"ข้าจะพูดอีกครั้ง สิ่งของที่พวกเจ้าพูดถึงข้าไม่เคยเห็น และเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่กับข้า!"
โหลชีจับพิชิตวันไว้จนแน่น และมองไปที่ชายสองคนที่สูงและเตี้ยยืนอยู่ข้างหน้านางด้วยความพิฆาต
"หลอกใครเหรอ? ทุกคนในทุ่งน้ำแข็งรู้ดีว่า ของสิ่งนั้นอยู่กับเจ้า! นางตัวดี ข้าแนะนำให้เจ้ารีบนำของสิ่งนั้นออกมาให้โดยเร็ว มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้าซะ! แล้วค่อยแย่งเอาของสิ่งนั้นมา!"
"เจ้าเนี่ยนะ?" โหลชีหัวเราะด้วยความโกรธ "มาเลย ข้าจะยืนตรงนี้ไม่ขยับไปไหน" ขณะที่นางพูด ยังใช้นิ้วกวักเรียกสองคนนั้นอย่างยั่วยุ เต็มไปด้วยการดูถูก
ชายสองคนนั้นจะทนต่อการยั่วยุเช่นนี้ได้อย่างไร รีบตะโกนเสียงดังทันที และหนึ่งในนั้นก็แกว่งดาบขึ้นไปในอากาศแล้วฟาดลงมาที่นาง! ชายอีกคนหนึ่งทำหน้าน่าเกลียดใช้หนามคู่สองอันในมือแทงเข้ามาตรงที่อกนาง
โหลชีมีดวงตาที่มืดมนแวบผ่าน พิชิตวันในมือขวาทุบไปที่หัว มีเสียงดัง กรีชเล็กๆนี้กระทบกับดาบใหญ่ของชายร่างใหญ่คนนั้นที่เหมือนมีน้ำหนักสิบยี่สิบกิโลกรัม ด้วยการสะบัดมือซ้าย ของมีคมทั้งสองอย่างก็พุ่งไปที่หัวใจของชายร่างเตี้ย
มีเสียงบุด อาวุธลับที่คมทั้งสองอันแทงเข้าที่หน้าอกของชายคนนั้น แววตาของเขาก็เลือนลาง ในทันใดนั้นหนามคู่ก็เปลี่ยนเป้าหมาย และแทงไปที่ช่วงต้นขาของชายร่างสูงคนนั้น
"บัดซบ! เจ้ามันบ้าไปแล้ว!" ชายร่างสูงใช้พละกำลังกดมีดลง ช่วงขาต้านไม่ไหว ก็ถอนพลังในมือทันที และตะโกนใส่ชายร่างเตี้ย และถอยกลับอย่างน่าสมเพช แต่โหลชีจะยอมให้เขาล่าถอยเหรอ เหวี่ยงพิชิตวันในมือออกไป และก็รีบวิ่งตามไปหาเขา เมื่อพิชิตวันแทงเข้าที่หน้าอกของเขา มือก็จับพิชิตวันไว้ ใช้แรงข้อมือ ราวกับผ่าลงไปถึงท้องของเขา!
ในเวลานี้ ชายร่างเตี้ยเพิ่งค้นพบว่าเลือดในอกของเขากำลังไหลอย่างไม่มีสิ้นสุด และมีสองสิ่งที่เหมือนเขี้ยวพิษทิ่มแทงอยู่
เขาไม่เข้าใจจริงๆ เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่ตอนไหน แต่เขาไม่มีโอกาสรู้แล้ว ร่างนั้นล้มลงกับพื้นอย่างแรง และกองรวมกับชายร่างสูงใหญ่คนนั้นพอดี
ในเวลาอันสั้น ทั้งสองก็ตาย
โหลชีถอนหายใจด้วยความโล่งอก เดินไปหา ดึงเขี้ยวพิษทั้งสองซี่ออกจากหน้าอกของชายร่างเตี้ย เช็ดคาบเลือดนั้นให้สะอาด และเก็บมันไว้
สองวันแล้ว
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับไขหินพันปีได้แพร่กระจายไปทั่วทุ่งน้ำแข็ง
ข่าวที่แพร่ออกไปได้อธิบายรูปลักษณ์ค่อนข้างชัดเจน และแม้แต่เสียงของนางก็อธิบายได้ถูกต้อง บางทีผู้หญิงที่มาหาไขหินพันปีในทุ่งน้ำแข็งอาจมีน้อยกว่าผู้ชายมาก คนที่อายุน้อยและสวยงาม มีคิ้วดก และดวงตากลมโต รูปร่างสูงเพรียว ผิวขาว ผมไม่ยาวนัก ตัวคนเดียว อาวุธคือกริช มีวิทยายุทธที่แข็งแกร่งมาก ตรงตามเงื่อนไขเหล่านี้ทั้งหมด คาดว่าคงมีแต่นางคนเดียว
ผู้คนในทุ่งน้ำแข็งต่างเดือดพล่าน เดิมทีพวกเขาต่างก็เตรียมใจไว้ ทุ่งน้ำแข็งนั้นกว้างใหญ่มาก มีถ้ำน้ำแข็งมากมาย ไม่รู้ว่าตำแหน่งที่ชัดเจนอยู่ที่ใด และ แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อข่าวสารนี้มาก แต่ในความรู้สึกคิดว่า อาจค้นพบไขหิน อายุพันปี หรือร้อยปีขึ้นไปอาจไม่พบ
ตอนนี้ดีแล้วล่ะ มีข่าวแพร่ออกไปแล้วจริงๆ มีคนได้ไขหินพันปีไปแล้ว!
