สามวันต่อมา…
“นายครับ” โชแปงปรือตามองมือขวาคนสนิทที่เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานอย่างถือวิสาสะ ในขณะที่เขากำลังเงยหน้าพิงพนักเก้าอี้พักสายตาอยู่เงียบๆ
“มีอะไร”
“พิศาลมาขอพบครับ” ชื่อของบุคคลที่สามทำโชแปงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยอมให้แดร็กพาพิศาลเข้าในห้องทำงานได้
“ให้มันเข้ามา” แดร็กพยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูห้องทำงานกว้างแล้วให้พิศาลเดินเข้ามาด้านในโดยที่เขาไม่ได้มาเพียงแค่คนเดียว
“สวัสดีครับคุณโชแปง”
“…” โชแปงทำท่าทีเงียบครึมในขณะที่สายตาของเขากำลังมองพิจารณาหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายกับเพตราอย่างกับแกะด้วยสายตาเย็นชา
“ผมต้องการเงินจำนวนยี่สิบล้านเพื่อแลกกับลูกสาวอีกคนหนึ่งของผม…เธอชื่อพินตราครับ” พิศาลไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกมาตรงๆ ที่น่าแปลกพินตราไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธหรือต่อต้านเหมือนอย่างที่เพตราเคยทำต่อหน้าเขาเลยสักนิด
“ลูกมึงมีอะไรดีกูถึงต้องแลกเงินจำนวนมากขนาดนั้น” สายตาของพินตราที่จ้องมองมายังเขาเป็นสายตาที่ยั่วยวนจนเขารู้สึกสะอิดสะเอียด ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเหมือนกับเพตรามากจนแยกไม่ออก แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกพิศวาสเธอเหมือนอย่างเพตราเลยแม้แต่น้อย
“พินตราจะปรนนิบัติดูแลคุณโชแปงให้ดีกว่าที่ยัยเพตราทำครับ”
“กูไม่ได้ต้องการนางบำเรอหรืออีตัวบนเตียงหรอกนะแล้วกูก็ไม่ชอบผู้หญิงที่เน่าเฟะสกปรกมาแล้วด้วย” คำตอบร้ายกาจของโชแปงเผลอทำให้พินตรากำมัดแน่นด้วยความโกรธเคือง แต่เพราะเธออยากจะมีชีวิตดีๆ หลังจากนี้จึงยอมตอบรับข้อเสนอที่จะขายตัวให้คนที่กำลังเลี้ยงดูน้องเธออย่างสุขสบาย
แวบแรกที่พินตราเห็นใบหน้าหล่อเหลาและสายตาที่มองไปยังน้องสาว เธอก็รู้ทันทีว่าเธอจะเอาผู้ชายคนนี้มาเป็นของตัวเองให้ได้
“ถ้าอยากได้เศษเงินจำนวนนั้นของกูมาก ก็เอาลูกมึงมาขายให้เป็นอีตัวปรนเปรอลูกน้องกูสิ…แล้วกูจะทำทานให้”
“พ่อหนูไม่เอานะ” พินตรากำมัดแน่นมองใบหน้าโชแปงด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะต่อปากต่อคำกับเขา เธอจึงเลือกหันไปพูดกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงขอร้อง
“แต่ผมก็มีสิทธิ์ได้รับเงินจำนวนนั้นเพราะคุณโชแปงกำลังใช้ร่างกายลูกสาวผมปรนเปรอตัวเองไม่ใช่เหรอครับ”
“ลูกสาว? หึ! ยังกล้าเรียกตัวเองว่าพ่อได้อีกเหรอทั้งๆ ที่เร่ขายลูกตัวเองเพื่อหวังเศษเงินใช้หนี้พนัน” ชายหนุ่มโน้มหน้าเล็กน้อย ใช้มือเท้าโต๊ะแล้วมองทั้งสองคนอย่างไม่สบอารมณ์
“คุณเป็นคนมาซื้อเพตราจากผมเพื่อหวังไปปรนเปรอความใคร่ของตัวเองอยู่แล้วนี่”
“ก็เลยคิดจะเอาลูกอีกคนที่หน้าเหมือนกัน มาประเคนให้กูหวังจะให้กูเลี้ยงดูอีกสินะ…”
“ถ้าคุณไม่ยอมให้เงินผมตามที่ต้องการ ผมจะแจ้งตำรวจข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวลูกสาวผม” เมื่อโชแปงไม่ยอมให้เงินตามที่ต้องการ พิศาลจึงเลือกที่จะใช้กฎหมายเป็นข้อโต้แย้ง
