บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 185

เดิมองค์หญิงหลิงหยุนนั้นมิได้มีความสงสัยอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เจียหยูท่าทีลับๆล่อๆ เดินอย่างเร่งฝีเท้าและมองซ้ายพวงขวา ความสงสัยในใจยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

นางเดินตามหลังไปค่อนข้างไกล จนในที่สุดหยุดเดินลงบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในเขตพลุกพล่าน

“ที่นี่มันช่างคุ้นเคยนัก”

องค์หญิงหลิงหยุนพูดกับตัวเอง ตอนกำลังจะเดินขึ้นไป นางเห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินตามเย่เจียหยูไป ชายคนนั้นไม่ใช่ซุนหยวนชิ่งรึ?

นางคิดขึ้นมาได้ว่าบ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ซุนหยวนชิ่งพานางมาเมื่อปีที่แล้ว?

ตอนนั้นเขาพูดว่าจะยกบ้านหลังนี้ให้นางอยู่ แต่นางปฏิเสธไป นางเกิดเป็นถึงองค์หญิงและเป็นความภาคภูมิใจของแคว้นหงส์แดง เสด็จอานั้นได้ให้หินทิพย์นางมากมาย นางไม่ถูกใจบ้านหลังนี้

เขาทั้งสองมาที่นี่ทำไมกัน?

นางอยากขึ้นไปถามให้รู้เรื่อง แต่เย่เจียหยูกลับร้องไห้ขึ้นมาก่อน ร้องไห้ฟูมฟายน่าสงสารเหมือนจะเสียใจมาก ซุนหยวนชิ่งนั้นปลอบใจนางพลางโอบไหล่นางไว้ ผ่านไปสักพักเขาก็โอบกอดเย่เจียหยูเข้าไปในอ้อมอก

เย่เจียหยูก็ไม่มีท่าทีขัดขืน ยินยอมให้เขากอดแต่โดยดี

องค์หญิงหลิงหยุนรู้สึกโกรธ

ซุนหยวนชิ่งตามตื๊อองค์หญิงอยู่ ถึงแม้นางจะไม่ได้รับรัก แต่เขาก็ยังคอยตื๊อนางอยู่เรื่อยๆ แต่ไหนถูกเย่เจียหยูแย่งไปแบบไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว เหมือนตัวเองนั้นกลายเป็นหมาหัวเน่า ในใจนางรู้สึกดีก็บ้าไปแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้น เย่เจียหยูเป็นคู่หมั้นของเซี่ยซือหาวอยู่แล้ว!

มาถึงเฉินตูก็มาคบหากับชายอื่น ในสายตานางนั้นไม่มีคู่หมั้นตัวเองอยู่เลยรึ?

องค์หญิงหลิงหยุนนั้นเดินขึ้นไปแล้วดึงตัวเย่เจียหยูออกมา ตบไปที่หน้านางสองที

“เย่เจียหยู เจ้าบังอาจมาก เจ้ามันยั่วผู้ชายอย่างไม่เลือกหน้า!”

เย่เจียหยูอุทานออกมาด้วยความตกใจ ซุนหยวนชิ่งรีบเข้าไปพยุงนางไว้ พูดกับองค์หญิงหลิงหยุนด้วยสีหน้าจริงจังว่า:

“เจ้าทำไมต้องทำร้ายนางด้วย? น้องหยูทำอะไรให้เจ้าโกรธ?”

“น้องหยู? เรียกชื่อกันสนิทสนมเช่นนี้ อย่าบอกนะว่าเจ้าสองคนได้เสียกันแล้ว!”

องค์หญิงหลิงหยุนพูดด้วยอารมณ์โมโห จนแทบอยากจะฉีกหน้าฉีกปากที่ดูน่าเอ็นดูของเย่เจียหยู

เย่เจียหยูรีบอธิบาย: “องค์หญิง ท่านอย่าเข้าใจผิดไป ข้ากับท่านพี่ใหญ่ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน พี่ซุนแค่สงสารข้าเลยปลอบใจข้า”

นางไม่รู้ว่าองค์หญิงหลิงหยุนนั้นมาได้อย่างไร แต่นางรู้เพียงแต่ว่า ไม่สามารถให้องค์หญิงนั้นเข้าใจผิดเรื่องซุนหยวนชิ่งกับนาง มิฉะนั้นองค์หญิงอาจจะพูดเรื่องคู่หมั้นนางให้ซุนหยวนชิ่งก็เป็นได้

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วจะลำบากเข้าไปใหญ่

แต่ท่าทีนางทำให้ซุนหยวนชิ่งเห็นว่านางหวาดกลัวองค์หญิงหลิงหยุนมาก เขาได้ดึงนางหลบอยู่ด้านหลัง พูดกับองค์หญิงเสียงขรึมว่า:

