ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 164

มีภาพวาดหลายภาพที่แขวนอยู่บนผนัง แต่ต่างจากคนอื่นๆที่แขวนภาพวาดทิวทัศน์หรือศิลปะการเขียนตัวอักษร ในห้องนอนของเหอชิ่งอ๋องได้แขวนภาพเหมือนของหญิงสาวสวยๆ สาวงามเหล่านี้จะใส่เสื้อที่ไม่เหมือนสาวทั่วไป จะใส่เสื้อผ้าเปลือยอกเหมือนนางในหอนางโลม และอีกรูปหนึ่งเปลือยเปล่าทั้งหมด

พวกเขาค้นหาไปรอบๆ และพบว่าบนเก้าอี้ ใต้หมอนของเตียงใหญ่ ตรงมุมหนังสือ และบนชั้นหนังสือก็เห็นภาพเร้าอารมณ์ มีเยอะมาก ทำให้โหลชีพูดไม่ออก ถ้าพูดว่าเหอชิ่งอ๋องบ้ากาม นางเชื่ออย่างเต็มเปี่ยม

มันเป็นเรื่องน่าอายเล็กน้อยที่ค้นเจอสิ่งของแบบนี้พร้อมกับเฉินซ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาไม่สามารถแยกจากกันได้ อยู่ตรงหน้าชั้นวางหนังสือนางค้นหารอบๆอย่างรวดเร็ว เพราะยังไงเขาก็ปล่อยนางไม่ได้ ดังนั้นจึงยืนข้างหลังนาง มือข้างหนึ่งโอบเอวนางไว้เพื่อเขาจะได้แนบอยู่ในอ้อมกอดของเขา และมืออีกข้างหนึ่งก็ค้นหา ด้วยเหตุนี้ จึงบังเอิญเปิดหนังสือเล่มหนึ่งที่วาดออกมาอย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อโหลชีสัมผัสได้ว่าอุณหภูมิในร่างกายของเขาสูงผิดปกติ จึงหันศีรษะกลับมาก็เห็นสมุดหน้าหนึ่งที่เขาพลิกด้วยมือข้างหนึ่ง บังเอิญผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างหน้า และผู้ชายอยู่ข้างหลัง

ชั่วขณะนางก็สับสนทันที

รีบแย่งหนังสือเล่มนั้นมาจากมือของเขาแล้ววางกลับไปที่เดิม ดันศอกเพื่อผลักเขาไปข้างหลังเล็กน้อย จับมือข้างหนึ่งของเขาไว้ แล้วถลึงตาใส่เขา

มีคนเฝ้าอยู่ข้างนอก และพวกเขาส่งเสียงไม่ได้ ดังนั้นเฉินซ่าจึงแอบส่งสัญญาณเสียงให้กับนาง "ข้าจะรอวันที่ได้แต่งงานกับเจ้าแล้วค่อยจัดการเจ้า"

โหลชีอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เขาอีกครั้ง ตอนนี้ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องแบบนี้ไหม?

ไม่สิ เฮ้ย ไม่ว่าเวลาไหนก็ไม่ควรมาพูดเรื่องแบบนี้!

หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง ทั้งสองก็ไม่พบอะไรเลย โหลชีเริ่มโมโหและไม่เชื่อ นางไม่ใช่โจรขโมย แต่ก่อนในยุคสมัยใหม่ในหมู่เพื่อนๆของนางมีโจรขโมยอันดับหนึ่งของโลก เคยพูดว่าจะสอนเคล็ดลับการขโมยให้นาง เพียงแต่ว่านางเรียนรู้ไปเล็กน้อยก็ไม่ยอมเรียนต่อ เพราะการขโมยไม่ได้ทำให้นางรู้สึกถึงความสำเร็จ และเหตุผลที่นางเรียนรู้เพียงเล็กน้อยนั้นเพียงเพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกขโมยเท่านั้น

หากชายคนนั้นมา ดวงตาคู่นั้นจะมีพลังเท่ากับรังสีเอกซเรย์ และเมื่อมองแวบหนึ่งก็จะเห็นว่าตรงไหนมีโพรง และตรงไหนเก็บสิ่งของประเภทใด และตรงไหนเหมาะสำหรับสร้างห้องลับ

จริงสิ ห้องลับ!

โหลชีอดไม่ได้ที่จะตบหน้าผากของตัวเองเบาๆ ทำไมถึงพึ่งนึกได้ตอนนี้ว่ามีห้องลับ คนอย่างเหอชิ่งอ๋อง ต้องมีสมบัติล้ำค่าที่สะสมมากกว่าหนึ่งชิ้น ดังนั้นเขาจึงต้องสร้างห้องลับเพื่อเก็บของสะสมของเขา ตอนนี้พวกเขากำลังค้นหากลไกในการเปิดห้องลับ

แม้ว่านางจะไม่ใช่โจรขโมยที่เชี่ยวชาญ แต่ก็ง่ายมากที่จะรู้ว่าจะสร้างห้องลับไว้บริเวณไหน เพียงแต่ว่า ก่อนที่นางจะหาเจอ เฉินซ่าก็ดึงนางเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ร่างลอยขึ้น และไปถึงมุมที่มีโต๊ะวางดอกไม้อันหนึ่ง ใช้มือข้างหนึ่งจับแจกันดอกไม้ใบใหญ่แล้วหมุนเบาๆ

ข้างๆผนังห้องที่มีแขวนภาพวาดสองรูปอยู่ๆก็ปรากฏประตูบานเล็กออกมา

แน่นอนว่า เขาจะคุ้นเคยเครื่องจักรโบราณนี้มากกว่า

นางยกนิ้วโป้งให้เขา และเขาเพียงแค่ยกริมฝีปากขึ้น และพานางบินไปที่ห้องลับโดยที่เท้าไม่ได้แตะพื้น นี่เป็นห้องลับเล็กๆแห่งหนึ่ง ด้านในมีเก้าอี้นุ่มตัวหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีชั้นไม้อันหนึ่ง ชั้นไม้นั้นมีของล้ำค่าที่หายากหลายแบบวางเต็มไปหมด เพชรพลอยใหญ่เท่ากำมือ พระพุทธรูปหยกชั้นดี และพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยงาช้างเป็นต้น แต่ละชิ้นประชันความงดงามและความล้ำค่า

บนพื้นซึ่งถัดจากชั้นไม้นี้ มีกล่องหลายกล่อง เมื่อเปิดออก ทั้งกล่องเป็นทองคำแท่ง ไข่มุกและอัญมณีทั้งกล่องแทบจะส่องแสงประกายเข้าไปในดวงตาของพวกเขา

ไม่ใช่ว่าโหลชีจะไม่หวั่นไหว ตอนนี้นางยากจนมาก เฉินซ่าให้นางใช้เงินและให้นางกินเต็มที่ ถึงกับจะมอบทุกอย่างตามที่นางต้องการ แต่ก็ไม่ให้เงินนาง

นางส่ายหัวและสะบัดความคิดนี้ออกจากหัวสมอง ตอนนี้ค้นหามุกน้ำตาตงไห่สำคัญกว่า

ตรงชั้นวางยังมีกล่องเล็กๆวางซ้อนกันอย่างเรียบร้อย กล่องเหล่านั้นมีหลายขนาด กล่องเล็กมีขนาดเท่ากับใส่แหวน กล่องใหญ่น่าจะใส่แจกันดอกๆไม้

"ในกรณีของไข่มุก คงไม่ใช้กล่องใหญ่ขนาดนั้น ไปดูที่กล่องเล็ก" โหลชีพูดเสียงเบา และได้หยิบกล่องเล็กๆแล้วเปิดออก

ในกล่องมีจี้ล็อคอายุยืนทอง โหลชีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เพราะปกติจี้ล็อคอายุยืนทองจะมอบให้กับเด็กๆ ถึงจะมีค่าแค่ไหนก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนมันไว้ที่นี่?

เมื่อมองดูจี้ล็อคอายุยืนทองนั้นมันกลับเป็นสีแดง ใช้มือสัมผัสจะมีความละเอียด และเป็นหยกแดงชั้นเลิศ จี้ล็อคอายุยืนทองทั่วไปจะสลักด้วยคำว่าปลอดภัยทุกฤดูกาลหรืออายุยืนร้อยปี แต่จี้ล็อคอายุยืนทองนี้มีด้านหนึ่งที่แกะสลักด้วยมังกรเหยียบเมฆ อีกด้านหนึ่งคือนกหงส์ไฟ เส้นที่แกะสลักนั้นหลอมด้วยทองคำ เปล่งประกายด้วยหยกสีแดง ทั้งมังกรและนกหงส์มีแสงอร่ามเหมือนมีไฟ ตามังกรครอบงำ ตาหงส์ก็เย่อหยิ่งไม่มีอะไรเทียบได้

ด้านล่างจี้ล็อคอายุยืนทองมีจี้หยกขนาดเล็กแขวนอยู่สามอัน แต่ละอันสลักด้วยตัวอักษรหนึ่งตัว เมื่อผสมกันก็คืออักขระทั้งสามคำมังกรหงส์คำราม

ระบบอำนาจของราชวงศ์ตงชิงนั้นคล้ายคลึงกับที่โหลชีเข้าใจ มังกรเป็นตัวแทนของฮ่องเต้ นกหงส์เป็นตัวแทนของราชินี ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถสวมใส่เครื่องประดับที่แกะสลักด้วยมังกรและนกหงส์ ยิ่งไปกว่านั้นนี่มันแค่จี้ล็อคอายุยืนทองขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่คล้องคอสำหรับเด็ก แม้แต่โอรสขององค์ชายที่พึ่งกำเนิดมาก็ใช่ว่าจะได้รับสิ่งนี้

ดังนั้น จี้ล็อคอายุยืนทองนี้คงไม่ใช่ของเหอชิ่งอ๋อง

โหลชีรู้สึกว่าหยกแดงชิ้นนี้สวยมาก สำหรับนางไม่มีความรู้สึกอะไร ดังนั้นมองดูแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่าย และไม่ได้คิดอะไรมากแล้วก็นำไปวางคืนที่เดิม เฉินซ่าเอื้อมมือออกไปรับจี้ล็อคอายุยืนทองไว้ทันที เมื่อสิ่งของถึงมือเขา หัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน ราวกับมีความรู้สึกคุ้นเคยที่อธิบายไม่ถูกได้ผ่านจี้ล็อคอายุยืนทองเข้าสู่หัวใจของเขา

"ว่าไง?"

