เย่จายซิงชะงักฝีเท้าทันที หันหน้ากลับไป
หญิงรับใช้ที่หมอบอยู่บนพื้นรีบลุกขึ้นยืน กล่าวอย่างอวดดี: “รู้จักกลัวแล้วละซิ!”
“ครั้งหน้าจะกล่าวคำพูดข่มขู่ก็ใช้คำใหม่ๆหน่อย ถ้าหากไม่มีการพลิกแพลงเช่นเจ้าแบบนี้ละก็ ได้ฟังแล้วข้าก็ไม่ได้มีอารมณ์เลยแม้แต่น้อย ก็ไม่รู้ว่าสายตาของคุณหนูของเจ้าเป็นอย่างไร ถึงได้เลือกหญิงรับใช้เช่นเจ้านี้”
พรู้ด!
ผู้คนที่มาดูความคึกคักอยู่บริเวณรอบๆได้ยินคำพูดประโยคนี้ ต่างก็พากันหัวเราะออกมาอย่างอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้
แม้แต่หญิงรับใช้ก็หน้าเขียว พูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่
ตอนที่นางได้สติกลับคืนมา เย่จายซิงและน้องชายนางก็ไม่เหลือแม้แต่เงาตั้งนานแล้ว
ยังไม่ทันถึงชั่วยาม บนถนนก็มีร้านของกินเล่นแผงลอยมากมายออกมาจัดร้านแล้ว ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่ว
เย่จายซิงชื่นชอบการเดินผ่านถนนเช่นนี้ในตอนเช้ามาก ทำให้นางมีความรู้สึกบางอย่างที่กำลังเดินอยู่ในโลกธรรมดาสามัญ ที่มีกลิ่นอายการดำรงชีวิตอย่างมาก
ก่อนหน้าที่นางยังไม่ได้มาถึงแผ่นดินเทียนเหย้า เคยอ่านนิยายเทพเซียนมาไม่น้อย ในนิยายกล่าวกว่าผู้ที่เป็นเทพเซียนไม่กินธัญพืชอาหารแห้ง จะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่งผลต่อการฝึกตน
แต่ทว่าในความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น มนุษย์ธรรมดาก็มีอาหารการกินสำหรับมนุษย์ธรรมดา ผู้ฝึกตนก็มีอาหารการกินสำหรับผู้ฝึกตน อาหารการกินมากมายเจริญเติบโตในสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยชี่ทิพย์ มีชี่ทิพย์แฝงอยู่ในตัวของมันเอง หลังจากกินเข้าไปแล้วจะไม่ส่งก่อให้เกิดกระทบใดๆต่อผู้ฝึกตน ยังสามารถเติมเต็มความปรารถนาในอาหารการกิน
อาหารบางชนิดที่เต็มไปด้วยฉี่ทิพย์ กินแล้วยังสามารถเลื่อนขั้นพลังทิพย์ของตนเอง ดังนั้นจึงเลื่อนขั้นผลบำเพ็ญตนได้
อย่างเช่นเนื้อปักษียักษ์ ปีศาจปลาทะเลน้ำลึกเป็นต้น ทั้งรสชาติดีทั้งสามารถเพิ่มผลบำเพ็ญ
แน่นอน ก็มีผู้ฝึกตนที่กินเพียงแค่โอสถพีกู่ เพื่อลดขั้นตอน
เย่จายซิงและน้องชายอยู่ที่ร้านแผงลอยเล็กๆกินลูกชิ้นปลาคนละถ้วย ปลาเป็นปลาทิพย์จากในทะเลสาบทิพย์ คุณภาพเนื้อสดอร่อย เจ้าของร้านเป็นสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่ง ฝีมือการตีลูกชิ้นปลานั้นไม่เป็นสองรองใคร ลูกชิ้นปลากินเขาไปทั้งสดนุ่มทั้งเคี้ยวเด้งหนึบ ทิ้งกลิ่นหอมไว้ในปาก ผู้คนจำนวนมากมายตั้งใจอ้อมถนนมาหลายสิบเส้นเพื่อมากินลูกชิ้นปลาร้านของพวกเขา
กินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว รู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งร่างกาย เย่จายซิงอารมณ์ดีขึ้นมาก คิดถึงเสด็จอาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก็ไม่รู้ว่าเขาได้กินข้าวแล้วหรือไม่ อีกประเดี๋ยวมีโอกาสจะพาเขามากินลูกชิ้นปลาของร้านนี้
เมื่อถึงหอไป๋เป่า ยังไม่ทันได้เปิดร้าน คาดไม่ถึงว่าจะมีคนจำนวนมากมายมายืนต่อแถวอยู่ด้านนอก ผู้คนเหล่านี้ทันทีที่มองเห็นนาง ก็เอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น:
“แม่นางเย่ วันนี้มีโอสถไขกระดูกเยือกหรือไม่?”
“แม่นางเย่ วันนี้ก็น่าจะทำบัตรสมาชิกอันนั้นได้ใช่หรือไม่ สามารถให้สิทธิพิเศษอีกสักนิดได้หรือไม่?”
“แม่นางเย่......”