“เจ้าอย่ารังแกน้องหยูเลย ไม่ใช่ความผิดของนาง แต่เป็นเพราะข้าที่ไม่ได้รักเจ้าแล้ว ตอนนี้หญิงที่ข้ารักคือนาง นางเป็นคนเห็นอกเห็นใจคน เป็นคนงามสง่าดีกว่าเจ้าไม่รู้กี่เท่า ข้าทนอารมณ์เจ้าไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแข่งขันที่เทียนเจียว ที่เจ้าให้เย่จายซิงนั้นคุกเข่าคำนับเจ้าเป็นร้อยครั้งที่ร่ำลือไปทั่ว ทำให้ข้าก็พลอยอับอายไปด้วย!”

องค์หญิงรู้สึกคับแน่นหน้าอกขึ้นมา ยิ่งทำให้นางนั้นตกตะลึงตาโต มองซุนหยวนชิ่งด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ ว่าเขาจะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปาก

เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นคนเช่นนี้!

เป็นเพราะเย่เจียหยู! ต้องเป็นเย่เจียหยูที่ทำให้เข้าหลงหัวปักหัวปำ ทำให้เข้าปันใจไปรักเย่เจียหยูและมาพูดจาเยี่ยงนี้กับนาง

“เย่เจียหยู! เจ้าช่างกล้าบังอาจมาก! ข้ามองเจ้าผิดไปจริงๆ!”

นางพูดอย่างกัดฟันแน่น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

องค์หญิงหลิงหยุนพูดอย่างยิ้มเยาะ รอดูหน้าของซุนหยวนชิ่งที่ต้องเปลี่ยนสีหน้าแน่ๆ

แต่ที่ไหนได้ เขากลับไม่รู้สึกประหลาดใจแต่กลับขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น:

“หลิงหยุน ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นผู้หญิงที่ใส่ความคนอื่น ข้าผิดเองที่มองเจ้าผิดไป! เซี่ยซือหยวนที่เจ้าพูดนั้นข้าได้เจอเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เขานั้นตามตื๊อน้องหยูมาตลอด เจ้าน่าจะรู้ดีเจ้าเลยเอาชายผู้นั้นมาทำลายศักดิ์ศรีของน้องหยู ”

“ใช่สิ คุณอาของเซี่ยซือหยวนนั้นเป็นท่านแม่ขององค์หญิงหลิงหยุน ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก” เย่เจียหยูพูดเสริมขึ้นมา

นางมององค์หญิงหลิงหยุนด้วยสายตาสีหน้าอ่อนโยน:

“องค์หญิง ข้ารู้ว่าท่านโกรธมาก เรื่องของความรักใช่ว่าท่านและข้าจะกำหนดได้ ข้าไม่ได้รักเซี่ยซือหาว ถึงแม้เข้าจะตามตื้อข้าเท่าใดก็ไร้ประโยชน์ ก็เสมือนท่านที่พี่ซุนที่ไม่ได้รักแล้วเช่นกัน มันไม่สามารถที่จะบังคับกันได้”

องค์หญิงหลิงหยุนนั้นตะลึงไปสักครู่ เซี่ยซือหยวนมาถึงที่แล้ว ซุนหยวนชิ่งยังคงไม่เชื่อ และยังคิดว่าเป็นเพราะเซี่ยซือหยวนที่ตามราวีไม่เลิก

มันจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว!

นางไม่เคยรู้ว่าซุนหยวนชิ่งนั้นจะโง่ถึงเพียงนี้

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจ แต่ตอนนี้ข้ารักน้องหยู เจ้าอย่ามาตอแยกับข้าเลย!” ซุนหยวนชิ่งพูดอย่างเย็นชา

คำพูดนี้ตั้งใจจะทำให้นางอับอาย

เย่เจียหยูยังพูดอีก: “องค์หญิง ท่านพี่ซุนเชื่อใจในตัวข้า ท่านจะใส่ความข้ายังไงก็ไร้ประโยชน์ อีกสักครู่ก็จะมีการเปิดการไต่สวนแล้ว ถ้าองค์หญิงจะใส่ร้ายข้าก็ขอให้ไปที่ศาลกลาง ท่านผู้พิพากษาจะคืนความยุติธรรมให้ข้าเอง ข้าทำตัวเปิดเผย ไม่มีอะไรที่ข้าต้องละอายแก่ใจ”

ซุนหยวนชิ่งสีหน้าชื่นชม

องค์หญิงหลิงหยุนยิ้มอย่างขืนข่ม เย่เจียหยูเจ้าช่างกล้านัก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา