โหลชีส่งเสียงร้องอินทรีออกมาสองสามเสียง แล้วใช้กำลังภายในส่งออกไปที่ไกล
จริงๆแล้วนางก็มิได้อ่อนแอเช่นนี้ ต้องอยู่ในความปกป้องของพวกเขา แต่เนื่องจากตอนนี้แยกออกจากเฉินซ่าไม่ได้ และนางก็มีความรู้เรื่องกลไกไม่เท่าเขาด้วย ก็เลยให้เขาจัดการเอาเอง ส่วนนางก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขารอเจ้าขาวมา การที่ปล่อยให้คนอื่นปกป้อง และก็มิต้องทำอะไรทั้งสิ้น มันก็สนุกดีอยู่นะ
อีกฝ่ายคิดไม่ถึงแน่นอนว่า กับดักที่ตัวเองวางแผนมาอย่างดี กลับถูกนางรู้สึกสนุก ถ้ารู้เข้าคงต้องโมโหมากแน่
ส่วนสีหน้าของเฉินซ่าแย่ลงเรื่อยๆ
พอเจ้าขาวบินมาถึง พวกเขาก็รีบกระโดดนั่งขึ้นไป คนที่ซ่อนอยู่ในป่าคิดจะออกมาห้ามแต่ก็ไม่ทันแล้ว ทำได้แต่ดูเจ้าขาวพาพวกเขาบินไปอย่างง่ายดาย รู้สึกโกรธขรึมมาก
"รีบกลับไปแจ้งจอมพลและกุนซือ แผนล้มเหลว จะให้ดำเนินแผนชุดที่สามหรือเปล่า!"เสียงที่เย็นชาดังก้องในป่า
"ขอรับ!"
พอพวกเฉินซ่ากลับมาถึงกองทัพ ก็รีบเข้าไปในกระโจม และเรียกอิงกับแม่ทัพท่านอื่นๆเข้ามาปรึกษา ส่วนโหลชีก็มีวิธีการรักษาเชื้อตัวนั้นแล้ว
พบต้นเหตุแล้ว ขอให้แยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกก่อน และอย่าเพิ่งตั้งไฟหุงข้าวก่อนก็จะไม่มีผู้ป่วยรายใหม่แล้ว
นางนำหนอนกู่ลักษณะคล้ายด้ายตัวบางๆหลายตัวนั้นกลับมาศึกษาครึ่งชั่วโมง อยู่ๆก็นึกถึงวู๊วู เห็นได้ชัดว่าวู๊วูมีความรู้สึกต่อเชื้อโรคแบบนี้ แล้วเป็นไปได้หรือเปล่าว่า มันสามารถยับยั้งเชื้อแบบนี้ล่ะ?
"วู๊วูมานี่สิ"
นางโบกมือใส่วู๊วู วู๊วูมองนางด้วยความกลัว จากนั้นก็ถอยไปสองก้าว โหลชีตะลึง รู้สึกว่าพฤติกรรมของวู๊วูคล้ายกับครั้งที่แล้ว ที่ตระกูลเซียวต้องการเลือดหลายหยดของวู๊วูไปหลอมอาวุธวิเศษ แล้วนางเตรียมจะไปเอาเลือดของมัน
นางเข้าใจขึ้นมาทันที จึงดึงพิชิตวันที่อยู่ข้างๆออกมา แล้วทำท่าชูใส่วู๊วู อย่างที่คิดวู๊วูหดตัวลงอย่างน่าสงสาร และหลบไปที่มุมห้อง
เห็นได้ชัดว่าจิ้งจอกม่วงตัวนี้รู้อยู่แล้วว่าเลือดของมันใช้รักษาเชื้อนี้ได้!แต่ถึงแม้มันรู้ว่าเลือดตัวเองใช้รักษาได้ มันก็ไม่อยากถูกดูดเลือดเพราะมันกลัวเจ็บ ดังนั้นก่อนหน้านี้ที่สนิทสนมกับเฉิงสิบ อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดแหละ และมันยังช่วยนางหาต้นเหตุติดเชื้ออีก เป็นเพราะอยากให้นางหาวิธีอื่นมารักษาใช่เปล่า?
โหลชีรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทอดถอนใจอีกทีว่าไอ่น้อยนี่อัจฉริยะจริงๆเลย
นางก็สงสารมัน แต่ตอนนี้เวลาไม่พอแล้ว คืนนี้พวกเขารอดพ้นจากกับดักของศัตรู พวกเขาจะต้องมีแผนอย่างอื่นตามมาแน่นอน ดีสุดตอนนี้นางควรรีบรักษาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด
"เด็กดีนะ มานี่เร็ว"นางหยิบเม็ดยาที่ทำมาจากหญ้าเทียนจีที่มันชอบที่สุดออกมาขวดหนึ่ง แล้วโบกมือใส่นาง
ถึงแม้บรรดาแม่ทัพไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาประชุมอยู่ที่นี่ แต่พระสนมยังนั่งพิงฝ่าบาท แถมยังเล่นกับจิ้งจอกน้อยอีก แต่พวกเขาไม่กล้าเสือกไปถามหรอก เพราะความรักใคร่ที่ฝ่าบาทมีต่อพระสนมพวกเขาล้วนเคยเห็นกับตาแล้ว
เฉินซ่าหันไปเห็นจิ้งจอกม่วงสั่นหัวและกระดิกหางอยู่ที่เดิม เห็นได้ชัดว่ามันไม่อยากเข้าใกล้โหลชี ก็เลยตะลึง เมื่อก่อนมันชอบวิ่งเข้าหาอ้อมแขนของนาง แต่มักจะถูกเขาโยนออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ข้าสงสัยว่าเลือดของมันรักษาเชื้อโรคนี้ได้"โหลชีเห็นเขาสงสัย เลยอธิบายเบาๆ
เฉินซ่ารู้สึกแปลกใจ ตะลึงและพูดต่อว่า"ผู้ป่วยนับพันคน หากต้องใช้เลือดของมันรักษา งั้นก็ต้องใช้เลือดทั้งหมดของมันอย่างนั้นหรือ?ช่างเถอะ คิดวิธีอื่นละกัน ถึงแม้ให้ผู้ป่วยพวกนี้อยู่รักษาก่อน ทหารที่เหลือก็พอสู้รบแล้ว"
ตอนนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นก็ดีแล้ว ถึงแม้เขาไม่ค่อยชอบจิ้งจอกน้อยตัวนี้ แต่ยังไงมันก็เป็นสัตว์อัจฉริยะ เติบโตถึงขั้นนี้ไม่ง่ายเลย ถ้าต้องใช้ชีวิตของมัน มาแลกกับชีวิตทหารของเขา เขาจะรู้สึกติดบุญคุณเจ้าน้อยตัวนี้ จะไม่ค่อยสบายใจ
มันเหมือนฟังออกคำพูดของเฉินซ่า คิดไม่ถึงว่าฝ่าบาทที่ทำตัวเย็นชากับมันในปกติกลับเมตตากับมันเช่นนี้ ไม่อยากใช้เลือดของมันไปช่วยคนเหล่านั้น ลูกตากลมของมันหมุนไปหมุนมา จนกระทั่งน้ำตาคลออยู่ในตา มองเขาด้วยดวงตาที่เปียกชื้น เห็นได้ชัดว่ามันซาบซึ้งใจแล้ว
โหลชีเห็นมันทำท่าแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา"จุ๊ๆๆ ดีนะมันไม่ใช่ปีศาจที่สามารถแปลงร่างเป็นสาวงามได้ ดูสิมันซาบซึ้งใจแบบนี้ ถ้าแปลงร่างเป็นสาวงามได้ก็คงจะแต่งงานกับเจ้าเพื่อตอบแทนบุญคุณแล้วเนอะ?"
พอพูดเสร็จ นางก็โดนตบหัวทีหนึ่ง"เจ้านี่พูดเพ้อเจ้ออีกแล้ว"
เฉินซ่าทำหน้าบึ้งตึง อยากจะตีตูดนางจริงๆเลย
แม่ทัพแต่ละคนต่างก้มหน้ากัน พยายามลดตัวตนลง แกล้งทำเป็นว่าตัวเองไม่อยู่ในนี้
ฝ่าบาท พระสนม เจ้าสองคนสนิทสนมแสดงความรักกันต่อหน้าผู้ชายที่สู้รบอยู่ข้างนอกมาหนึ่งเดือน ยังไม่มีโอกาสได้ระบายความต้องการสักหน่อย แบบนี้มันดีจริงหรือ?