ด้วยวิธีนี้ ได้รับการยืนยันจริงๆว่าไขหินพันปีนั้นมีอยู่จริง และ ยังมีคนที่เอาไปแล้ว!
มีคนเอาไป และการค้นหาบุคคลนี้ ยังมีข้อมูลลักษณะโดยละเอียด ยังไงมันก็ง่ายกว่าแต่ก่อนที่ค้นหาโดยไม่มีข้อมูลใดๆเลย!
เป็นผลให้ทุกคนที่มาที่ทุ่งน้ำแข็งต่างมีความกระตือรือร้น มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น หา หา หา! หาผู้หญิงคนนั้น ต้องหานางให้เจอก่อนใคร!
บางคนคือผู้มีอำนาจส่งมา เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งข่าวกลับไป มีคนที่มาแย่งชิงมากเกินไป รีบส่งยอดฝีมือมา!
ดังนั้น สองวันต่อมา นอกเขตทุ่งน้ำแข็งมียอดฝีมือจากผู้มีอำนาจแต่ละที่มากมายพากันมาที่ทุ่งน้ำแข็ง
เป้าหมายของพวกเขามีเป้าหมายเดียว ค้นหาโหลชี เพื่อแย่งชิงไขหินพันปี
ไม่ว่าโหลชีจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถต้านทานกับคนหลายร้อยคนได้ นอกจากนี้ นางไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว และปกติงานอดิเรกคือชอบกิน เวลาหิวก็จะทำให้นางอารมณ์ไม่ดีและหงุดหงิดมาก เดิมทีตอนที่พวกนางมาได้เตรียมรถม้าพร้อมอาหารอร่อยๆไว้มากมาย ต่อมารถม้าตกลงไปในหลุม นางบอกให้องครักษ์เหล่านั้นนำอาหารทั้งหมดออกมาด้วย แต่ละคนก็สะพายถุงใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอาหาร ในเวลานั้นภารกิจของนางคือการอยู่กับเฉินซ่า ดังนั้นจึงไม่มีใครให้นางสะพายของ แต่ใครจะไปคิดล่ะ ได้เกิดเรื่องขึ้นในภายหลัง นางต้องการจะข้ามดอกไม้น้ำแข็ง แม้แต่เสื้อคลุมก็ไม่ได้สวมใส่ แค่มีกระเป๋าใบเล็กๆที่ติดตัวนางตลอดและสิ่งของที่คาดไว้ที่เอวของนางเอง แล้วออกมาอย่างเบาตัว
สัตว์และพืชในทุ่งน้ำแข็งนั้นขาดสารอาหารมาก อยู่ในถ้ำน้ำแข็งนางยังคงพบอสูรน้ำแข็งตัวน้อยประหลาดสองตัว แต่หลังจากที่ออกมาแล้วไม่พบแม้แต่กระต่ายตัวน้อย! เรื่องน้ำแก้ไขได้ง่าย หากกระหายน้ำก็ใช้พิชิตวันเจาะน้ำแข็งหิมะ และใช้กำลังภายในการละลายมัน ก็ยังสามารถดับกระหายได้ แต่อาหารการกินล่ะ?
ต่อมานางจึงรู้ว่าตัวเองโง่มาก สนใจแต่การวิ่งๆๆเท่านั้น ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น ไม่อยากต่อสู้กับพวกเขา แต่พวกเขากำลังบีบเข้ามาอย่างไม่ยอมถอย ไม่ว่านางจะพูดอะไรก็ไม่เชื่อ ถ้างั้นนางก็ฆ่าซะเลย!
