

มีงู แต่ในป่าดิบทึบเยี่ยงนี้ มีงูมิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

"ระวังกันหน่อย" สายตาเฉินซ่าเคร่งเครียด พลางว่า

แต่ละคนระแวดระวังขึ้นในทันใด ต่างลอบสังเกตหาร่องรอยของดอกลึกลับ

ชิ้ว!

องครักษ์หมุนหัวกลับทันที แต่มิพบกระไร ยังเป็นป่าทึบมืดมิด ใบไม้แฝงแน่น ทางที่มาหายไปแล้ว มิมีอะไรด้านหลัง

แต่เมื่อครู่เขารู้สึกคล้ายว่ามีอะไรผ่านหลังเขาไป และยังออกจะร้อนแสบด้วย

"พบอะไร?" อิงที่เดินหน้าเขาหันกลับมาถาม

"มิมีอะไร..."องครักษ์พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็เห็นอิงสองตาเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมายิงศรไปที่หัวเขาทันที!

ลูกศรพุ่งออกไป รังสีอำมหิตเต็มเปี่ยม องครักษ์ตัวแข็งค้าง องครักษ์อิงจะฆ่าเขา?

"เอียงหัว!"

หน้าของเฉินซ่าดำมืดทันที "วิ่ง!"

วิ่ง ตอนนี้มามัวคิดดับไฟอะไร ยังจะคิดถึงดอกลึกลับอะไรอีก! ขืนไม่วิ่ง ต้องมาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว!

แต่รอบด้านมีแต่งู จะวิ่งทางไหนดี?

"งูพวกนี้บางทีอาจจะกลัวพิษ พวกเราถอยออกจากป่า กลับไปที่ทะเลดอกไม้ก่อน!" อิงหวีดร้องออกมาท่ามกลางแสงไฟ จริงสิ งูพวกนี้ต้องกลัวพิษพวกนั้นแน่ มิอย่างนั้นทำไมในทะเลดอกไม้ถึงไม่มีแม้แต่เงาของงูเลยสักตัว?

"ได้ได้ได้ พวกเรารีบถอย..." โหลชีเองก็ไม่อยากตาย จึงรีบคิดหาวิธีหนีออกจากวงล้อมไฟนี้ แต่นางยังพูดมิทันจบ ด้านหน้าพวกเขามีไฟกองหนึ่งโหมกระพือขึ้น ป่าด้านนั้นเผาไหม้หมดแล้ว ในเวลาเดียว งูรอบด้านคืบคลานเข้าหาพวกเขา และขดวงล้อมให้เล็กลง

งูนับไม่ถ้วนพ่นพิษ พิษงูยาวยืดลื่นเป็นสายราวกับคลื่นสีแดง เริ่มแผ่กระจายกลิ่นเหม็นในอากาศ ทำให้คนอยากอาเจียน

"แม่งเอ๊ย! นี่มันตัดทางหนีเราชัดๆ !" โหลชีสบถคำหยาบออกมาอย่างโกรธจัด

"ตามฉันมา!"

เสียงของเฉินซ่าราบเรียบมาก ฟังไม่ออกถึงความลุกลี้ลุกลนเลยสักนิด สองฝ่ามือประสานกัน สะบัดฝ่ามือออกไปหลายที พริบตาเดียวใบไม้ลอยละลิ่ว งูมากมายโดนพลังฝ่ามือสะบัดลอยออกไป บางตัวโดนเข้าอย่างจังกลายเป็นเนื้องู วงล้อมงูโดนเขาสะบัดจนแหวกเป็นทางออกมา

มีงูหลายตัวกำลังอ้าปากจะพ่นไฟ ฝ่ามือลมก็สะบัดไป พัดพาพวกมันกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตร

ร้ายกาจ ร้ายกาจจริงๆ ! อาวุธทำลายล้างอย่างเฉินซ่านี่ร้ายกาจจริงๆ !

"ไป!"

โหลชีไม่รอช้าพุ่งร่างไปทางที่เขาแหวกให้ เวลานี้ไม่หนีเอาตัวรอด จะไปหนีตอนไหนกัน? หนีก่อน ไม่หนีคือโง่

ทางที่โดนเฉินซ่าใช้ฝ่ามือลมแหวกออกมาพอให้คนเดียวพุ่งไป งูมีจำนวนมากเกินไป มากเกินไปจริงๆ โหลชีวิ่งเข้าไป ฝูงงูสองข้างก็พากันล้อมนางเข้ามา งูบางตัวผงกหัวพ่นไฟใส่นาง ก่อนหน้านี้ไฟอยู่ห่างจากนางนักเลยมิรู้สึกกระไร หากตอนนี้ไฟลามใกล้ถึงตัว นางถึงพบว่า ความร้อนของไฟเหล่านั้นสูงมากจนเหลือเชื่อ นี่ยังไม่ทันถึงตัว ก็ทำนางร้อนเหงื่อออกทั้งตัวแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