ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 190

หูของโหลชีย่อมดีกว่าหูของนางชุนอยู่แล้ว นางได้ยินเสียงคนแรกเลย ได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นร้องด้วยความร้อนใจระคนหวาดกลัว เลยหยิบพิชิตวันยัดใส่มือนางชุนไป

นางชุนตกใจ ยังไม่เข้าใจ ทำไมจู่ๆยื่นมีดสั้นให้นางเล่า? นี่นี่นี่--

"คุณชายน้อย ท่านจะทำอะไรนี่"

พอนางถามจบ ก็ได้ยินเสียงร้องของสามีตน

"นางชุน เอามีดมาเร็ว เร็วสิ เร็ว!"

นางชุนถึงได้สติว่าคุณชายน้อยผู้นี้ยัดมีดสั้นในมือนางทำไม และไม่ทันถามหรือคิดอะไรให้มากมาย ก็ผลันร่างออกไปทันที

คนแก่เองก็ร้อนใจ พยุงร่างลุกขึ้นจะออกไปดู โหลชีร้องบอก "โหลวซิ่น พยุงท่านลุงหน่อย" พูดจบตัวนางก็เดินออกไป

นางชุนวิ่งออกจากเรือน ก็เห็นสามีตนวิ่งหนีตายในสภาพย่ำแย่กลับมา ฝุ่นผงคละคลุ้งกระจายไปทั่วทั้งด้านหลัง นางก็มองไม่ออกว่าอะไรไล่ตามเขามา

"นางชุน เร็ว ส่งมีดให้ข้า เจ้ากลับเข้าเรือนไป!"

ชายหนุ่มในชุดขาดรุ่งริ่ง สีหน้าสกปรก ไม่มองว่าในมือนางชุนมีอะไร แย่งมาแล้วก็เบิกตากว้างอุทานว่า "ข้าให้เจ้าเอามีดมา เจ้าเอามีดสั้นมาทำกระไร---"

"อ๊า ท่านพี่! เสือ! เสือ!"

นางชุนชี้ไปที่ด้านหลังเขาตาเหลือก ร้องกรี๊ดโหยหวน สมองนางว่างเปล่าไปหมด คิดแต่เพียงว่า เสือตัวหนึ่งกำลังตะลุยเข้ามา สามีนางประจันหน้าเขี้ยวและกรงเล็บแหลมคมนั่น จะรักษาชีวิตได้หรือไม่?

ต้องตายแน่แท้แล้ว!

ชายผู้นั้นไม่คิดว่าเสือจะมาไวเยี่ยงนี้ และไม่มีเวลาคิดมาก พลันตวัดแขนขวาใส่ไปด้านหลังโดยแรง!

พรืด

เลือดสดร้อนอุ่นกระเซ็นโดนหัวโดนหน้าเขา จนเขาเลือดท่วมตัว

กรงเล็บเสือตัวนั่นตะปบมาที่ไหล่เขาแล้ว แต่พลันชะงัก หล่นตุบลงกับพื้น ก่อให้เกิดฝุ่นคละคลุ้ง เสือดุร้ายตัวนั้นพลันล้มลงต่อหน้าเขา กระตุกสองสามที และไม่ไหวติงอีกเลย

"..."

ชายผู้นั้นงงงันอยู่นาน เขาก้มหน้าลงไปดู เห็นแค่เสือตัวนั้นถูกเขาฟันท้องเปิด อวัยวะภายในไหลทะลักออกมา เลือดสดไหลนองเต็มพื้น

แต่ว่า แต่ถึงเขาจะแรงมาก ก็ไม่มีทางมากมายเยี่ยงนี้ได้ดอก! นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน? เขาฆ่าเสือได้ในท่าเดียว?

ไม่ ไม่ถูก ไม่ถูกไม่ถูก มีดสั้นเล่มนี้!

ชายผู้นั้นก้มมองมีดสั้นในมืออย่างฉับพลัน อัญมณีบนด้ามจับส่องแสงระยิบระยับ เขายื่นนิ้วออกไปลองลูบคมมีด ซี๊ดดังขึ้น นิ้วเขาถูกบาดมีเลือดออก

เป็นอาวุธวิเศษจริงๆ! นางชุนได้มาจากไหนกัน?

ชายผู้นั้นถึงได้สติกลับมา หันกลับไปดู พบว่าฮูหยินตนขาอ่อนยวบนั่งลงกับพื้น และในเรือน บิดาตนอยู่กับชายแปลกหน้าหลายคน

ที่ตีนเขาในกลางดึกคืนฤดูใบไม้ร่วง ลมหนาวพัดมาหวิวไหว

ห้องหลักที่จุดตะเกียงขึ้นหลายดวงดูอบอุ่นนัก

นางชุนทำกับข้าวมาโต๊ะหนึ่ง และอุ่นเหล้ามาด้วย พลางเชื้อเชิญพวกเขาร่วมทานด้วยกัน โหลชีเรียกพวกเขามานั่งด้วยกัน เก้าอี้ไม่พอ ย้ายตอไม้มาซะหลายอันก็ได้แล้ว

คนแก่ผู้นั้นรู้สึกว่าใบหน้าตนน่ากลัวยิ่ง เลยยืนกรานจะกลับไปทานในห้อง โหลชีก็ไม่บังคับ

ถึงฟ่านฉางจื่อจะไม่พอใจที่ต้องร่วมโต๊ะทานอาหารกับพวกเขา แต่ถูกโหลชีตอกใส่หน้าว่า ท่านยกชามไปทานข้างนอกดีหรือไม่? เล่นเอาเขาสะอึกแทบกระอักเลือดออกมา

เขาเป็นถึงผู้อาวุโสสามแห่งเขาเวิ่นเทียน จะให้ยกชามออกไปนั่งยองๆทานข้างนอกได้รึ?

อาหารบนโต๊ะ ผักมาจากสวนที่เขาปลูกเอง ยังมีแตง เนื้อเป็นเนื้อเสือที่ฆ่าตายหน้าประตูก่อนหน้านี้ และไม่รู้ว่านางชุนทำยังไง สดนุ่มอร่อยมาก

สามีของนางชุนชื่อว่าเหอชิ่งเหนียน เหอชิ่งเหนียนคนนี้ผิวพรรณเป็นสีข้าวสาลี แข็งแรง หน้าตาหล่อเหลา ดูภายนอกแล้ว คู่สามีภรรยานี่ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก

พอรู้ว่าโหลชีให้ยืมมีดสั้นมา เหอชิ่งเหนียนซาบซึ้งน้ำใจมาตลอด เขาออกปากเลยว่ามีดสั้นนี้ช่วยชีวิตเขาไว้ หากมิใช่มันคมชนิดฟันเหล็กเหมือนฟันดิน แต่สะบัดออกไปก็ฆ่าเสือตายได้แล้ว! มีดสั้นเล่มนี้เป็นของโหลชี เท่ากับโหลชีช่วยเขาไว้!

นางชุนเองก็คิดแบบนี้ ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงซาบซึ้งในน้ำใจของโหลชีมาก แทบจะตอบทุกอย่างที่นางถามเลยทีเดียว

เดิมตอนสายเหอชิ่งเหนียนขึ้นเขาไปล่าสัตว์ ไม่คิดเลยว่าตอนระหว่างทางลงเขามาจะกลับบ้าน และหิ้วกระต่ายป่ากับไก่ป่าหลายตัวอยู่กลับเจอเสือหนึ่งตัว! ตอนนั้นเขาเกือบหัวใจวายตายแล้ว ในสถานการณ์คับขันอย่างนั้น กระต่ายและไก่ป่าที่เขาล่ามาได้โยนทิ้งหมดแล้ว ถึงจะพอเพิ่มเวลาหนีเอาชีวิตรอดได้ ระหว่างทางยังทำมีดที่ใช้ล่าสัตว์หายไปด้วย เพียงแต่ไม่คิดว่าเสือตัวนั้นกินกระต่ายกินไก่ป่าไปหมดแล้วยังไล่ตามมาอีก เขาไม่มีหนทาง ได้แต่ตะโกนเรียกนางชุนหยิบมีดให้เขา

โหลชีฟังแล้วรู้สึกแปลกใจ "พวกเจ้าอยู่ที่นี่มาสามสี่ปีแล้วกระมัง? เมื่อก่อนไม่เคยเจอเสือแถวนี้มาก่อน เหตุใดตอนนี้ถึงมีเสือได้?"

"ใช่ ข้าเองก็รู้สึกแปลกมาก

น่าหลานจื่อหลินพูดต่อ "มิได้น่าแปลกอันใดมากมายดอก หากที่ที่เจ้าเสือตัวนี้อาศัยอยู่แต่เดิมไม่มีอะไรเหลือแล้ว มันย่อมต้องไปหาที่อยู่ใหม่"

โหลชีพยักหน้า "เยี่ยงนั้นปัญหามาละ ด้านหน้าเป็นภูเขาทั้งหมด หุบเขาป่าลึกเยี่ยงนี้จะไม่มีอะไรกินได้ยังไงกัน? หรือว่าบนเขาจะไม่มีสัตว์เล็กอย่างพวกกระต่ายหรือไก่ป่ารึ?"

