ระเบิดพันทำลายที่โหลชีปรับปรุงมาแล้ว มีหรือที่กระหึ่มบ้านของคนพวกนี้จะเทียบได้? นี่เป็นระเบิดมัลติที่กดดันเพิ่มเข็มพิษนับไม่ถ้วนไว้ในด้านใน อย่าว่าแต่โดนเศษระเบิดบาดเข้า เข็มพิษเพียงเล็กน้อยที่ยิงออกมาจากด้านในก็เอาชีวิตได้หมด อานุภาพร้ายกาจนัก
"บรึ้ม!"
เสียงระเบิดดังสนั่น พลิกผันราบไปด้านหนึ่งเลย
"จักรพรรดินีมีรับสั่ง ผู้ที่มารุกรานแคว้นเรา ฆ่าไม่เว้น! ผู้ที่ฆ่าฟันทำร้ายราษฎรเรา ฆ่าไว้ก่อนเลย!"
"ฆ่า!"
"ฆ่าฆ่าฆ่า!"
เสียงคำรามดังสนั่นสะเทือนหู ราศีกลบทัพศัตรูมิด กองทหารราชาอสูรเทพทุกคนราวกับมีพลังเต็มเปี่ยม ไม่รู้จักกลัวไม่รู้จักเหนื่อยไม่รู้จักถอย ทุกคนล้วนสู้อย่างไม่คิดชีวิต ลงมือทีตายในกระบวนท่าเดียว พยายามสุดกำลังเอาชีวิตอีกฝ่าย
ทหารยักษ์ร้ายเก่งกาจแล้วยังไง? พวกเขาเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากันหรอก!
"จักรพรรดินีมีรับสั่ง ปกป้องดินแดนเรา ฆ่ามันฆ่ามันฆ่ามัน!"
"ฆ่าฆ่าฆ่า!"
ฆ่าฆ่าฆ่า! ง่ายๆดุดันๆแบบนี้เลย!
สาสน์ร้อนใจของโหลชีนั้นพลังทะลุกระดาษออกมา ตอนนั้นก็กระตุ้นความฮึกเหิมเร่าร้อนของฉินซูเป่ากับเยว่ ขวัญกำลังใจทหารต้องการการปลุกระดมอยู่ ในสนามรบ ราศีและขวัญกำลังใจก็สามารถกลายเป็นพลังที่ทำลายอีกฝ่ายได้
ศึกครั้งนี้เป็นการคาดเดาตามคำสั่งของโหลชี พวกเขาเองต่างก็รู้ว่าโหลชีโกรธจัดแล้ว ถึงแม้กองทหารราชาอสูรเทพจะเป็นกองทัพของราชวงศ์เฉิน แต่พวกเขาต่างยอมศิโรราบให้โหลชีนานแล้ว คำสั่งของโหลชีก็คือคำสั่งของไท่จื่อ! คำสั่งของโหลชี พวกเขายอมศิโรราบจากใจเลย!
โหลชีไม่เคยคิดเรื่องสู้กันอย่างเปิดเผย ในใจนาง การสู้รบไม่เลือกวิธีการ วิธีรบมีร้อยแปด มีอาวุธอะไรก็เอาออกมาทำลายอีกฝ่ายให้หมดก็ได้แล้ว!
และนางรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์เฉินหรือราชวงศ์ซวนหยวน พวกเขาก็ต้องการชัยชนะในครั้งนี้ และยังต้องการชัยชำนะที่ทำให้คนยอมศิโรราบจากใจอีกด้วย!
คำพูดเดิมของนางคือ พวกเราต้องชนะ และต้องชนะอย่างโอหังเหิมเกริมด้วย! พวกเราต้องให้ศัตรูศิโรราบ จะให้ราชวงศ์อื่นที่คอยแวดล้อมเฝ้าดูละครอยู่ฉี่ราด จะให้ราษฎรของพวกเราเองรู้ว่าซวนหยวนและตระกูลเฉินไม่มีทางล้ม!
หนี? อยากจะไปพึ่งพิงราชวงศ์เฮ่อเหลียน?
หนีกะผีสิ พึ่งพิงกะผีสิ! พวกเราต่างหากที่แข็งแกร่งที่สุด!
เสือพักเรอ พวกเจ้าก็มาลูบก้นรึ? ถุย! ข้าไม่ทำเจ้าให้ตายข้าจะใช้แซ่เจ้าเลย!
ฉินซูเป่าเหาะลอยขึ้นมา ตัดหัวแม่ทัพอีกฝ่ายมาเลย เหยียบบนม้าศึกอีกฝ่าย ตะโกนร้องก้องว่า "ไท่จื่อราชวงศ์เฉินและองค์หญิงราชวงศ์ซวนหยวนมีรับสั่ง พวกข้าสาบานจะทำลายแคว้นแทตย์ให้ราบเป็นหน้ากลอง และนำหัวฮ่องเต้แคว้นแทตย์มาให้ได้!"