ฆ่า แล้วค้นหาอาหารแห้งบนตัวเขา
เมื่อคิดได้ว่ามีคนจำนวนมากกำลังไล่ล่าเพื่อจะฆ่าโหลชี และผู้คนจำนวนมากไล่ตามเพื่อฆ่าผู้หญิงของเขา เฉินซ่าก็ไม่สามารถควบคุมออร่าพิฆาตในตัวของเขาได้
"ฝ่าบาท ข้างหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมา" โหลวซิ่นก้าวเดินเข้ามาอย่างเร็ว "ข้าน้อยได้ยินการสนทนาของพวกเขา และได้รับข่าวสารหนึ่ง!"
"พูดมา" เฉินซ่าหันกลับมา มองคนกลุ่มนั้น มีอยู่ประมาณสิบห้าคน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก
"พวกเขาบอกว่า มีคนระดมคน ให้จัดตั้งสมาพันธ์ไล่ล่ากระต่าย!"
ทันทีที่ได้ยินคำว่า "สมาพันธ์ไล่ล่ากระต่าย" เยว่ก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี แน่นอนว่า โหลวซิ่นที่มีสีหน้าไม่ดีพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "แม่นางโหลเป็นกระต่าย! พวกเขาว่าคนเยอะขนาดนั้นเหมือนทราย ทุกคนมีความเห็นแก่ตัว และแม่นางโหลก็ฉลาด เก่งกังฟู หลายคนจึงไปหาแม่นางโหลเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย ทางที่ดีคือรวมพลัง และร่วมมือกัน"
"ใครก็ตามที่หาเจอแม่นางโหลก่อน อย่าพึ่งลงมือทำอะไร ให้รายงานสถานที่เฉพาะไปยังผู้นำสมาพันธ์แล้วให้ผู้นำจะแจ้งให้ทุกคนทราบ และทุกคนก็ไปจัดการจับตัวพร้อมกัน เช่นนี้แล้วแม้ว่าแม่นางโหลจะมีความสามารถเหนือฟ้าดิน ก็ไม่มีทางหนีรอดจากกับดักนี้ได้! ตอนนี้มีหลายคนตอบสนองแล้ว และพวกเขาเริ่มเดินทางด้วยกัน บอกว่ามองหาพันธมิตรตลอดทาง และเมื่อพบแล้ว แม่นางโหลก็ไม่สามารถต่อสู้กับคนจำนวนมากได้"
เพี๊ยะ!
ทันทีที่เขาพูดจบ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่เฉินซ่ายืนอยู่ก็มีรอยร้าวแตกที่บริเวณเท้า และตรงหน้าพวกเขาไม่มีร่องรอยของเฉินซ่ายืนอยู่อีกต่อไป
เยว่รีบเงยหน้าขึ้นมองทันที เฉินซ่าราวกับนกอินทรียักษ์ตัวหนึ่ง บินไปหาผู้คนมากมายเหล่านั้น
เดิมทีคนพวกนั้นเดินทางเพียงลำพัง พอได้ยินข่าวการรวมตัวเป็นสมาพันธ์ พวกเขาก็อยู่ไม่ไกล ก็ตกลงเข้าร่วมทันที แล้วเดินทางไปด้วยกัน ตลอดทางหากมีใครตกหล่น ก็เรียกเข้ามา ตลอดทางมีคนมารวมกันจำนวนมากถึงสิบเจ็ดหรือสิบแปดคน
"ไปหาในทิศทางนั้น จริงๆ ฝั่งนี้พวกเราต่างค้นหากันแล้ว ไม่มีเลย" ในกลุ่มนั้นมีชายหัวโล้นรูปร่างสูง แผ่นหลังสะพายดาบด้ามยาว แล้วพูดกับคนอื่นๆว่า "ได้ยินมาว่านังตัวดีคนนั้นเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก ซ่อนตัวเก่งและต่อสู้เก่ง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ หรือเป็นเพราะไอ้โง่คนนั้นสู้นางสารเลวคนนั้นไม่ได้ก็เลยป่าวประกาศว่ากังฟูของนางยอดเยี่ยมมาก!
"เป็นไปได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่อย่างนั้น ผู้หญิงตัวเล็กๆบอบบางคนหนึ่งจะกล้าไปที่ทุ่งน้ำแข็งเพียงลำพังเพื่อไปแย่งชิงกับชายกลุ่มใหญ่นั้นเหรอ?"
"ยังไงก็ตาม หากเจอนางสารเลวคนนั้นแล้ว ถ้าข้าไม่ได้ของสิ่งนั้น หรือเอานางสารเลวคนนั้นให้ข้า แล้วข้าจะเอากลับไปเป็นเมียน้อยก็ไม่เลว......" คำพูดของเขายังพูดไม่จบ คนรอบข้างก็ตกใจ เมื่อพบว่าศีรษะของเขาลอยออกไปแล้ว และปากของเขายังคงเปิดปิดอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