เดิมโหลชียังไม่แน่ใจ พอเห็นอย่างนี้ก็เข้าใจละ เพียงแต่สภาพตาเฒ่าเหอแปลกพิกลอยู่ ถึงนางจะพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับไม่รู้ว่าเขาไปเจออะไรมา ดังนั้นต้องฟังตาเฒ่าเหอพูดสักหน่อย

ฟ่านฉางจื่อกับน่าหลานจื่อหลินถอยหลังไปหลายก้าว

"นี่คือ... โดนทำของรึ?" เขาเวิ่นเทียนแข็งแกร่งเรื่องวิทยายุทธ ส่วนเรื่องคำสาป กู่ พิษล้วนนับเป็นเรื่องผิดทำนองคลองธรรมของลัทธิมาร ส่วนเรื่องภูตผีปีศาจก็ห้ามเอ่ยอ้างถึง ดังนั้นพวกเขาจึงถอยห่างไปไกล อย่าว่าแต่เข้ามาช่วยเลย ขนาดเข้าใกล้ยังไม่อยาก

"พ่อ?" เหอชิ่งเหนียนไม่สนใจคำพูดฟ่านฉางจื่อ พลางเรียกขวัญกำลังใจตัวเองพยุงตาเฒ่าเหอขึ้นมา แต่พอมือสัมผัสเขา เขาพลันตัวสั่นกะทันหัน

เขาพยุงตาเฒ่าเหอไปในห้องด้านขวา นางชุนหันมองพวกเขาตาแดงเรื่อ "ขออภัยทุกท่านด้วย ในห้องยังมีอีกเตียง ห้องด้านซ้ายให้พวกท่านพัก เชิญทุกท่านตามสบายเถิด"

เมื่อครู่โหลชีกินไปพอดูแล้ว เลยบอกกับเฉิงสิบและโหลวซิ่นว่า "พวกเจ้ากินกันต่อเถิด ข้าจะไปดูสักหน่อย"

ฟ่านฉางจื่อตะคอกอย่างโกรธจัด "โหลชี เจ้าอย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง!"

"ข้าสงสัย เลยจะไปดูสักหน่อย ผู้อาวุโสฟ่านยุ่งมากไปกระมัง"

"เจ้า!"

โหลชีไม่ได้สนใจเขา ออกจากห้องเดินไปห้องด้านขวา ประตูปิดแน่นอยู่ นางเคาะประตู เหอชิ่งเหนียนเปิดประตูออกมาเห็นก็ตกใจ "เหตุใดมิใช่นางชุน..."

ความหมายก็คือ ถ้ารู้ว่าเป็นนาง เขาจะไม่เปิดประตู? พอหันมองเหอชิ่งเหนียน สีหน้าและริมฝีปากซีดเผือดราวกับโดนแช่แข็ง โหลชีอาศัยจังหวะเขาเผลอผลุนเข้าห้องไป และเดินไปทางเตียงของคนแก่

พอเริ่มเข้าใกล้เตียงของเขา กลิ่นไอเย็นยะเยือกผิดปกติโผเข้ามา โหลชีสะท้านเยือกทันที เหอชิ่งเหนียนรีบปิดประตูพลางเข้ามาดึงนางไว้ "คุณชายน้อยท่านจะเข้าใกล้มิได้นะ!"

ตอนนี้เองโหลชีเห็นใบหน้าของคนแก่โดนสีดำปกคลุมหมดแล้ว มองไม่เห็นสีหน้าแต่เดิม เขาเอียงคอมองมาทางนาง ดวงตานั้นเป็นสีดำทั้งหมดแล้ว ไม่เจอตาขาวเลย

เหมือนกับหัวที่โดนเผาจนมอดไหม้เป็นถ่านดำ

"ท่านลุง อยากรักษาหรือไม่?"

คำพูดของโหลชีทำเอาเหอชิ่งเหนียนตกใจหนัก "รักษาได้รึ?"

คนแก่เองก็กะพริบตาดำขลับนั่น ถามเสียงสั่นว่า "นี่ นี่สามารถ รักษาได้รึ?"

"รักษาได้ แต่ท่านต้องเล่าเรื่องที่ท่านเจอมา ทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้ให้ข้าฟังโดยละเอียด"

"ข้า ข้าไม่ใช่ปีศาจ..." คนแก่กลับพูดอย่างนี้ออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