"แคว้นอื่นเชิญดูละครตามสบาย หากกล้ามาซ้ำเติมตระกูลเฉินและซวนหยวน พวกเราจะตามไปทำลายให้สิ้นซาก!"
บ้า บ้าไร้ขอบเขตแล้ว
ศึกของเมืองจิ้งครั้งนี้ หลายราชวงศ์ใหญ่ไหนบ้างไม่คอยจับตาดู? พวกเขาก็จะอาศัยโอกาสนี้ประกาศแก่ใต้หล้าว่า พวกเขามาแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นแผนการโปร่งใสแผนการดำมืด มา พวกเขาไม่กลัวพร้อมรับเรื่องเสมอ! สู้ก็พอแล้ว!
"ฆ่า! พวกเราก็ไปด้วย" เหล่าทหารเฝ้าเมืองล้วนโดนคำสั่งนี้ตะคอกจนเลือดลมเดือดพล่าน มือคว้าดาบใหญ่ก็พุ่งออกไป พวกเขาก็จะไปร่วมรบด้วย ปกป้องบ้านเมือง! พวกเขาเป็นประชาชนของราชวงศ์เฉิน เป็นทหารของราชวงศ์เฉิน พวกเขากลัวอะไร? กลัวทำไม!
ศึกครั้งนี้สู้รบอย่างดุดันเปิดเผย ทำให้พวกไท่ซ่างหวงเห็นถึงความแข็งแกร่งของกองทหารราชาอสูรเทพ และยังเป็นความแข็งแกร่งที่ปรับปรุงแล้วด้วย
พิษ พิษอันน่ากลัว พอสาดลงไปก็ล้มไปเป็นแถบ พิษนี้ร้ายแรงจนทำให้คนตัวสั่นเทา
ระเบิดพันทำลาย ลูกบอลเหล็กกลมลูกเล็กๆนั่น พอโยนออกไป เสียงดังสั่นสะเทือนแก้วหู และก็ล้มไปอีกเป็นแถบ
บวกกับกองทหารราชาอสูรเทพที่เดิมก็แข็งแกร่งจนสามารถสู้ได้หนึ่งต่อสิบ ศึกนี้เรียกได้ว่าพลิกฟ้าพลิกดิน เลือดไหลนองเต็มพื้น จนทุกพื้นที่มีแต่เลือด
ฉินซูเป่าและเยว่สองคนพอเข้าสู่สนามรบก็ดุดันไร้ใครเทียม ฆ่าศัตรูจนร่างตนเองโดนย้อมไปด้วยเลือด สุดท้ายตอนออกจากสงครามก็มองหน้าตาของทั้งคู่ไม่ชัดแล้ว
ถึงฝ่ายตนจะมีการบาดเจ็บล้มตาย ศึกนี้สูญเสียทหารไปถึงสองพันคน แต่สามารถทำทหารยักษ์ร้ายจนแตกซ่านกระเซ็นหนีไป! สุดท้ายเหลือเพียงไม่กี่หมื่นถอยหนีไปพันลี้อย่างน่าอนาถ ต้องพูดจริงๆว่าเป็นปาฎิหารย์!
"สวรรค์คุ้มครองตระกูลเฉิน สวรรค์คุ้มครองตระกูลเฉินจริงๆ!" ที่อยู่บนกำแพงเมือง ไท่ซ่างหวงตระกูลเฉินน้ำตาไหลอาบแก้ม
และในเหล่าแม่ทัพที่กลับมา มีใบหน้าสองหน้าที่คล้ายคลึงกันเข้าสู่สายตาเขา นั่นเป็นบุรุษสองคนที่องอาจหล่อเหลา ชุดเกราะบนร่างต่างถูกย้อมไปด้วยเลือดสด แต่สายตาพวกเขากลับเป็นประกายสดใส
ไท่ซ่างหวงมองพวกเขาเดินมายืนหน้าตนอย่างตกตะลึง
"พวกเจ้า..."
"ลูกเขย ซวนหยวนอี้ คารวะท่านพ่อตา"
"หลานชายซวนหยวนฉงโจว คารวะท่านตา"
"..." ไท่ซ่างหวงรู้สึกเต็มตื้นในคอหอยตน
ซวนหยวนฉงโจวลุกขึ้น เข้ามาจับมือสั่นเทาของเขา "ท่านตา พวกเรากลับมาแล้ว"
"ดี ดี กลับมาก็ดีแล้ว...."
เพียงแต่ชื่อเสียงจักรพรรดินีน่าเกรงขามขนาดนี้ จะกดหลานชายเขาลงไปหรือไม่?
