ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 434

"หัวหน้า! ทางนี้มีกับดัก!"

"หัวหน้า! คนพวกนี้ไม่ชอบมาพากล!"

ความดำมืดไร้ขอบเขต ประหนึ่งอสุรกายอ้าปากของมันออก ฟันขาวซี่ติดๆกันกำลังค่อยๆเขมือบคนเข้าไป

หยู่ซื่อหลงซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยอี่ปาดเหงื่อที่ขมับออก พลางกัดปลายลิ้นเพื่อให้ตื่นตัว "หวังกุ้ยอยู่ที่ไหน?"

ด้านข้างมีทหารตอบอย่างร้อนรนว่า "หัวหน้า ไม่มีใครเห็นรองหัวหน้า ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน!"

"บัดซบ! ไว้เรื่องนี้เรียบร้อย ข้าจะถลกหนังหวังกุ้ยเสียให้ได้!" หยู่ซื่อหลงถึงจะด่าแรงนัก แต่ในใจกลับรู้สึกแปลกมาก หวังกุ้ยนั่นปกติพึ่งพาได้นัก ทำงานก็รับผิดชอบตั้งใจมาก ตอนออกเดินทางเขามักจะเสนอตัวขออยู่เป็นส่วนปลายของกลุ่ม ทำไมครั้งนี้กลับหายไป?

แต่เวลานี้ก็ไม่อาจส่งคนไปตามหาได้ พวกโจรเหล่านี้ยากที่จะรับมือกว่าที่เขาคิดไว้มากนัก ไม่สิ น่ากลัวมาก!

"คิดหาทางจุดไฟก่อน จุดไฟขึ้นมา!"

"แต่ว่าหัวหน้า ที่นี่พวกเราหายังไงก็หาไม้แห้งไม่เจอเลย" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น

พวกเขาไม่ใช่พวกที่เคยติดตามโหลชีกับเฉินซ่าออกไปทุกหนทุกแห่ง ไม่เคยเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดอะไรมากมายขนาดนั้น ดังนั้นเวลาเจอเรื่องแปลกประหลาดไม่แปลกที่จะอลหม่าน แต่เดิมพวกเขาก็เป็นทหารภายใต้บัญชาเฉินซ่าโดยตรง จะอย่างไรก็ต้องนิ่งมั่นกว่าคนปกติอยู่แล้ว

องครักษ์อีกคนในมือถือหินจุดไฟ "ที่ประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ ทุกครั้งที่พวกเราเช็ดหินจุดไฟแห้งแล้ว ประกายไฟเล็กๆก็จะกลายเป็นหัวผี"

พอเป็นแบบนี้ มีทหารมากมายเริ่มมีความหวาดกลัวการจุดไฟแล้ว

เรื่องนี้มันแปลกประหลาดจริงๆ

"งั้นก็เผาเรือน!" หัวหน้าหยู่ซื่อหลงกัดฟันกรอด และตัดสินใจแบบนี้ออกมา

"แต่ว่าหมู่บ้านเล็กในหุบเขานี่แทบจะไหม้หมดแล้ว เหลือเพียงเรือนไม่กี่หลังที่มีโจรคุมอยู่ จะจุดขึ้นมาก็ไม่ง่ายขนาดนั้น"

ถ้าไม่จุดไฟ พวกเขาก็มองสถานการณ์ของหมู่บ้านเขาเล็กไม่ชัดเจน วันนี้ฝนตกห่าใหญ่ขนาดนี้แล้ว ตอนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำ ไม่มีดาวไม่มีพระจันทร์ มืดครึ้มนัก เมื่อครู่พวกเขาก็ปะทะเข้ากับโจร แต่ไม่คิดเลยว่า ทุกครั้งที่ทำคนหนึ่งล้ม จะมีสองคนลุกขึ้นมา ฟันคนนั้นขาดเป็นสองท่อน สองท่อนนั่นก็กลายเป็นสองคน ฆ่ายังไงก็ฆ่าไม่ตาย

ถ้าไม่มีแสงไฟ พวกเขาอยู่ในที่มืด เจอกลุ่มคนประหลาดเยี่ยงนี้ เรียกได้ว่าไม่มีความหวังที่จะชนะเลย เดิมอยากถอยไปก่อน รอฟ้าสว่างค่อยมา แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ทางออกของพวกเขาก็โดนขัดขวาง ตอนนี้เลยเข้าสู่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"ข้าไม่เชื่อหรอก! สั่งการลงไป บุกเข้าไปเลย เจอใครขัดขืนอย่าพึ่งฆ่า ให้จี้จุดหลับให้หมด!" หยู่ซื่อหลงตะคอกเสียงต่ำ

ต่อให้อยู่ในความมืด ปะทะศัตรูโดยตรงแล้วจี้จุดหลับอีกฝ่าย เชื่อว่าลูกน้องตนทำได้แน่!

ในความมืด เหล่าทหารร้องรับ "ขอรับ!"

ทหารร้อยนายไม่เก็บซ่อนอีก เก็บกระบี่ขึ้น หมัดเปล่าพุ่งเข้าไป

ในเรือนที่เดิมเป็นของหัวหน้าหมู่บ้าน จุดตะเกียงไว้สามอันที่ไม่ค่อยสว่างนัก

ประตูห้องโถงเปิดออกตรงข้ามเรือน โต๊ะกลมหนึ่งตัวกั้นหน้าประตู ด้านบนวางกระถางธูปไว้ ควันธูปลอย กลิ่นหอมแปลกประหลาดกระจายในห้อง ถ้าเสี่ยวหนิวอยู่ที่นี่ต้องตกใจมากแน่ที่พบว่า เดิมเขาคิดว่าชาวบ้านคงโดนฆ่าหมดแล้ว ที่จริงแล้วไม่ใช่ สตรีที่หน้าตาพองดงามในหมู่บ้านล้วนยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้อยู่ในห้องนี้ทั้งหมด เพียงแต่บนตัวพวกนางมีเพียงเศษผ้า ปกปิดจุดลับ เนื้อตัวที่เผยออกมาล้วนเต็มไปด้วยรอยช้ำเขียวม่วง สีหน้าก็หวาดกลัวสิ้นหวัง ดูท่าจะได้รับการทรมานมาไม่น้อย

คุณชายเหลียนซินนั่นนั่งอยู่ด้านใน ในมือถือผลไม้กัดกร้วมๆ สาวน้อยนางหนึ่งซึ่งแทบจะเรือนร่างเปล่าเปลือยคุกเข่าบีบขาเขาอยู่ข้างๆ พลางปาดน้ำตาไปด้วย

"ไสหัวไปซะ ร้องไห้คร่ำครวญ เห็นแล้วรำคาญ" คุณชายเหลียนซินปรายตามองนาง พลางถีบยอดอกนางไปหนึ่งที จนกระเด็นไปสองเมตร

สาวน้อยกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ไม่นานก็โดนซิงเอ๋อลากไปหน้าประตู

ชุ่ยเอ๋อที่อยู่หลังโต๊ะกลมหันมามองหนึ่งที แค่นเสียงเย็น หยิบพู่กันแตะเลือดจากในชามที่ใส่เลือดอะไรก็ไม่รู้ออกมาแท่งหนึ่ง เดินไปทางสาวน้อยนางนั้น มือหนึ่งดึงผมยาวของนาง กระชากนางขึ้นมา เริ่มวาดคำสาปไปที่หน้าผากและหน้าอกของนาง

"อ๊า! ปล่อยข้า ปล่อยข้านะ!"

สาวน้อยรู้สึกหวาดกลัวมาก ร้องไห้โหยหวนออกมา แต่ไม่นานนางก็ร้องไม่ออกแล้ว ไม่นานสายตานางแข็งทื่อ ในนั้นไม่มีความหวาดกลัว และไม่มีความสิ้นหวัง

"คุณชาย ให้พวกเขาพาสาวน้อยผู้นี้ออกไปหรือไม่?" ชุ่ยเอ๋อหันกลับมาถามคุณชายเหลียนซิน

"อืม โยนให้พวกเขา คำสาปมุ่งทางของข้าใกล้จะสัมฤทธิผลแล้ว ให้พวกเขาจากไป"

เดิมคุณชายเหลียนซินจะให้พวกเขาตายอยู่ที่นี่ทั้งหมด แต่พอมาถึงที่นี่กลับเปลี่ยนความคิด ให้คนพวกนี้นำทางไม่ดียิ่งกว่ารึ?

แบบนั้นพวกเขาอยู่ในที่ลับ รอหาตัวคนที่สามารถใช้การควบคุมฝันเจอ เขาค่อยใช้วิธีสกปรกอยู่ในที่ลับก็ได้แล้ว จำเป็นต้องเผชิญหน้าสู้กันจนตายไปข้างนึงรึ?

