โอกาสรอดชีวิตแทบจะหายไปในชั่วพริบตา คนที่อยู่ในสระต่างก็เผยสีหน้าท่าทางที่หวาดกลัวและสิ้นหวังออกมา แต่หากพวกเขานึกว่าจะได้ตายไปในชั่วพริบตาเดียวอย่างนี้ไปได้ เช่นนั้นก็คือการฝันหวานเกินไปแล้วล่ะ
ตามด้วยเฉินซ่าตวัดแขน เสียงกระบี่ยาวดังขึ้น ซูหลิวอวิ๋นกับน่าหลานฮั่วซินรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆทั้งเป็นทันที ราวกับว่าคนทั้งคนกำลังจะละลายกลายเป็นน้ำ เลือดและกระดูกถูกหลอมละลาย จากนั้นก็ถูกพลังนั้นดูดเข้าไปจนหมด เจ็บ เจ็บปวดอย่างสุดขีด
ตอนแรกพวกนางยังกรีดร้องเสียงแหลม แต่ว่าต่อมา แม้แต่จะร้องก็ยังร้องไม่ออกแล้ว
ในเวลานี้ พวกนางถึงขั้นเสียใจภายหลังแล้ว รู้อย่างนี้ไม่สู้ตายไปข้างนอกดีกว่า รู้อย่างนี้ไม่ต้องเปลี่ยนให้ตันเอ๋อร์มาตายแทนนาง ถูกฝ่ามือตบหัวระเบิดไปเช่นนั้นก็ยังดีกว่าเป็นเช่นนี้
ไปๆมาๆดูเหมือนพวกนางกลับเลือกทางที่ลำบากและเจ็บปวดที่สุดให้กับตัวเองทางหนึ่ง เลือกวิธีตายที่น่าอนาถที่สุด
โหลชีไม่ได้ไปดูการตายของพวกนางอีก ถึงอย่างไรครั้งนี้พวกนางก็หนีไม่รอดอย่างแน่นอน
นางใช้พิชิตวันตัดโซ่ให้กับฉินซูเป่าและคนอื่นๆ เฉิงสิบเอายาที่อยู่ในเข็มขัดออกมา ไม่มีเวลาสนใจจะแอบเก็บไว้เอง ยาที่สามารถใช้ได้ก็แทบจะใช้กับพวกเขาทั้งหมด
และในขณะที่ตรวจวินิจฉัยให้กับพวกเขา โหลชีพบว่าผู้นำทหารเหล่านี้ถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย แต่เจตจำนงของพวกเขายังคงแน่วแน่ แม้แต่ร่างกายก็ยังสามารถยืนหยัดเอาไว้ หากเป็นคนอื่นคงยืนหยัดต่อไปไม่ไหวนานแล้ว
นางแสดงความชื่นชมและนับถือในข้อนี้จริงๆ ฉินซูเป่ากล่าวอย่างภาคภูมิใจ: "ไท่จื่อเฟยท่านไม่รู้ ฝ่าบาทเป็นบุคคลที่มีเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้า กองราชาอสูรเทพห้าหมื่นนาย ทั้งหมดล้วนเคยแช่ยาสมุนไพรที่มีมูลค่าเป็นพันตำลึงทอง ทุกๆคนล้วนถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันทั้งนั้น! ดังนั้น ทุกๆคนในกองราชาอสูรเทพ ในสนามรบล้วนสามารถสู้กับศัตรูหนึ่งต่อสิบทั้งนั้น!"
โหลชีฟังอย่างตกตะลึงอย่างมาก
ตัวนางเองก็มาจากการแช่น้ำยาสมุนไพร ย่อมรู้อยู่แล้วว่าการทำเช่นนี้ต้องสิ้นเปลืองทั้งทรัพยากรทางการเงินและวัสดุ แต่ว่าทหารห้าหมื่นนายล้วนเคยแช่ทั้งหมด นี่เป็นแนวคิดแบบไหนกัน? สิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นว่า ราชวงศ์เฉินในอดีตนั้นแข็งแกร่งและร่ำรวยมากจริงๆ! มิน่าถึงทำให้คนอิจฉาตาร้อน
เพราะเหตุนี้ นางถึงยิ่งต้องช่วยทหารห้าหมื่นนายนี้!
"บู้ม!"
จู่ๆก็มีเสียงบู้มดังมาจากทางด้านสระ พื้นดินก็ยังสั่นสะเทือนขึ้นมา เพราะพวกเขาอยู่ตรงกลางเขา เมื่อสั่นสะเทือนเช่นนี้ บนศีรษะก็มีเศษดินและกรวดหินร่วงหล่นลงมา
หลังจากความเคลื่อนไหวสงบลงแล้ว พวกเขาต่างก็มองไปทางสระ กลับเห็นทั่วทั้งสระแตกกระจายไปทั่วแล้ว คนสิบกว่าคนที่อยู่ข้างในล้วนหายไปหมด แต่ว่าบนพื้นกลับมีเศษผ้าตกอยู่มากมาย......
"กระบี่ดื่มเลือดช่างโหดร้ายเหลือเกิน......" อิ้นเหยาเฟิงบ่นพึมพำออกมาคำหนึ่งด้วยความตกตะลึง
หลงเอี๋ยนแอบร้องโอ้โหขึ้นมาคำหนึ่ง "แค่โหดร้ายที่ไหน นี่มันหัวรุนแรงชัดๆ"
เฉินซ่าลงไปบนพื้น มองมาทางโหลชีครู่หนึ่ง "ชีชีมาทางนี้"
โหลชีเม้มปากแล้วก็เดินไปทางเขา รู้สึกแค่ว่าตอนนี้เขาเหมือนจะติดนางไปหน่อย แต่ดูแล้วเห็นได้ชัดว่าได้สติกลับมาแล้ว สมองจะไม่ว่างเปล่าอีก
"ดูสิ" เฉินซ่ายื่นกระบี่ให้นาง
โหลชีรับกระบี่ดื่มเลือดมา รู้สึกแค่ว่าหนาวเย็นเข้ากระดูก แค่มองดูเช่นนี้ก็ทำให้คนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
กระบี่ที่โหดร้ายรุนแรง ตอนนี้จิตวิญญาณกระบี่ก็ถือว่าได้เติมเต็มแล้ว แต่น่ากลัวเช่นนี้ ตอนนี้ก็มีเพียงเฉินซ่าเท่านั้นที่สามารถยับยั้งมันเอาไว้ได้
นางยื่นกระบี่ดื่มเลือดคืนให้เขา เฉินซ่ารับกระบี่มา ตะโกนเสียงดังขึ้นมาจากนั้นก็แทงกระบี่ไปทางกลางสระ
"บู้ม"
เสียงดังสนั่นดังขึ้นมาอีก จู่ๆชั้นถัดมาของพื้นดินทั่วทั้งสระที่แตกกระจายไปทั่วแล้วก็แยกออกจากกันเป็นสองส่วน ค่อยๆจากออกจากกันไปทางทั้งสองด้าน เผยให้เห็นถึงสถานการณ์ข้างในที่ทำให้คนตกตะลึง
หลุมภูเขาที่ลึกยิ่งกว่าหลุมหนึ่ง บริเวณโดยรอบล้วนเป็นขั้นบันได บนบันไดทุกขั้นล้วนมีทหารที่สวมชุดเกราะยืนอยู่ เนืองแน่นไปหมด มีนับหมื่นๆนาย คิ้วและริมฝีปากของทุกคนล้วนมีเกล็ดน้ำค้างเล็กน้อย ราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้ แต่ว่า ลมหายใจของพวกเขากลับยังมีอยู่อย่างชัดเจน
เมื่อฉินซูเป่าและคนอื่นๆเห็นภาพนี้ จมูกก็แปล๊บขึ้นมา จากนั้นน้ำตาก็ไหลลงมา น้ำตาลูกผู้ชาย อารมณ์ที่โศกเศร้า ทหารราชาอสูรเทพมากมายปิดผนึกตนเองอยู่ที่นี่ ผู้นำทหารอย่างพวกเขากลายเป็นดวงตาค่ายกลที่ปิดผนึกค่ายกลของพวกเขาเอาไว้ เดิมที...ก็ทำให้พวกเขายากที่จะทนรับได้อยู่แล้ว
ทหารที่แข็งแกร่งที่สุดจากราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินใหญ่หลงหยิน ในที่สุดเวลานี้ก็เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง
ริมฝีปากบางของเฉินซ่าเม้มแน่น และก็มีความเศร้าและฮึกเหิมเล็กน้อยเช่นกัน เขาหันกลับมา มองไปทางโหลชี ในตอนนี้โชคดีที่มีนางอยู่ข้างเคียง โหลชียื่นมือไปกุมมือของเขาเอาไว้
ไม่ไกลออกไป อวิ๋นตะลึงงัน ก่อนหน้านี้น่าหลานฮั่วซินบอกไว้ว่า พระสนมถูกผงยาอะไรนั่นของนางแล้ว ไม่สามารถมีความสัมพันธ์ทางกายกับนายท่านได้อีกไม่ใช่หรือ?
ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเขา สายตาของโหลชีเบนมายังใบหน้าของเขา จู่ๆก็รู้สึกตลกขึ้นมา องครักษ์อวิ๋นเขา...ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่นางถนัดที่สุดคืออะไร
ขณะนี้ จู่ๆ นางก็นึกอะไรบางขึ้นมา......