ต่อหน้าพวกเขาฝ่าบาทจะเป็นคนเย็นชาและพูดน้อยตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าอยู่ต่อหน้าพระสนมจะมีน้ำใจเช่นนี้
โหลชีไม่มีเวลาไปสนใจแม่ทัพพวกนี้คิดอะไรอยู่หรอก นางแค่รู้สึกว่าจิ้งจอกตัวนี้กับผู้ชายคนนี้ไม่เชื่อใจนางเลย เข้าใจผิดนางแล้ว นางทำหน้าจริงจังแล้วเอ่ยว่า"ในสายตาของพวกเจ้าข้าไร้ซึ่งน้ำใจอย่างงั้นหรือ?ข้าต้องการเลือดของวู๊วูก็จริง แต่ก็แค่เอาหน่อยเดียวมาวิจัยเท่านั้น ข้าจะหาสิ่งที่ทดแทนให้ได้ ถึงแม้ต้องใช้จริงๆ ข้าก็เอาไม่เยอะหรอก คิดว่าข้าจะดูดเลือดทั้งหมดของมันไป ให้มันกลายเป็นเนื้อจิ้งจอกแห้งอย่างงั้นหรือ?"
เกายู่หู่ทั้งโกรธทั้งตกใจ"ใครกล้ามาหาเรื่องที่นี่!"คำพูดนี้ส่งตรงไปทางอินทรีอย่างชัดเจน เสียงมิได้กระจายไปตามลมเลย
พวกเขานั่งอยู่บนหลังของเจ้าขาว ก็ยังได้ยินคำพูดนี้อย่างชัดเจน ราวกับพูดอยู่ต่อหน้า โหลชีเลิกคิ้ว"คิดไม่ถึงว่ากำลังภายในของเกายู่หู่แข็งแกร่งขนาดนี้!"
พวกเขาล้วนเน้นไปที่ทหารเสือของเกายู่หู่ และหลายวันนี้เพิ่งรู้ว่ายังมีกุนซืออีกคน แต่คิดไม่ถึงว่า ตัวเกายู่หู่เองมีวิทยายุทธล้ำเลิศเช่นนี้
"แต่ก็ไม่แปลก ถ้าเขาไร้ความสามารถ งั้นกุนซือจะยอมติดตามเขาได้อย่างไร"เฉินซ่าพูดอย่างราบเรียบ
คำพูดนี้ของเกายู่หู่เป็นการเผยความสามารถของตัวเอง เพื่อทำให้คนนั้นกลัวและยอมแพ้ก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมา แต่เขาคงยังมองไม่ชัดว่าคนที่ถูกแขวนอยู่ข้างล่างนั้นเป็นใครกันแน่ เฉินซ่ากำลังคิดจะตอบกลับ แต่โหลชีตบไหล่ของเขาและพูดว่า"เจ้าไม่ต้องปรากฏตัว ให้ข้ามาก็พอ"
นางกะพริบตา และใช้กำลังภายในส่งเสียงลงไปเช่นกัน
"เฮ้ย ไอ้แก่เกายู่หู่หรือเปล่า?พวกเรานำลูกสาวของเจ้ากลับมาส่งด้วยความหวังดี เจ้าปฏิบัติต่อผู้มีบุญคุณแบบนี้หรือ?"
พอได้ยินคำพูดนี้ คนพวกเกายู่หู่ก็ล้วนตกใจหมด กำลังภายในของโหลชีไม่ได้แย่กว่าเขาเลย แถมยังตั้งใจส่งเสียงออกไปไกลๆ คนที่อยู่บริเวณนี้ได้ยินกันหมดแล้ว
เกายู่หู่ตั้งใจมองไปยังคนที่ถูกแขวนอยู่กลางท้องฟ้าอย่างละเอียด กว่าจะจำใบหน้าและรูปร่างจนได้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
"อินอิน!"
ฮูหยินเกาออกมาพอดี พอได้ยินคำพูดนี้ขาก็อ่อนแรงทันที"นายท่าน เจ้าว่าอะไรนะ?คนนั้นคืออินอิน?"
พอเงยหน้าเห็นคนที่ถูกอินทรียักษ์พาหมุนไปมาอยู่กลางท้องฟ้า นางก็สงบไปทันที อาจจะเป็นเพราะใจแม่ลูกผูกพันอยู่ด้วยกัน ถึงแม้นางมองไม่ชัดเจน แต่ก็จำได้ว่าเป็นลูกสาวของตัวเอง
"ตกลงเป็นใคร!"เกายู่หู่รีบให้คนพาฮูหยินเข้าห้องไป และในขณะเดียวกันก็พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา"รีบไปเชิญกุนซือซู่มา!มือธนูเตรียมตัว!"
เขาจะยิงอินทรีตัวนั้นลงมาให้ได้!
เนื่องจากพวกเขาเจตนาจะให้เกายู่หู่เห็นเกาอินอิน ดังนั้นจึงบินได้ไม่สูงเท่าไหร่ อยู่ในระยะการยิงถึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