เมื่อเขามีบางอย่างที่ผิดปกติ โหลชีก็สัมผัสได้ทันที

เฉินซ่าไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้มากนัก แต่ในตอนนี้เขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าบดสิ่งนี้ให้เป็นผงแล้วให้ตัวเองทานมันจะสิ้นเปลืองเกินไป ถ้ามอบให้โหลชี......

แต่นั่นเป็นเรื่องที่กลับไปแล้วค่อยคิด

"ได้เวลาไปแล้ว" เขากอดโหลชีและกำลังจะจากไป แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงรูปเหมือนโหลชีที่เหอชิ่งอ๋องทิ้งรอยนิ้วมือไว้นั้น ดวงตาก็ฉายแววมืดมน เขาหยิบปะการังเลือดขึ้นมา แล้วบีบเบาๆ กำลังภายในที่แข็งแกร่งนั้นได้บดขยี้ปะการังเลือดให้กลายเป็นกองผง และผงก็กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น จากนั้นเขาก็หยิบเครื่องประดับหยกคุณภาพเยี่ยมขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง คิดวิธีอื่นไม่ได้ก็ทำวิธีเดิมๆ

โหลชีตกตะลึง "นายท่าน ท่านกำลังทำอะไร?"

"เจ้าเลือกสักสองสามอย่างที่ชอบ ที่เหลือข้าจะทำลายให้หมด" เฉินซ่าพูดอย่างไม่แยแส

สมบัติล้ำค่ามากมาย เขาต้องการทำลาย? ถึงตอนนั้นถ้าเหอชิ่งอ๋องเห็นจะกระอักเลือดหรือไม่......

โหลชีรู้นิสัยของเขา สิ่งที่ตัดสินใจแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน และไม่รู้ว่าเหอชิ่งอ๋องทำอะไรให้เขาขุ่นเคืองใจ ถึงต้องการโจมตีเขาเช่นนี้ เดิมทีบอกว่าแค่ต้องการจะเอาสิ่งของของเขา และไม่ถือสาเรื่องราวที่เขาไล่ล่าในตอนนั้น?

เดิมที เฉินซ่าคิดเช่นนั้นจริงๆ เพราะยังไงเขาก็คิดว่าเหอชิ่งอ๋องจับเขาไม่ได้แน่นอน ต้องการเอาสมบัติของคนอื่นไป เรื่องการไล่ล่านั้นไม่อยากถือสาเขาแล้ว แต่เมื่อกี้ใครให้เขาเห็นภาพเหมือนของโหลชีที่มีรอยนิ้วมือ?

คราวนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สนใจ

เมื่อเห็นว่าเขาใช้ความเร็วในการทุบสมบัติล้ำค่าเป็นชิ้นๆจนแหลกเหลว โหลชีก็รู้สึกเสียดายมาก"โอ้ ถ้าสามารถเอาออกไปได้คงจะดีมาก!" นี่จะรวยมหาศาลขนาดไหน! แต่เมื่อนางมาคิดๆดู ถ้าสิ่งเหล่านี้ปรากฏอยู่ในตัวนาง เหอชิ่งอ๋องก็จะรู้ว่าพวกเขาบุกเข้ามาในห้องลับของเขา? เดิมทีนางก็ไม่ต้องการจะเอาสิ่งของมากมาย แต่ว่าจี้ล็อคอายุยืนทองมังกรและนกหงส์นั้นเฉินซ่าบอกว่าคุ้นเคยกับมันเล็กน้อย แต่ตอนนี้เห็นเขากำลังจะทำลายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ถ้านางไม่เอาสิ่งของออกไปเยอะหน่อยมันจะเป็นการเสียเปรียบมาก!

โหลชีมองไปรอบๆ และหยิบผ้าห่มผืนหนึ่งบนเก้าอี้นุ่มๆ ฉีกให้เป็นสองส่วน แล้วห่อกล่องแผ่นทองคำแท่งและกล่องเครื่องประดับมุกโดยตรง อีกกล่องหนึ่งก็สะพายไว้บนหลัง และอีกกล่องหนึ่งผูกมัดกับเฉินซ่า

ขณะผูกมัดก็พูดไปด้วย "พูดไว้ก่อนนะ ท่านช่วยข้าสะพายออกไป หลังจากที่ออกไปแล้วของทุกอย่างในกล่องจะเป็นของข้า ท่านห้ามแย่งกับข้า"

เฉินซ่า "......"

เมื่อพวกเขาออกจากห้องลับนี้แล้ว ขุมทรัพย์เดิมที่อยู่ในนั้นกลับกลายเป็นเศษขยะ

ทั้งสองกลับไปที่ลานของนางบำเรอ โหลชีเตะยายรับใช้ให้ตื่น และสะกดจิตของนางอีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