สองพ่อลูกซวนหยวนอี้ได้ยินคำพูดเขา อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ถึงเขาจะไม่ได้พูดจบ แต่พวกเขาเข้าใจความหมายของเขา
"ท่านพ่อตา ภรรยาของเฉินซ่าชื่อโหลชี อันที่จริงควรจะเป็นซวนหยวนชี เป็นหลานสาวของข้าเอง ลูกสาวคนเล็กของเสด็จพี่ข้า"
"องค์หญิงน้อยคนนั้นของตระกูลซวนหยวน?" ไท่ซ่างหวงประหลาดใจ "ขนาดองค์หญิงน้อยก็หาเจอแล้วรึ? นางเป็นคนอย่างไร?"
"เสี่ยวชีดีมาก" ซวนหยวนอี้และซวนหยวนฉงโจวพูดพร้อมกัน
ไท่ซ่างหวงพยักหน้า "ข้าเชื่อสายตาพวกเจ้า ซ่าเอ๋อร์ชอบเองรึ?"
"เฉินซ่าเห็นนางเป็นแก้วตาดวงใจ" ซวนหยวนฉงโจวหัวเราะอีก "ท่านตา ท่านไม่ต้องกังวลว่าเสี่ยวชีจะกดทับเหนือเฉินซ่าหรอก เสี่ยวชีเองก็เป็นคนที่รักพวกพ้องยิ่งนัก ปกป้องที่สุดก็เฉินซ่านี่แหละ เพื่อเฉินซ่าแล้ว นางเกือบสละชีวิตเสียหลายครั้ง พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคมากมายมาตลอด รักใคร่กันดียิ่งนัก"
....
คนสองคนที่รักใคร่กันดียิ่งกำลังนำลูกน้องหลายสิบคนควบม้าทะยานมา นอกจากลูกน้องแล้วยังมีซวนหยวนคง พวกเขาเองก็กำลังมุ่งหน้ามายังราชวงศ์เฉิน ณจุดพักแรมชื่อลาดพักม้า กองทัพของราชวงศ์ซวนหยวนปักหลักอยู่ที่นั่น เพราะท่านอ๋องและแม่ทัพหายสาบสูญ บัดนี้กองทัพของซวนหยวนไร้ผู้นำ ครั้งนี้โหลชีอยากจะไปรับกองทหารกองนั้นมาเลย
ระหว่างทาง พวกเขาหยุดพักผ่อน ซวนหยวนคงและเฉินซ่าก็ทะเลาะกันอีกแล้ว โหลชีหน่ายใจ มองบนก่อนเดินไปอีกด้าน ขี้เกียจมองพวกเขา
อิ้นเหยาเฟิงกับชิวชิ่นเซียนไปเก็บผลไม้ แต่ละคนเด็ดมากองใหญ่ยื่นหนึ่งลูกให้โหลชี
"จักรพรรดินี ได้รับจดหมายจากนายน้อยโหล" เฉิงสิบหยิบจดหมายเข้ามา ชิวชิ่นเซียนยื่นผลไม้ไปให้เขา เขารับพลางขอบคุณ มองนางหนึ่งครั้ง ชิวชิ่นเซียนกลับใจเต้นไม่เป็นส่ำเพราะสายตานี้ของเขา ใบหน้าร้อนผ่าว
โหลชีกินผลไม้ไปก็อ่านจดหมายของโหลฮ่วนเทียนไป
"ถึงเมืองหลวงแล้ว แต่ยังไม่เข้าวัง ราษฎรของเมืองหลวงต่างร้องรำทำเพลง ต่างร่ำร้องชมเชยฮองเฮาไท่จื่อ ได้ยินฮองเฮาไท่จื่อมีราชโองการเรียกกองทัพกลับหลายครั้ง คำสั่งทหารเร็วจนไปถึงที่ที่กองทัพใหญ่อยู่ ถ้าสกัดได้รีบสกัดให้ได้มากที่สุด ถ้าไม่ได้ ในกองทัพ แม่ทัพผู้ใดกล้าไม่ยอมตาม ฆ่า ระวังตัวด้วย ใครกล้ารังแกเจ้าก็บอกพี่ชาย รู้ไหม?"
ฮองเฮา ไท่จื่อ?
โหลชียิ้มเย็น ยังต้องเรียกกองทัพซวนหยวนกลับ พวกเขาถือดีอะไรกัน?
"ทำไมรึ? ชีชี เห็นเจ้ายิ้มอย่างนี้ข้ารู้สึกหนาว" ไม่รู้ซวนหยวนคงโผล่มาข้างนางตอนไหน โหลชียัดจดหมายใส่มือเขาอย่างรังเกียจ
"ดูราชวงศ์ของเจ้าสิ มีฮองเฮา ไท่จื่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่!"
"ฮองเฮา? ไท่จื่อ? ไท่จื่อไม่ใช่พี่ชายเจ้าหรือไง?" ซวนหยวนคงพูดอย่างเซ็งๆ "ไม่สิ ไท่จื่ออะไร ข้ายังคิดจะทำงานในฝันกับพี่ชายเจ้าเลย ให้เขาลาออกจากการเป็นไท่จื่อ และให้เจ้าเป็นราชินีแทน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