เย่จายซิงกล่าวด้วยความยิ้มแย้ม: “มีโอสถไขกระดูกเยือก เพียงแต่ว่าวันนี้มีเพียงแค่ยี่สิบเม็ดเท่านั้น มาก่อนได้ก่อน ถ้าหากซื้อไม่ทัน พรุ่งนี้ก็มีเช่นกัน ข้าก็คิดไม่ถึงว่าทุกท่านจะกระตือรือร้นมากถึงเพียงนี้ เอาเช่นนี้แล้วกัน เปิดกิจการลดราคาพิเศษ สามวันแรกสมาชิกระดับทองแดงได้รับส่วนลดห้าส่วนเหมือนกับระดับเงิน ทุกคนคงจะต้องคว้าโอกาสไว้แล้ว”
ทันทีที่ประโยคนี้พูดออกไป ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ เดิมทีคิดว่ามีเพียงแค่เมื่อวานถึงมีส่วนลดพิเศษห้าส่วน นึกไม่ถึงว่าวันนี้และพรุ่งนี้ก็มี
ก็มีผู้คนจำนวนมากมายร้อนใจ โอสถไขกระดูกเยือกมีเพียงแค่ยี่สิบเม็ดเท่านั้น ถ้าหากว่าเมื่อตอนที่วนมาถึงตนเองก็ไม่มีแล้วจะทำอย่างไรดี?
ดังนั้นเมื่อทันทีที่หอไป๋เป่าเปิดร้าน ผู้คนที่ต้องการซื้อโอสถไขกระดูกเยือกก็ไปต่อแถวที่ตู้สินค้าทันที
“เอาโอสถไขกระดูกเยือกให้ข้าหนึ่งเม็ด!”
“ข้าก็ต้องการด้วยหนึ่งเม็ด!”
เวลาเพียงแค่ครู่เดียว โอสถไขกระดูกเยือกจำนวนยี่สิบเม็ดก็ถูกแย่งไปจนเกลี้ยง
“สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเฉินตู?”
องค์หญิงหลิวอิ๋งหัวเราะเยาะหยันหนึ่งที กล่าว:
“แต่ข้าได้ยินว่า เย่จายซิงที่เปิดหอไป๋เป่านี้รูปร่างหน้าตาเป็นที่ตกตะลึงของผู้คน ก็แม้แต่เสด็จพี่ของข้ายังมองจนตาค้าง สมญานามคนงามของข้า ถูกเย่จายซิงผู้นี้แย่งชิงไปตั้งนานแล้ว”
สีหน้าของทุกคนตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าพวกนางก็รู้เรื่องนี้แล้ว เป็นเพราะเซ่าตี้ต้องเลือกพระชายา ฉะนั้นเรื่องราวเล็กน้อยที่เกี่ยวข้องกับเซ่าตี้ ทุกคนต่างก็ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่า เซ่าตี้มิใช่ว่าให้เย่จายซิงพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นใบหน้าจริงหรือหน้ากากหนังมนุษย์ ไม่ได้ดูจนตาค้างไปแล้วอย่างที่กล่าวเถอะ
เมื่อได้ยินน้ำเสียงขององค์หญิงหลิวอิ๋ง ท่าทางเหมือนกับว่ามีเจตนาอันเป็นปฏิปักษ์ต่อเย่จายซิงผู้นั้นเป็นอย่างมาก
ทุกคนไม่กล้าพูดจาในทันที เกรงว่าถ้าพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมออกไปละก็ อาจจะทำให้องค์หญิงหลิวอิ๋งเกิดโทสะได้
อุปนิสัยขององค์หญิงหลิวอิ๋งเย็นชา ได้รับสืบทอดรูปโฉมมาจากเสด็จแม่ ในความงดงามและละเอียดอ่อนแฝงไปด้วยความสดใส ราวกับดอกโบตั๋นที่มีความเด็ดขาดบานสะพรั่งดอกหนึ่ง ฐานะสูงส่งโดดเด่น
อุปนิสัยของนางไม่แย่ที่สุดแต่ก็ไม่ได้ดีที่สุดเช่นกัน บางครั้งเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย วิธีการก็แข็งกร้าวเช่นกัน ครั้งหนึ่งเคยมีบุตรสาวของตระกูลขุนนางไม่ทันระวังเหยียบเสื้อคลุมของนางเข้า ภายหลังตระกูลขุนนางใหญ่ผู้นั้นตกต่ำกลายเป็นตระกูลเล็ก บุตรสาวขุนนางผู้นั้นก็เหมือนกับว่าจะตายเพราะอุบัติเหตุ
นางมีฝ่าบาทและฮองเฮาหนุนหลัง การทำให้นางแค้นเคืองย่อมจะต้องไม่มีจุดจบที่ดีอะไรอย่างแน่นอน
มีเพียงหนานกงหลีที่อยู่ด้านข้างขมวดหว่างคิ้ว มีลางสังหรณ์ว่าองค์หญิงหลิวอิ๋งอาจจะสร้างความยุ่งยากให้แก่เย่จายซิงผู้นั้นเป็นแน่
หนานกงหลีเป็นพี่สาวแท้ๆของหนานกงเหยา เป็นหนึ่งในสามหญิงงามแห่งเมืองเฉินตู เมื่อวานนางเห็นว่าน้องสาวเปลี่ยนเป็นงดงามขึ้นมากจริงๆ มีความรู้สึกแปลกใจบางอย่างจากรังไหมกลายเป็นผีเสื้อแบบนั้น ฉะนั้นนางจึงมีความรู้สึกดีต่อเย่จายซิงผู้ท่านนั้นที่กลั่นโอสถไขกระดูกเยือกออกมา
ทันทีที่ความคิดของนางขยับ เอ่ยกล่าวกับหญิงรับใช้ข้างกาย:
“ชุนเสวี่ย เจ้าก็ไปหาซื้อโอสถไขกระดูกเยือกมาให้ข้าเม็ดหนึ่งด้วยเช่นกัน แม้แต่พระองค์หญิงยังซื้อ ข้าก็ต้องตามกระแสถึงจะถูกต้อง ลองดูว่าโอสถเม็ดเล็กๆนั่น จะมีความมหัศจรรย์ถึงเพียงนั้นจริงหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...