เมื่อสองพี่น้องเย่เจียหรงกลับไปแล้ว สีหน้าของเซี่ยซือห้าวก็หมองหม่น แต่ไม่ได้ตามเย่เจียหยูไป แต่กลับไปบ้านไปเล่าเรื่องยาให้พ่อของตนฟัง
องค์หญิงหลิงหยุนเองจิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ในฐานะที่นางเป็นถึงนักกลั่นยาอัจฉริยะ นางย่อมรู้ดีว่าการที่ยานิพพานกลับมาอีกครั้งนั้นส่งผลต่อวงการนักกลั่นยามากขนาดไหน
หากนางสามารถเรียนรู้วิธีการกลั่นยานิพพานได้ จะทำให้ฐานะของนางในศูนย์สำนักนักกลั่นยาสูงขึ้นอีกหลายระดับ
ไม่ได้การแล้ว นางจะต้องหาทางคุยกับจวินหยวนให้รู้เรื่องว่าสรุปแล้วปรมาจารย์นักกลั่นยาคนใดที่กลั่นยานิพพานให้เขา
องค์หญิงหลิงหยุนานางในและองครักษ์กลับไปอย่างผ่าเผย แต่คนจำนวนมากกลับยังคงไม่ยอมแยกย้ายกลับ
สาเหตุไม่ใช่อื่นใด แต่เป็นเพราะทุกคนพ่ายแพ้อย่างน่าอนาจ แม้ว่าสาเหตุหลักๆ จะเป็นเพราะเย่จายซิง แต่เย่จายซิงมีอ๋องเซ่อเจิ้งคอยคุ้มกันอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าหาเรื่องนาง ทุกคนจึงพากันเอาความโกรธของตนเองไปไว้ที่เย่ฮั๋วกวง
“เป็นเพราะเจ้าที่ไม่ได้เรื่อง หากเจ้าเอาชนะเย่ยู่หยางได้ พวกเราจะแพ้ราบคาบเช่นนี้หรือ เอาสมบัติที่ตัวเจ้ามาชดใช้ให้พวกเราก็แล้วกัน”
ฝูงชนเริ่มพุ่งเข้าไปมรุม แล้วคว้าเอาของที่อยู่ในถุงเก็บของที่เอวของเย่ฮั๋วกวง
ฝูงชนเริ่มลงไม้ลงมือกัยเพราะสมบัติที่อยู่ในถุงเก็บของ เย่ฮั๋วกวงที่เดิมทีลมหายใจแผ่วเบาอยู่แล้วก็ยิ่งได้รับแรงกระทบกระเทือน จนกระอักเลือดออกมาทางปาก
“องค์หญิง ช่วยข้าด้วย”
เขามองไปทางเหว้ยไฉเวยอย่างหมดอาลัยตายอยาก
เย่ฉายเวยกลับมองไปที่เขาอย่างรังเกียจ “หากไม่ใช่เจ้าที่เป็นคนขัดขวาง เย่ยู่หยางคงไม่ทำกับข้าเช่นนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือของเจ้า แถมเจ้ายังคิดเองเออเองสังหารองครักษ์ของข้า ขโมยยาประสูติของข้าไป ความผิดของเจ้าไม่อาจอภัยได้! ข้าไม่มีทางช่วยเหลือคนอย่างเจ้า เจ้าช่วยตัวเองก็แล้วกัน!”
เมื่อกล่าวจบ นางก็สะบัดแขนเสื้อจากไป
เย่ฮั๋วกวงมองตามเหว้ยไฉเวยที่เดินไกลออกไปเรื่อยๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้นและความชั่วร้าย ที่เขาทำทุกอย่างตั้งมากมายเช่นนี้เป็นเพราะอะไรกัน ไม่ได้เป็นเพราะต้องการตัวนางหรอกรึ!
เขาแค้นใจนัก หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาคงสังหารเย่ยู่หยางไปแต่แรกแล้ว และจะได้ขืนใจนางมาเป็นของเขา!
แต่ทั้งหมดนี้สายเกินแก้ไปแล้ว เขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว ชะตาชีวิตก็ใกล้ขาดเต็มที่ นักรบเดนตายก็ตายกันหมด สุดท้ายแล้วแม้แต่คนตามเก็บศพเขาก็ยังไม่มี
เขาไม่อยากตาย!
เย่ฮั๋วกวงทุกข์ใจมาก ผู้คนเหยียบย่ำบนตัวเขาเพื่อต้องการแย่งสมบัติไปจากเขา จู่ๆ ก็มีคนทำดาบตกลงมาใส่เขา เขาเบิกตาโพลง ใบหน้าบิดเบี้ยว และสิ้นใจตายตาไม่หลับ
……
“ท่านพี่ นางเย่จายซิงสารเลวตอนนี้อยู่โรงเตี๊ยมเถิงหยุน อ่องเซ่อเจิ้งก็เข้าไปกับนาง พวกเรารอให้อ๋องเซ่อเจิ้งออกมาก่อนแล้วค่อยเข้าไปหานางกัน”
เย่เจียหยูเอ่ยกับพี่สาวตัวเอง
ตอนนี้พวกนางมารออยู่ที่โรงชาด้านข้างโรงเตี๊ยมเถิงหยุน แต่เป็นเพราะพวกนางกลัวอ๋องเซ่อเจิ้งจึงไม่กล้าเข้าไปหาเย่จายซิง
รออยู่เป็นเวลานานถึงเพิ่งจะเห็นอ๋องเซ่อเจิ้งออกมาจากโรงเตี๊ยม
“เขาออกมาแล้ว ท่านพี่ พวกเราเข้าไปกันเถิด!”
เย่เจียหยูตื่นเต้น
เย่เจียหรงพยักหน้า ท่าทางของนางยังดูค่อนข้างสงบ ไม่แสดงอาการออกมาทางสีหน้า
ขณะที่พวกนางเพิ่งจะเดินมาถึงประตูโรงเตี๊ยม ก็พบกับลั่วกูหยุนที่มาหาเย่จายซิง
“หมอเทวดาลั่ว! ท่านกลับมาจากเฉินตูแล้วหรือ”
เมื่อพบกับลั่วกูหยุน ใบหน้าของเย่เจียหยูก็แดงก่ำ ท่าทางของนางขวยเขิน แววตาของนางเต็มไปด้วยความยินดี
เย่เจียหรงหันไปมองลั่วกูหยุนหลายครา และก็มองไปที่ป้ายหยกตรงเอวของเขา เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาคือตระกูลลั่ว นางก็ยิ่งยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
แต่เย่เจียหยูกลับไม่เชื่อ ตอนนั้นนางรู้สึกจริงๆ ว่าเขาปฏิบัติกับนางแตกต่างออกไป มีคนตั้งมากมายที่ขอให้เขาช่วยไปรักษาให้ แต่เขากลับปฏิเสธทุกคน ต่อมากลับเลือกนาง นี่ไม่ได้แปลว่าเขารักนางตั้งแต่แรกเห็นหรอกหรือ
นางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงสนิทสนมกับเย่จายซิงแบบนั้น แต่นางกล้ายืนยันเลยว่า นอกจากเย่จายซิงแล้ว ไม่มีใครอีกที่จะกล้าพูดให้ร้ายนาง จะต้องเป็นฝีมือของเย่จายซิงแน่ๆ ที่ไปพูดอะไรบางอย่างกับลั่วกูหยุน ทำให้ความรู้สึกดีๆ ของเขาที่มีต่อนางสลายหายไปหมด
นางแค้นใจมาก ในใจของนางราวกับมีหินก้อนใหญ่ๆ ที่พยายามอย่างไรก็หายใจไม่ออก หรือว่าความฝันของนางที่จะแต่งเข้าตระกูลร่ำรวยจะต้องพังทลายลงไม่เป็นท่าแบบนี้
นางไม่สามารถแต่งงานกับคนพิการที่เหลือมือเพียงข้างเดียวอย่างเซี่ยซือหาวได้ นางเพียบพร้อมขนาดนี้ มีเพียงบุรุษที่มีฐานะสูงศักดิ์เท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับนาง
“เย่จายซิง! เป็นเพราะเจ้า……”
คำด่าทอของนางยังไม่ทันจะกล่าวจบ เย่เจียหรงก็เอามือมาปิดปากของนางเอาไว้
“น้องหยู เจ้าต้องใจเย็นๆ นะ นายน้อยลั่วอาจจะมีธุระด่วนอะไรกับน้องสี่ก็ได้ เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ พวกเรารอให้พวกเขาคุยกันเสร็จก่อน ค่อยเข้าไปหาน้องสี่”
นางหยิกแขนของเย่เจียหยูแล้วหันไปยิ้มให้ลั่วกูหยุนและเย่จายซิงอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงกลับไปยังห้องพักที่โรงชาด้านข้างก่อน
“ท่านพี่ พี่ลากข้าออกมาทำไม ข้าต้องการเปิดโปงนางอัปลักษณ์เย่จายซิงต่อหน้านายน้อยลั่ว!”
“เจ้าโง่นักเชียว เจ้าไม่เห็นท่าทางของลั่วกูหยุนหรือไง เวลานี้เจ้าต้องหัดดูเวลาเอาไว้เสียบ้าง วันหน้าค่อยหาเวลาเหมาะๆ แย่งเขามา ถ้าทำได้แบบนั้น เขาถึงจะมีความรู้สึกดีๆ กับเจ้ามากกว่า ยิ่งไปเซ้าซี้ยิ่งทำให้เขารำคาญ ยิ่งกว่านั้นที่เรามาที่นี่วันนี้ก็เพราะต้องการขอยานิพพานจากเย่จายซิง เจ้าไม่อยากสลัดเซี่ยซือหาวออกไปเร็วๆ อย่างนั้นหรือ”
เย่เจียหรงโกรธมาก เพราะตนสอนนางไปหลายครั้งแล้ว แต่นางก็ยังคงใช้อารมณ์มากเกินไป หากไม่รู้จักสงบใจบ้าง วันหน้าจะเอาชนะใจชายได้อย่างไร
“ข้า……”
เมื่อได้ยินคำสอนของพี่สาว เย่เจียหยูก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ และรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้ตนใจร้อนเกินไปจริงๆ
“เอาล่ะ เจ้าฟังข้านะ วันหลังข้าจะสอนวิธีเอาชนะใจนายน้อยลั่วและชายคนอื่นๆ ตอนนี้พวกเราต้องเอายานิพพานมาให้ได้ก่อนหรือไม่ก็เอากษาปณ์แก้วกาฬมาให้ได้ หากครอบครัวของเราย้ายไปที่เฉินตูได้ และสามารถยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ตอนนั้นอยากจะทำอะไรก็คงง่ายขึ้นเยอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...