“ตอนเซ็นสัญญามึงไม่ได้แหกตาดูเหรอ ว่ามึงจะไม่มีสิทธิ์อะไรในชีวิตของเพตรานับตั้งแต่มึงเซ็นชื่อลงไป…” โชแปงหยิบเอกสารสัญญาระหว่างเขากับพิศาลออกมาวางลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วยกขาไขว่ห้างมองทั้งสองอย่างเหนือกว่า
พิศาลขบกรามแน่นเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่โชแปงพูดคงเป็นเรื่องจริง เพราะวันที่เขาเซ็นสัญญาลงไปมันมีแต่ความโลภล้วนๆ จึงไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน
เมื่อสองพ่อลูกรู้ว่าการมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นผลดีอะไร และยิ่งทำให้ถูกมาเฟียอย่างโชแปงหมายหัว จึงเลือกที่จะหมุนตัวหันหลังเดินออกมาจากห้องเขาทันที
“ลูกเนรคุณ แกกำลังคิดจะหนีไปมีความสุขคนเดียวใช่ไหม” น้ำเสียงที่คุ้นหูทำให้เพตราที่กำลังก้มหน้าหยิบกระเป๋าสตางค์จากกระเป๋าสะพายข้างเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงนี้ด้วยความไม่ยินดี
“แล้วตอนที่พ่อเอาเงินร้อยล้านไปใช้คนเดียวอย่างสุขสบายล่ะคะ เคยนึกถึงหนูไหม” เพตราตอบในขณะที่สายตาของเธอไปหยุดมองอยู่เจ้าของใบหน้าแบบเดียวกับเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้เป็นพ่อ ถ้าเดาไม่ผิดที่เธอได้เจอทั้งสองพร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้ คงจะเป็นเพราะพ่อของเธอตั้งใจจะเอาแฝดผู้พี่มาประเคนให้กับโชแปงแน่ๆ
“เดี๋ยวนี้เธอกล้าปากดีกับพ่อถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“คนที่ได้ไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจะไปรู้อะไร” เพตราตอกกลับแฝดพี่ด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เธอพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด
“แล้วตอนนี้ที่เธอกำลังอยู่อย่างสุขสบายแล้วลืมคนข้างหลังล่ะ…” สายตาและคำพูดเหยียดหยามของพินตราทำให้เพตรารู้สึกเจ็บอยู่ข้างใน กว่าเธอจะผ่านจุดนี้มาได้ก็เจ็บเจียนตายเหมือนกัน แต่ทุกคนกลับไม่รู้
“ทำไมฉันต้องสนใจคนข้างหลังที่ไม่เห็นหัวฉันล่ะ ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายผิดทั้งที่ก็ไม่มีใครถูกสักคน” เพตราถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอพยายามกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจที่กำลังจะไหลออกมาไว้
“ฉันน่าจะปล่อยให้แกตายไปตั้งแต่วันแรก ถ้ารู้ว่าแกมันเลี้ยงไม่เชื่อง” พิศาลผลักศีรษะเพตราอย่างแรง จนทำให้เธอเซถอยไปด้านหลังสองสามก้าว
“ทำไมถึงไม่ปล่อยให้หนูตายไปจริงๆ ล่ะ หนูจะได้ไม่เกิดมาอยู่ในครอบครัวเห็นแก่ตัวแบบนี้”
เพี๊ยะ! ใบหน้าหวานสะบัดตามแรงฟาดของชายผู้เป็นพ่อเต็มแรง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ หันกลับมามองจ้องเจ้าของการกระทำด้วยสายตานิ่งเฉย
“แกมันลูกอกตัญยู!” พิศาลแค่นเสียงลอดไรฟันหลังจากฟาดผ่ามือลงบนใบหน้าของเพตราท่ามกลางสายตาของพนักงานหลายคน ก่อนจะเดินออกไปโดยมีพินตรายังคงยืนแสยะยิ้มมองใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาของแฝดผู้น้อง
“ระวังไว้ให้ดีแล้วกัน…ความสุขสบายของแกตอนนี้มันต้องเป็นของฉัน” พินตราทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะเดินตามหลังผู้เป็นพ่อออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: BAD NIGHT คืนร้ายคืนรัก