องค์หญิงหลิวอิ๋งถูกเทาเที่ยข่วนหนึ่งที เจ้าเทาเที่ยตัวนั้นยังมาทำหน้าทำตาล้อเลียนอีก
ฝูงชนที่มามุงดูแอบขำคิกคัก
ตอนองค์หญิงหลิวอิ๋งหันไปมอง พวกเขาก็รีบก้มหน้าลง ซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ นางเลยไม่รู้ว่าใครหัวเราะเยาะนางกันแน่
ดูนางโกรธสิ ควันแทบจะออกทวารทั้งเจ็ดอยู่แล้ว
"เย่จายซิงเจ้าจงใจ! เจ้าเป็นคนให้เทาเที่ยข่วนข้า เจ้ามันร้ายนัก!"
นางชี้หน้าด่าเย่จายซิงฉาดใหญ่
หากไม่ใช่เย่จายซิงตั้งใจเล่นงานนาง นางก็คิดหาความเป็นไปได้อย่างอื่นไม่ออกแล้ว
เมื่อครู่นางนึกว่านางดึงดูดความโปรดปรานจากเทาเที่ยได้แล้ว และเทาเที่ยอยากผูกพันธะกับนาง
เสียโลหิตจิงหยดหนึ่งไปเปล่าๆ ไม่พอ ยังเสียหน้าขนานใหญ่เช่นนี้อีก ตอนนี้หลังมือของนางเสียรูปอย่างหนัก ปวดแสบปวดร้อนไปหมด
นางเป็นถึงองค์หญิงสูงศักดิ์แห่งแคว้นเทพมังกร ชาวบ้านชั้นต่ำเหล่านี้ยังกล้าล้อเลียนนางเชียวหรือ
"องค์หญิงมองหม่อมฉันในแง่ร้ายเกินไปแล้ว หม่อมฉันถอนพันธะกับเทาเที่ยไปแล้ว ไม่อาจสื่อสารกับมันได้ แล้วจะไปสั่งมันให้ทำร้ายท่านได้อย่างไรเล่า"
เย่จายซิงทำหน้ากระเง้ากระงอด
โม่เสิ่นยวนเอ่ยเสียงเย็น: "เป็นเจ้าที่ไร้ความสามารถเอง อย่ากล่าวโทษคนอื่นไปเสียทุกเรื่องเลย เจ้ารีบกลับไปพันแผลเถิด แต่หากไม่พัน แผลก็หายเองได้"
พรึ่ด!
มีเสียงหลุดขำดังขึ้นท่ามกลางฝูงชนอีกครั้ง
แต่หากไม่พัน แผลก็หายเองได้
คำพูดนี้ช่างเด็ดดวงนัก
ผู้คนต่างคิดไม่ถึงว่า เซ่าตี้ที่ดูเย็นชาและนิสัยแปลกแยก จะเอ่ยคำพูดได้ขบขันถึงเพียงนี้
เย่จายซิงเม้มปากยิ้มกริ่มเช่นกัน นัยน์ตาสีดำแวววาว สายตาตกอยู่บนหลังมือของหลิวอิ๋ง ไม่นานก็ถอนกลับมา แล้วเหยียดมุมปากขึ้นอีกครั้ง
"เสด็จพี่!"
หลิวอิ๋งอับอายจนรับไม่ได้ โมโหจนมือไม้สั่นไปหมด
แต่คำพูดของโม่เสิ่นยวนนั่นไม่ผิด ในฐานะผู้ฝึกตน ย่อมมีความสามารถในการสมานแผลเองอยู่แล้ว เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว รอยข่วนบนหลังมือของนางก็สมานกันหมดแล้ว เหลือเพียงคราบเลือดที่ไหลออกมาเมื่อครู่อยู่ด้านบน
"องค์หญิงหลิวอิ๋ง ท่านอย่าก่อเรื่องเอาแต่ใจเลย ท่านอยากได้อสูรเทพ หม่อมฉันก็ถอนพันธะวิญญาณกับเทาเที่ยแล้ว และวิญญาณก็ได้รับความเสียหาย นี่ไม่ใช่เพราะเล่นแง่กับท่าน แต่เป็นท่านกับเทาเที่ยที่ไม่มีวาสนาต่อกัน นี่มันเป็นการพาลใส่คนอื่นซะไม่มี"
เย่จายซิงเอ่ยเสียงเบา ทำสีหน้ากล่าวด้วยเหตุผล
แต่หลิวอิ๋งฉุนเอาเรื่อง ไหนเลยจะฟังคำเหล่านี้ ประกาศกร้าวตอกหน้าเย่จายซิงว่า:
"เจ้าหุบปากซะ! นังภูตจิ้งจอก เจ้ายั่วยวนเสด็จพี่ของข้า ยั่วยวนนายน้อยหรง ซ้ำยังยั่วยวนบุรุษทุกคนในที่นี้อีก ทำเอาบุรุษทั้งใต้หล้าอยากมายืนอยู่ข้างเจ้าใจแทบขาด เจ้ามันสันดานภูตจิ้งจอก สักวันข้าจะต้องกระชากหน้ากากนังแพศยาเช่นเจ้าออกมาให้ได้!"
