"มันมาแล้ว ขวางไว้!" น่าหลานฮั่วซินตะโกนเสียงดัง องครักษ์สามนายชักกระบี่ออกมาพร้อมกัน ทั้งสามกลายเป็นค่ายกระบี่เล็กๆ กระบี่โบกพลิ้วสะบัดไปมา สร้างเป็นกำแพงกระบี่ขึ้นมา ได้ขวางสัตว์ประหลาดที่มองไม่ชัดเจนตัวนั้นไว้จริงๆ
ตอนนี้เอง งูยักษ์เย็นสารทฤดูก็โตออกมาแล้ว
เห็นองครักษ์ขวางสัตว์ประหลาดตัวนั้นไว้ น่าหลานฮั่วซินก็ไม่กล้าชักช้า รีบหยิบกล่องหยกขาวออกมา มืออีกข้างก็ชักมีดออกมาขุดงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นไป
แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ตอนที่มีดขุดลงไปตรงรากของงูยักษ์เย็นสารทฤดูแล้ว ความเยือกเย็นที่น่าสะพรึงก็แผ่ซ่านออกมาจากมีดขึ้นมาจนถึงมือของนาง แค่ลมหายใจเดียว มือของนางก็ถูกครอบงำด้วยเกล็ดน้ำแข็งและถูกแช่แข็งเอาไว้ การขุดก็ช้าลง และความเยือกเย็นก็เพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ
นางแน่ใจได้ว่า ถ้านางยังไม่ปล่อยมืออีก มือข้างนี้ต้องถูกแช่แข็งจนขยับไม่ได้อีกตลอดไปแน่นอน!
น่าหลานฮั่วซินทนไม่ไหวแล้ว จึงปล่อยมีดออก มีดเล่มนั้นยังคงเสียบอยู่บนพื้นดิน แต่มีดทั้งเล่มนั้นถูกครอบงำด้วยเกล็ดน้ำแข็งใสๆ เห็นแล้วก็ดูเยือกเย็นจนไม่อาจเข้าใกล้ได้
"ฟ่อ! ฟ่อฟ่อ!"
เสียงร้องของสัตว์ตัวนั้นแปลกมาก แต่ฟังออกว่ามันกำลังโกรธอยู่ ในตอนที่น่าหลานฮั่วซินอยากจะขุดงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นออกมามันก็ไม่สนใจถึงความอันตรายต่างๆ มันพุ่งชนพวกองครักษ์สามนาย หวังอยากจะฝ่าออกมาจากพวกเขา
"ฆ่า!" องครักษ์สามนายพูดขึ้นพร้อมกัน ร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น ขวางมันได้อีกครั้ง
น่าหลานฮั่วซินเห็นว่าใช้มีดไม่ได้ผล ตัดสินใจใช้มือขุดเอา เพื่อป้องกันความเย็น นางใช้ผ้าเช็ดหน้าพันมือเอาไว้ จากนั้นก็รีบจับงูยักษ์เย็นสารทฤดูไว้ นางรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นสุดใจ! รู้สึกเหมือนเลือดของมือข้างนี้ถูกแช่แข็งเอาไว้!
ไม่ได้ ไม่ได้ นานอีกหน่อยมือข้างนี้ของนางคงได้ใช้งานไม่ได้พอดี!
น่าหลานฮั่วซินไม่มีทางอื่นจึงต้องปล่อยมืออีกครั้ง
"ฟ่อฟ่อ!" สัตว์ตัวนั้นร้องอีกครั้ง องครักษ์นายหนึ่งหัวใจเย็นเฉียบ ปากใหญ่กระโจนเข้ามากัดแขนของเขาไว้ เขากำลังจะถอย แต่แขนกลับส่งความเจ็บปวดออกมา ต่อมา เลือดก็พุ่งกระจุยกระจาย เขาเห็นแขนครึ่งท่อนของตัวเองถูกกัดจนขาดไปต่อหน้าต่อตา แล้วตกลงพื้น มือข้างนั้นยังจับกระบี่ไว้แน่น
"อ๊าก! แขนของข้า!"
องครักษ์อีกสองนายกัดฟันพุ่งเข้าหาสัตว์ตัวนั้น
น่าหลานฮั่วซินกลับทนไม่ไหวลุกขึ้นมาแล้วถอยหลังไปหลายก้าว ไม่ได้ ไม่ได้ เย็นเกินไปแล้ว ความเยือกเย็นนั้นมีปราณหยินปนอยู่ด้วย พลังนั้นแตกต่างจากความเยือกเย็นร้อยเท่าพันเท่า ถึงแม้จะไม่ขุดไม่จับงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่น แค่อยู่ใกล้มันเล็กน้อย ความเยือกเย็นก็จะกระจายจากเท้าขึ้นมาสู่ร่างกาย ถ้านางไม่ถอยไปอีก เกรงว่าเท้าของนางจะเดินไม่ได้อีกต่อไป
น่าหลานฮั่วซินยอมรับไม่ได้กับการที่ร่างกายต้องพิกลพิการ นางยังต้องเป็นเทพธิดา แต่งงานเข้าตำหนักจิ่วเซียวอย่างสวยงาม รอนางได้เป็นจักรพรรดินีของเฉินซ่า นางจะช่วยเขากู้ชิงผืนแผ่นดิน อยู่เคียงข้างเขา คอยปกครองผืนแผ่นดินร่วมกับเขา กลายเป็นจักรพรรดินีของเขาไปตลอดกาล!
นางไม่คิดว่างูยักษ์เย็นสารทฤดูนี่พอโตแล้วจะแผ่ซ่านความเยือกเย็นแบบนี้ออกมา เรื่องนี้ไม่เคยมีใครเขียนบันทึกเอาไว้เลย ดังนั้น ถึงแม้นางจะเตรียมตัวมาพร้อมแค่ไหน ก็เกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึงได้ น่าหลานฮั่วซินจะตายอยู่แล้ว แค่อีกอึดใจเดียว! อีกอึดใจเดียวเท่านั้น!
ตอนนี้เอง นางเห็นสาวใช้สองคนของตัวเอง พวกนางถูกสัตว์ร้ายกัดมือขาดไปหนึ่งข้าง แม้จะเลือดไหลไม่หยุด แต่ตอนนี้สีหน้าซีดเซียว นั่งพิงอยู่ข้างๆ อีกคนอดทนใช้มืออีกข้างที่เหลือชูไข่มุกเรืองแสงเพื่อส่องแสงให้นาง อีกคนก็สูดหายใจอดทนกับความเจ็บปวดไม่หยุด
น่าหลานฮั่วซินกัดฟัน "เสี่ยวเฝิ่น เจ้ามานี่"
สาวใช้ที่ชื่อเสี่ยวเฝิ่นก็ลุกขึ้นมาเดินเข้าไปหานางอย่างยากลำบาก "เทพธิดามีอะไรให้รับใช้เจ้าคะ?"
"เจ้าไปถอนงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นออกมา"
"......" เมื่อกี้อาการของน่าหลานฮั่วซินพวกนางเห็นกันหมดแล้ว นางไม่มีวิธี พลังของตัวเองมีน้อยกว่านางเยอะมาก จะมีทางอื่นหรือ? สีหน้าของเสี่ยวเฝิ่นซีดเซียว ตอนนี้ก็ซีดลงกว่าเดิม แต่คำสั่งของน่าหลานฮั่วซินนางไม่กล้าไม่ทำตาม "เจ้าค่ะ"
เสี่ยวเฝิ่นกัดฟัน เดินเข้าไปหางูยักษ์เย็นสารทฤดูที่แผ่แสงสีฟ้าออกมาอ่อนๆ ยิ่งเข้าใกล้ นางก็ยิ่งรู้สึกถึงความเยือกเย็นมากขึ้น นางอยากใช้พลังป้องกันความเยือกเย็น แต่กลับเห็นว่าความเยือกเย็นนี้เหมือนจะแช่เส้นประสาททุกอย่างเอาไว้ กลับหนาวจนใช้พลังไม่ได้! นางแสยะยิ้มอย่างขมขื่น ถ้าใช้พลังป้องกันความเย็นได้ เทพธิดายังต้องใช้นางหรือ?
เดินไปข้างงูยักษ์เย็นสารทฤดูอย่างยากลำบาก นางนั่งลงแล้วจับงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นไว้ ทันใดนั้นน่าหลานฮั่วซินก็กระโจนเข้ามา เหยียบไหล่นางไว้ด้วยขาข้างเดียว ทำให้นางรู้สึกหนักอึ้งและคุกเข่าลงไปกับพื้น เข่าถูกแช่เย็นจนรู้สึกเจ็บไปถึงกระดูก
"อือ----" เสี่ยวเฝิ่นกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น
น่าหลานฮั่วซินรีบจับข้อมือนางไว้ "รีบถอนออกมาสิ!"
โหลชีกับเฉิงสิบโหลวซิ่นเห็นภาพนี้ ทั้งสามก็เบิกตาโพลงโต
"ไม่คิดว่า เทพธิดาที่ผู้คนพูดถึงจะเลวทรามได้ถึงเพียงนี้ หลอกใช้สาวใช้ให้เป็นบันไดของตัวเอง!" เฉิงสิบพูดอย่างดูถูก ผู้หญิงแบบนี้ เทียบกับแม่นางของพวกเขาไม่ได้เลย!
"แม่นาง นางเหมือนจะเอางูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นได้แล้ว ทำยังไงดี?" โหลวซิ่นรู้สึกร้อนรนใจ แม้พวกเขาจะเลือกตามโหลชี แต่ในใจก็ยังภักดีเคารพต่อฝ่าบาท น่าหลานฮั่วซินทำให้พวกเขารู้สึกรังเกียจและขยะแขยง พวกเขาก็ไม่อยากให้นางเอางูยักษ์เย็นสารทฤดูนี่ไปรับรางวัลจากฝ่าบาท
แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย องครักษ์อีกสามนายก็กำลังสู้กับสัตว์ร้ายอย่างขาดใจ แต่สัตว์ร้ายตัวนั้นครั้งนี้มันไม่หลบ รีบพุ่งออกจากวงล้อมเข้าไปหางูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่น
"รอดู ข้ารู้สึกว่าน่าหลานฮั่วซินแม้จะสละสาวใช้ตัวเองก็ไม่มีทางสำเร็จได้" โหลชีเพิ่งพูดจบ ก็เห็นสาวใช้คนนั้นปล่อยมือออกอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของนางซีดเซียวจนเหมือนหิมะ และมือข้างที่จับงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นก็แช่แข็งจนไม่มีสีเลือด
"ทำไมเจ้าต้องปล่อยมือด้วย!" น่าหลานฮั่วซินจะบ้าตายอยู่แล้ว เหลืออีกแค่อึดใจเดียวเอง
อยากจะใช้ยาตัวนี้ บีบบังคับให้เฉินซ่าตกลงคืนความสัมพันธ์อาจารย์ลูกศิษย์กับผู้อาวุโสใหญ่ ยังอยากเป็นพระอาจารย์ ราชครูงั้นหรือ?
แต่นางไม่เข้าใจ ตอนนี้ตำแหน่งในเขาเวิ่นเทียนก็สูงมากแล้วไม่ใช่หรือ? ได้เป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ของเขาเวิ่นเทียน ตอนนี้ดูแล้วน่าจะมีตำแหน่งที่โดดเด่นกว่าตำแหน่งราชครูของพั่วอวี้เสียอีก ไม่งั้นทำไมพวกเขาต้องทำตัววางมาดอยู่เรื่อย?
ทำไมผู้อาวุโสใหญ่ถึงอยากเป็นราชครูแห่งพั่วอวี้นัก?
โหลชีรู้สึกว่า ในนี้ต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่ แต่ตอนนี้นางคิดยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
ตอนนั้นเฉินซ่าถูกไล่ออกจากสำนัก นิสัยที่เจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างเขา จะต้องไม่ตกลงคืนความสัมพันธ์กับเขาเวิ่นเทียนแน่นอน อีกอย่าง ผู้อาวุโสใหญ่ถ้ากลายเป็นราชครูจริง งั้นก็คงได้ชี้นิ้วเรียกสั่งในตำหนักจิ่วเซียว ในพั่วอวี้ไม่ใช่รึ? ก่อนหน้านี้พิธีเลือกสนมของเขายังต้องให้พวกเขากำหนดวันเวลาเลย
เฉินซ่าจะยอมให้พวกเขาขี่หัวตัวเองได้ยังไง นี่มันตลกเกินไปแล้ว
ดังนั้น พวกเขาต้องได้งูยักษ์เย็นสารทฤดูไปบังคับให้เขายอมตกลง
เป็นไปตามที่คิดไว้เลย ยังบอกว่ารักและห่วงใย จึงตามหายาเพื่อเขางั้น
"แม่นาง จะให้นางได้งูยักษ์เย็นสารทฤดูไปไม่ได้นะ" เฉิงสิบพูดกัดฟันกรอด
"เจ้าไปถอนงูยักษ์เย็นสารทฤดูนั่นมา" น่าหลานฮั่วซินพูดกับองครักษ์นายนั้น ตัวเองก็ชักกระบี่ออกมา สะบัดข้อมือ กระบี่ยาวนั่นกลับมีเสียงใสดังออกมาเล็กน้อย
สัตว์ร้ายถอยหลังไปหนึ่งก้าว
โหลชีเห็นกระบี่ในมือของน่าหลานฮั่วซินที่พอใส่พลังเข้าไปแล้วก็เรืองแสงสีขาวออกมา ก็ต้องตกใจไม่เบา "นั่นคือกระบี่อะไรกัน?"
นางไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เป็นกระบี่ที่แค่เห็นก็รู้สึกหัวใจเย็นวาบ! สัตว์ร้ายตัวนั้นยังรู้สึกว่ากระบี่นั่นไม่ธรรมดา กลับไม่กล้าพุ่งเข้าไปโดยตรง
เฉิงสิบพูดเสียงเบาว่า: "ในลำดับอาวุธวิเศษ พิชิตวันจัดอยู่ในลำดับที่หนึ่งอย่างชั่วคราว และกระบี่ในมือของน่าหลานฮั่วซินคือกระบี่หงส์ร้อง ตอนนี้จัดอยู่อันดับที่สี่"
ยังมีการจัดอันดับอาวุธวิเศษด้วยหรือ?
"จัดอันดับชั่วคราว?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