"ฮ่าๆๆ ในที่สุดการกุมขังของกองราชาอสูรเทพนี้ก็กำลังจะได้รับการปลดปล่อยแล้ว"
ข้างบนของกลางเขา ห้องหนังสือผู้อาวุโสใหญ่เขาเวิ่นเทียน ฟังข่าวที่สายลับกลับมารายงาน ผู้อาวุโสทั้งสี่ของเขาเวิ่นเทียน รวมทั้งจิ่งเมิ่งแห่งเขาปี้เซียน แล้วก็ยังมีผู้ครองเขาเฉินอวิ๋นและคนอื่นๆที่เร่งเดินทางมาจากแดนไกล แต่ละคนต่างก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
"ผู้ครองเขาเฉินอวิ๋น น้องสาวของท่านฮูหยินเหยา แล้วก็ยังมีลูกสาวของพวกท่านนางฟ้าหลิวอวิ๋น ล้วนโชคร้ายจากไปแล้วใช่ไหม" จิ่งเมิ่งยกถ้วยน้ำชาขึ้นมา ปาดฟองชาด้วยฝาปิดเบาๆ มองไปที่ผู้ครองเขาเฉินอวิ๋นที่สง่างามและหล่อเหลาแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย
แล้วก็เห็นใบหน้าของอวิ๋นแข็งทื่อไปก่อนจริงๆ จากนั้นก็เข้าใจเล็กน้อย ต่อจากนั้นก็แตะไปที่จมูกอย่างเขินอายมากแล้วก็เบือนหน้าออกไปไม่มองมาทางด้านนี้อีก นางหลุดหัวเราะพุดขึ้นมา
หากบอกว่าเยว่คือสงบนิ่งแฝงความสง่างาม อวิ๋นก็คือแข็งกร้าวแต่มีเหตุผล แต่ว่าแกล้งเขาเช่นนี้ ก็ทำให้นางรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย
ตอนนี้นักพรตเลวยังไม่กล้าพูดเลยว่าสิ่งที่เขาทำขึ้นมาจะสามารถลอบทำร้ายนางลับหลังได้ น่าหลานฮั่วซินถือเป็นอะไรกัน? แค่ผงยาเล็กน้อยนั่นของนาง ถือเป็นอะไรกัน? นางไม่จำเป็นต้องลงมือปรุงยามาแก้เลยด้วยซ้ำ สรรพคุณทางยาที่มีติดตัวก็สามารถทำลายมันทิ้งแล้วไหม ไม่ต้องพูดถึงยาสมุนไพรที่นางเคยแช่เมื่อก่อนเลย พูดถึงแค่ดวงใจน้ำพุที่นางกลืนเข้าไปเม็ดนั้น ถือว่ามันไม่มีอยู่หรือ?
ในตอนที่นางกำลังได้ใจอยู่ ก็ได้ยินเสียงของเฉินซ่าดังอยู่เหนือศีรษะ
"ชีชีหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่เช่นนี้? งั้นก็รีบแก้กู่ให้ข้าเร็วหน่อย ข้าจะปล่อยให้เจ้าสนิทสนมแนบแน่นให้พอใจเลย เป็นเช่นไร?"
โหลชีรู้สึกหมดคำจะพูด รีบถอยออกมาจากอ้อมแขนของเขาทันที เงยหน้าสบตากับสายตาที่ล้ำลึกแต่เร่าร้อนของเขา ฟังเสียงที่แฝงความแหบแห้งเล็กน้อยของเขา "ข้าปลดปล่อยพวกเขาออกมาก่อน กลางคืนค่อยกอดเจ้า อดทนหน่อย"
จะเป็นลม พูดอย่างกับว่านางทำเพื่อจะกอดเขาสนิทสนมแนบแน่นกับเขา อดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วอย่างนั้นแหละ! นางไม่ได้หิวกระหายขนาดนั้นจริงๆนะฝ่าบาท!
นางจ้องมองเขาอย่างตำหนิครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอยไปอยู่ด้านหนึ่ง
ฉินซูเป่าและคนอื่นๆเห็นพวกเขาเช่นนี้กลับดูเหมือนจะรู้สึกปลาบปลื้มยินดี "ฝ่าบาทกับฮองเฮาก็รักกันเช่นนี้ ไท่จื่อกับฝ่าบาทช่างเหมือนกันจริงๆ"
ความรักเดียวใจเดียวก็สามารถถ่ายทอดกันได้หรือ โหลชีแตะไปที่จมูก
ฉินซูเป่าและคนอื่นๆต่างก็รู้สึกประหลาดใจกับยาของโหลชีอย่างมาก เดิมทีนึกว่าตนเองกำลังจะตายแล้ว ใครจะรู้ว่าเมื่อกินยาของนางเข้าไปแล้ว พักผ่อนไปแค่ครู่เดียว กำลังภายในก็ฟื้นคืนมากว่าครึ่ง แม้แต่บาดแผลภายนอกก็หายดีแล้ว
พวกเขาเดินมาข้างหน้า อธิบายวิธีปลดปล่อยทหารราชาอสูรเทพที่ถูกกุมขังให้กับเฉินซ่า
"ต้องใช้เลือดของไท่จื่อ"
เฉินซ่าไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
เลือดอุ่นสีแดงสด ถูกโปรยออกไปราวกับฝน หยดลงไปบนร่างของทหารเหล่านั้น เปรียะๆๆราวกับมีเสียงแผดเผาดังขึ้นมา
ราวกับว่าแม้แต่วิญญาณก็กำลังลุกโชน
ในเวลานี้เอง โหลชีก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยอย่างหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