พวกการควบคุมฝันไม่นานก็พบว่าโจรพวกนั้นไม่คณามือหรอก พึ่งประจันหน้าก็ล้มลงทั้งหมดแล้ว ทำให้พวกเขาอดงุนงงไม่ได้

แต่ในตอนที่พวกเขาจะตรวจสอบให้ดี บ้านหลังตรงหน้าพลันมีสตรีกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมา แต่ละคนร้องขอชีวิต วิ่งเข้ามาหาพวกเขา

องครักษ์หลายนายคิดจะยื่นมือออกไปสกัดกั้น แต่กลับพบว่าสตรีเหล่านั้นเรือนร่างเปล่าเปลือยทั้งหมด!

"สวรรค์"

รวมถึงหยู่ซื่อหลง หลายคนพากันหน้าแดง ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

รอจนพวกเขาถอดเสื้อนอกออกมาคลุมให้พวกนางแล้ว ในหมู่บ้านถึงสงบเงียบ

"หัวหน้า พวกเราจัดการโจรเรียบร้อยแล้ว?"

เฉินซ่าเห็นสีหน้าซีดเผือดของนางแล้วปวดใจนัก แต่ก็มิพูดหยุด พวกเขารู้ดีว่า หากทำค่ายกลเลือดมิสำเร็จ แล้วมีศัตรูเข้ามาจะยิ่งลำบาก

ทันใดนั้นมือโหลชีพลันกระตุก รูปใต้มือนั้นเกิดการวาดเพี้ยน

"ทำไมรึ?"

"เฉินซ่า ข้ารู้สึกไม่ชอบมาพากล" โหลชีขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืน "คล้ายจะมีคนลงคำสาปขนาดใหญ่"

ในตอนที่นางวาดค่ายกลเลือดเป็นตอนที่สมาธิแน่วแน่ที่สุด แต่กลับทำให้นางรับรู้ได้ถึงคำสาปขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น เพราะการลงคำสาปขนาดใหญ่ นักคำสาปเหมือนกันย่อมรับรู้ได้ แน่นอน อันนี้หมายถึงอยู่ใกล้กันหน่อย ถ้าอยู่ห่างกันก็รับรู้ไม่ได้แล้ว

นี่ยิ่งยุ่งยาก เห็นได้ชัดว่าอันตรายอยู่ห่างจากพวกเขานิดเดียว!

"แต่ไม่สมควรนี่นา ต่อให้จางมิ่งยังไม่ตาย เขาก็ไม่รู้เรื่องคำสาปนี่!"

สมองเฉินซ่าหมุนเร็วยิ่งกว่านาง "อิง"

อิงรีบก้าวเท้ายาวเข้ามา "นายท่าน?"

"ติดต่อหยู่ซื่อหลง ถามว่ามีอะไรไม่ถูกต้องหรือไม่" เขาคิดไปถึงทหารร้อยนายที่น่าจะคุมเชิงอยู่ในหมู่บ้านเขาเล็ก

"ขอรับ!"

อิงพึ่งออกจากถ้ำ ก็เห็นพลุสัญญาณกลางอากาศดังขึ้นในความมืด เสียงชิ้วดังทำลายความเงียบสงัด สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที

เสียงลมข้างตัวพลิ้วไหวเล็กน้อย โหลชียืนข้างเขา "เกิดอะไรขึ้น?"

"ทางหลุมใหญ่เกิดเรื่องแล้ว!"

ก่อนหน้านี้เขาส่งหลินเสิ้งเวยและหลายคนคอยเฝ้าดูหลุมใหญ่ ให้พลุสัญญาณกับพวกเขาไว้ หากเกิดเรื่องให้ยิงพลุสัญญาณ ตอนนี้พลุสัญญาณขึ้นแล้ว เกิดอะไรขึ้นที่หลุมใหญ่?

"โหลวซิ่น! เจ้าพาคนไปดูหน่อย!" โหลชีรีบบอก "อิง เฉิงสิบ พวกเจ้าเฝ้าฝ่าบาทไว้!"

"แม่นาง แล้วท่านล่ะ?" เฉิงสิบมือกำกระบี่ไว้

"เดี๋ยวข้ากลับมา" โหลชีบอก พลางมองไปอีกทาง ร่างปราดพุ่งออกไป

ฟ้ากำลังจะสว่าง ไม่รู้ว่ามียักษ์ปีศาจมากมายแค่ไหนอยากอาศัยจังหวะที่ท้องฟ้ายังมืดครึ้มอยู่ออกมาหาจังหวะเล่นทีเผลอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