เพี้ยะ!
เสียงกังวาลเสียงหนึ่งดังขึ้น ลมฝ่ามือสายหนึ่งตบองค์หญิงหลิวอิ๋งจนหน้าหัน
บนหน้านางปรากฏรอยฝ่ามือในทันใด บวมเห่อ เดาออกเลยว่าลมฝ่ามือที่ตบนางนั้นแรงขนาดไหน
ซึ่งคนที่ลงมือ คือเซ่าตี้
"หลิวอิ๋ง เย่จายซิงคือภรรยาในอนาคตของข้า คือพี่สะใภ้ของเจ้า หากเจ้าไม่เคารพนางอีก คราวหน้าจะไม่ใช่แค่ฝ่ามือเดียว"
โม่เสิ่นยวนเอ่ยเสียงหมางเมิน นัยน์ตาสีดำลุ่มลึกมองนางอย่างดุดัน ใบหน้าเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง
“เสด็จพี่ ท่านตบข้าเพราะนังภูตจิ้งจอกเชียวรึ!”
“ต่อไปท่านจะต้องเสียในแน่!”
หลิวอิ๋งกุมใบหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ มองโม่เสิ่นยวนน้ำตาคลอเบ้า แล้วหมุนตัววิ่งออกไป
โม่เสิ่นยวนถามนาง กังวลว่าการถอนพันธะจะส่งผลต่อนางมากหรือน้อย
“ไม่เป็นไรเพคะๆ เสด็จอา ข้ากำลังวังชาดีจะตาย ท่านอย่าลืมสิ ข้ายังเป็นอาจารย์อัญเชิญด้วย พรสวรรค์ในการผูกพันธะอสูรเทพ ทรงพลังเป็นอย่างมาก อีกอย่างโลหิตจิงของข้าก็สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ ก็แค่เสียโลหิตจิงไปหยดเดียว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหรอก”
ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาได้คลี่คลายแล้วด้วย!
นางยื่นมือตบหัวใหญ่ของเจ้าเทาเที่ยเบาๆ ก่อนจะหยิบพู่เทพหนึ่งลูกออกมา เจ้าเทาเที่ยหายใจกระหืดหอบ แล้วกินเข้าไปจนหมด
จากนั้นนางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วเช็ดผงยาที่อยู่บนกรงเล็บของเจ้าเทาเที่ยออกจนสะอาด ขณะที่มันกำลังกอดต้นขาของนางอย่างออดอ้อน
“เสด็จอา ผงยาซึมผ่านแผลเข้าไปในร่างของหลิวอิ๋งแล้ว แต่กู่กู่ภิรมย์รักก็ไม่อาจฆ่าได้ง่ายขนาดนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งวันถึงจะตายเรียบ อาจเป็นยามนี้ในวันพรุ่ง กู่ถึงจะตาย”
“อืม เช่นนั้นวันพรุ่งเวลานี้ เจ้าอยากเข้าวังไปดูหน่อยหรือไม่ ดูท่าทีของเขาที่มีต่อหลิวอิ๋ง หากอยากไปข้าจะพาเจ้าไปเอง”
โม่เสิ่นยวนเอ่ยเสียงละมุน
เย่จายซิงตาเป็นประกาย แล้วพยักหน้า
“ดีเลยเพคะ ภาพนั้นจะต้องน่าชมมากแน่ๆ! ความรักที่ฮ่องเต้มีต่อหลิวอิ๋ง ส่วนหนึ่งมาจากกู่ ตอนที่กู่ตาย ความรู้สึกของเขาก็จะห่างออก ถึงตอนนั้น เขายังจะอดกลั้นกับหลิวอิ๋งได้ขนาดนั้นอีกหรือไม่? ข้าอยากเห็นเสียจริง”
นางตื่นเต้นเล็กน้อย
ยุคนี้ไม่มีเรื่องให้ทำแก้เบื่อ เอาแต่บำเพ็ญเพียรก็น่าเบื่อหน่าย ได้ดูเรื่องสนุกสนานระดับนี้ นั่นก็ไม่มีสิ่งใดจะน่าสนใจเท่าแล้ว
“ว่าแต่ เสด็จอา ถึงตอนที่กู่ตาย ฮองเฮาจะต้องรู้เป็นคนแรกแน่ หากนางฝังกู่ในร่างของหลิวอิ๋งอีกจะทำอย่างไร?”
นางถามอย่างสงสัย
โม่เสิ่นยวนถีบเจ้าเทาเที่ยที่กำลังคลอเคลียนางหงายตึง แล้วเอ่ยว่า:
“การหลอมกู่ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก จำเป็นต้องใช้เลือดของนางกับเสด็จพ่อ รวมถึงขั้นตอนที่ซับซ้อนอีกบางขั้นตอน วางใจเถิด หลิวอิ๋งดิ้นไม่หลุดแล้ว ครั้งต่อไป ก็ถึงตานางแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...