พอถูกแม่นมหลานถามจี้ หลิวอิ๋งกัดริมฝีปากแน่น เหมือนไม่อยากพูดอะไรอีก
"แม่นมหลาน ท่านให้เสด็จแม่มาพบข้าที ข้าจะคุยกับนาง พานางมาถามให้ชัดเจน!"
เย่จายซิงเห็นว่าเรื่องนี้ควรดำเนินการอย่างไร จึงตั้งใจนิ่วหน้าและเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า:
"องค์หญิง ตามความเห็นของหม่อมฉัน จะต้องมีคนมาพูดจาเหลวไหลใส่ท่านแน่ๆ ท่านคือเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้และฮองเฮา เรื่องนี้จริงแท้แน่นอน ท่านไม่ต้องสงสัยแล้ว หม่อมฉันกับพระนางจะโกหกท่านเรื่องแบบนี้อย่างนั้นหรือ?"
หลิวอิ๋งแววตาเคลือบแคลง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะน้ำเสียงของแม่นมหลานดูจริงจังเหลือเกิน ทำให้นางจิตใจสั่นคลอน สงสัยว่าเรื่องที่ตนรู้มาก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องเท็จ
"แต่ว่า....หากข้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเสด็จพ่อเสด็จแม่จริงๆ แล้วเหตุใดตอนที่ข้าใช้กู่สายจูง ถึงไม่ได้ผลกับเสด็จพี่เล่า?"
จากความรู้เรื่องกู่ของเผ่าโฮ่วานที่เสด็จอาอัดแน่นให้นางเมื่อไม่กี่วันก่อน บวกกับมีความทรงจำของแม่นมหลาน เย่จายซิงจึงนึกวิธีใช้งานของกู่สายจูงออกทันที
กู่สายจูง เป็นกู่ที่สามารถสะกดรอยคนในครอบครัวได้
ขอแค่มีความสัมพันธ์เป็นสายเลือดใกล้ชิด ก็สามารถใช้ได้แล้ว
ดังนั้น ความหมายของหลิวอิ๋งก็คือ…..
เสด็จอากับหลิวอิ๋งไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกัน!?
ตาเถร!
เช่นนั้นสรุปว่าเป็นเสด็จอาที่ไม่ใช่สายเลือดของฮ่องเต้ หรือเป็นหลิวอิ๋งที่ไม่ใช่สายเลือดของฮ่องเต้กันแน่?
"องค์หญิง ท่านใช้กู่สายจูงกับเซ่าตี้ไปเมื่อไร? เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะเพคะ ท่านเล่าเรื่องนี้มาให้ชัดเจนได้หรือไม่ อาจจะใช้ผิดพลาดตรงไหนไปหรือเปล่า?"
แม่นมหลานเอ่ยกับหลิวอิ๋งด้วยสีหน้าขึงขัง
"ข้าจะใช้ผิดได้อย่างไร! กู่สายจูงก็ไม่ได้ใช้ยาก เมื่อปีที่แล้ว ข้าแอบเข้าไปหาเส้นผมสองสามเส้นของเสด็จพี่ในห้องบรรทมของเขามาให้กู่กิน เดิมคิดว่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเสด็จพี่ได้ทันที ใครจะรู้ ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไม่ได้ผลเลยสักนิด นี่หมายความว่าข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นสายเลือดเดียวกันกับเขามาก่อน!"
หลิวอิ๋งเอ่ยอย่างขุ่นเคือง อย่างไรนางก็สงสัยว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ อยู่ดี เพราะเสด็จพี่สามารถผูกพันธะกับอสูรเทพมังกรเขียวได้ เช่นนั้นจะต้องเป็นสายเลือดราชวงศ์อย่างแน่นอน
มีเพียงสายเลือดราชวงศ์เท่านั้น ถึงจะได้รับความยินยอมจากมังกรเขียว
ความสนใจของเย่จายซิงอยู่ที่: "องค์หญิง เหตุใดท่านถึงต้องอยากรู้ความเคลื่อนไหวของเซ่าตี้ด้วยเล่า?"
นางคล้ายจะรู้แล้วว่าการตั้งตนเป็นศัตรูของหลิวอิ๋งที่มีต่อนางในตอนแรกมาจากไหน
"ข้า ข้าก็แค่อยากรู้ว่าเขาไปไหน ถึงไม่เห็นเขาเลย!"
สายตาของหลิวอิ๋งฉายแววซ่อนเร้นเล็กน้อย
"ตอนนี้ข้าเพิ่งรู้ว่า จริงๆ แล้วไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาไปเป็นอ๋องเซ่อเจิ้งที่แคว้นหงส์แดง ไม่รู้ว่าไปพัวพันกับนังภูตจิ้งจอกเย่จายซิงนั่นตั้งแต่เมื่อไร!"
น้ำเสียงของหลิวอิ๋งเจือความริษยาชิงชัง อารมณ์ออกไปทางขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเล็กน้อย
ดูจากท่าทีการพูดของหลิวอิ๋ง ตอนนี้เย่จายซิงจึงมั่นใจแล้วว่า…..ความรู้สึกที่หลิวอิ๋งมีต่อเสด็จอา ไม่ใช่ในแบบที่น้องสาวมีต่อพี่ชาย
หากทั้งสองคนไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ก็กลายเป็นว่าความรู้สึกนั้นไม่ใช่สิ่งต้องห้ามอะไร หลิวอิ๋งถึงได้ต่อต้านไม่ให้เสด็จอาแต่งงานกับนางขนาดนั้น
"องค์หญิง เรื่องราวไม่ธรรมดาแล้ว หากเป็นเช่นนี้จริง เช่นนั้นสถานการณ์ก็ร้ายแรงนัก หม่อมฉันจะไปทูลพระนาง ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าเซ่าตี้ใช่ลูกชายของฮ่องเต้หรือไม่"
แม่นมหลานสีหน้าเคร่งเครียด ขมวดคิ้วเป็นปม
หลิวอิ๋งเอ่ยว่า: "แม่นม มาถึงขนาดนี้แล้ว ท่านอย่าหลอกข้าอีกเลย ข้าต่างหากที่ไม่ใช่สายเลือดของเสด็จพ่อ ใช่หรือไม่? พอไม่มีลูกกู่จากกู่ภิรมย์รักแล้ว ท่าทีของเสด็จพ่อก็เปลี่ยนไปมาก หากมีสายเลือดเดียวกัน เหตุใดเขาถึงปฏิบัติกับข้าเช่นนี้?"
แม่นมหลานกล่าวว่า:
"เท่าที่หม่อมฉันรู้ ท่านไม่มีทางเป็นลูกของพระนางกับชายอื่นอย่างแน่นอนเพคะ องค์หญิง ท่านไม่ต้องคิดมาก หลังจากสืบเสาะชัดเจนแล้ว หม่อมฉันจะมาบอกความจริงกับท่าน แต่ก่อนอื่น ท่านอย่าได้บอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาดนะเพคะ"
"ข้าเป็นลูกแท้ๆ จริงหรือ? แล้วถ้าเสด็จพี่ไม่ใช่ลูกของเสด็จพ่อ จะเป็นลูกใครไปได้? เขาผูกพันธะกับมังกรเขียวได้ ก็ต้องเป็นสายเลือดวังเทวสิ"
หลิวอิ๋งรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก
เย่จายซิงเองก็สงสัยเช่นกัน เรื่องนี้มันแปลกชอบกลจริงๆ
เขาเอ่ย
ตอนที่เขายังอยู่ในวังแรกๆ แม้จะยังเด็ก แต่จดจำเรื่องราวเมื่อก่อนได้ชัดเจนมาก
ตอนนั้นฮ่องเต้กับฮองเฮาก็รักกัน "หวานชื่น" แล้ว แต่น้ำเชื้อของฮ่องเต้มีปัญหา ใช้ความพยายามไปไม่น้อย กว่าจะมีหลิวอิ๋งในครรภ์
"เสด็จอา..."
เย่จายซิงมองเขาอย่างกังวล
ภายใต้แสงจันทร์ เงาต้นไม้วูบไหว สีหน้าของเขานิ่งสงบสุดขั้ว
"ดูท่า ข้าน่าจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเสด็จพ่อ"
เขาเอ่ย
เย่จายซิงขบเม้มริมฝีปาก อยากจะปลอบโยน แต่กลับพบว่าเสด็จอาไม่ต้องการการปลอบโยนเลยแม้แต่น้อย
"น้องซิง เจ้าอยากรู้เรื่องราวของมารดาผู้ให้กำเนิดของข้าหรือไม่?"
จู่ๆ เขาก็ก้มหน้าลงมองตานาง
นางพยักหน้า: "อยากเพคะ"
"มารดาแท้ๆ ของข้า เป็นลูกสาวของประมุขตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งในอาณาจักรเวหาทิพย์ นางมาที่แผ่นดินเทียนเหย้าแบบไม่ทันตั้งตัว และตกหลุมรักฮ่องเต้ผู้ที่ช่วยชีวิตนางในแรกพบเพื่อที่จะได้แต่งงานกับเขา นางตัดสัมพันธ์กับวงศ์ตระกูลที่อาณาจักรเวหาทิพย์ ใช้ศัสตราวุธเป็นสินสอด ได้รับการยอมรับจากพระราชชนกและท่านผู้อาวุโส จนได้เป็นฮองเฮาของเขา"
สายตาโม่เสิ่นหยวนเหม่อมองทอดออกไป ไม่ได้จดจ่อกับสิ่งใด น้ำเสียงยังคงเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง ราวกับกำลังพูดเรื่องที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขา
"แต่เขาไม่ชอบนาง คิดว่านางเหลี่ยมจัด เวลาที่บุรุษคนหนึ่งเกลียดชังสตรีคนหนึ่ง ไม่ว่าสตรีคนนี้จะทำอะไร ก็ผิดไปหมด ต่อมา หลังจากที่นางให้กำเนิดข้า ก็มีอาการซึมเศร้า"
"แต่ความจริงแล้ว นางไม่ได้ป่วยตายจากอาการซึมเศร้า แต่เป็นการฆ่าตัวตาย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...