บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 312

“ท่านจอมปีศาจอาวุโส โครงกระดูกแก่ๆ อย่างท่าน คิดจะฆ่าข้า ช่างน่าขันยิ่งนัก!”

เสียงอาละวาดของหลงเฟยหลี ขัดขวางเจตนาฆ่าของจอมปีศาจไว้ได้ จับชุยหยูที่อยู่ในมือปล่อยลงกับพื้น เสียงกระแทกพื้นดังโครมใหญ่

ชุยหยู เป็นตายเท่ากัน

“เวทมนตร์ของเจ้า ช่างใจกล้ายิ่งนัก!”

จอมปีศาจมองหลานสาวอันเป็นที่รักของตนกำลังจะตาย ก็โกรธมาก

“แน่นอนข้าน้อยใจกล้า อันที่จริงราชาองค์นี้เกิดจากเวรกรรมระหว่างองค์หญิงอันเหวิน กับราชาปีศาจ ลูกสาวของเจ้าใจกล้าเช่นไร ข้าเองก็สืบทอดมาเช่นนั้นเหมือนกัน”

หลงเฟยหลีกล่าวเยาะเย้ย

เมื่อคำพูดนี้ออกไป บรรดาอสูรในวังปีศาจก็ต่างตกตะลึงกันไปหมด

เวทมนตร์นี้ ที่จริงแล้วเป็นขององค์หญิงอันเหวินกับลูกชายของราชาปีศาจ!

แต่ตอนนี้องค์หญิงอันเหวินแต่งงานไปแล้ว งั้นชุยหยูก็เป็นบุตรสาวที่เกิดจากนางกับสามีคนปัจจุบันนั้นเอง

สีหน้าของจอมปีศาจเปลี่ยนไป กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “เป็นเจ้านั้นเอง!จักรพรรดิองค์ใหม่แห่งโลกปีศาจ!เจ้าบาดเจ็บสาหัสอยู่ไม่ใช่หรือ?”

ลูกสาวของตนได้ทำเรื่องอะไรไว้ในตอนนั้น จอมปีศาจย่อมรู้ดี แต่เขาพึ่งรู้ว่าลูกที่นางคลอดในตอนนั้นได้ถูกจับโยนลงไปในเหวปีศาจ ไม่เช่นนั้นเขาจะหาสถานที่ที่เหมาะสมให้กับเด็กคนนั้นอยู่อย่างแน่นอน

น่าเสียดายที่เขารู้ช้าเกินไป

และเด็กคนนั้น ก็ได้กลายเป็นจักรพรรดิปีศาจแห่งโลกปีศาจแล้ว และพึ่งโจมตีโลกมนุษย์มาเมื่อไม่นานมานี้

ราชาปีศาจรู้ดีว่านิสัยของเด็กคนนี้หัวดื้อขนาดไหน เขาโจมตีโลกมนุษย์ได้ แถมยังโจมตีโลกปีศาจได้ด้วย ทำให้แผ่นดินใหญ่พังพินาศได้

ยังดีที่เซ่าตี้เผ่ามนุษย์ทำร้ายจักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส

แต่ว่า คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิปีศาจองค์ใหม่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ที่จริงแล้วแอบลอบมาถึงโลกปีศาจนี้

“ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง แต่ข้ามีลมปราณที่แข็งแกร่ง และได้รับโอกาสที่ดี บำเพ็ญตนจนฟื้นตัวได้ ท่านราชาปีศาจ ดูเหมือนท่านจะรู้สึกผิดหวังนะ น่าเสียดายจริงๆ คนชั่วมักอายุยาว ต่อให้ท่านตายแต่ข้าคงตายไม่ได้”

หลงเฟยหลีพูดติดตลก และกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

เขามองกวาดตาไปทางดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และถอนสายตากลับมาเกี้ยวกราดใส่ราชาปีศาจ

ตามปกติแล้ว เขาจะไม่พูดจาเพ้อเจ้ออะไรมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังมีกองกำลังสังหารอยู่ด้วย ถ้าโดนราชาปีศาจสั่งการละก็ คงต้องเสียเวลาไม่น้อยเลยทีเดียว เขาขี้เกียจเสียเวลาเปลืองน้ำลายกับคนพวกนี้

โม่เสิ่นยวนพาเย่ยู่หยางหาที่หลบซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมองฟลงเฟยหลี สีหน้าสงสัย

แม้ว่าเขาไม่อยากจะยอมรับ แต่วันนี้ฟลงเฟยหลีช่วยเขาไว้จริงๆ

“เริ่มค่ายกล”

เขาพูดเบาๆ

เหยียนเฟิงพยักหน้า ควักหินทิพย์ที่ดีที่สุดออกมา และฝังเข้าไปที่จุดสำคัญของค่ายกล

“ใครกันที่เข้ามาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้!”

ราชาปีศาจตะโกนเสียงดัง

หลงเฟยหลีสูดหายใจหนึ่งเฮือก ดาบหนึ่งเล็มฟันเข้ามาหาที่เขา

“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!ให้ข้าได้เห็นความเก่งกาจของราชาปีศาจสักหน่อย ว่ามันจะสักแค่ไหนกันเชียว!”

ย้ากกก!

ราชาปีศาจหลบได้ทัน กำแพงวังชิ้นใหญ่หล่นลงมา

หลงเฟยหลีหัวเราะราวกับเป็นปีศาจชั่วร้าย ผมสีดำปลิวไสวโดยไม่มีลมพัด แววตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นอย่างไม่สิ้นสุด

“ให้ผู้หญิงคนนั้นมาหาข้า ไม่งั้น ข้าจะฆ่าให้หมดทุกคน”

……

แสงสีขาวแพรวพราวหายไป สามคนที่อยู่ในค่ายกลนั้นยังคงยืนหยัดอยู่

ที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ เป็นซากปรักหักพัง ดูเหมือนเป็นที่ตั้งของสำนักแห่งหนึ่ง แต่มันถูกทำลายไปเมื่อไม่นานมานี้ มีซากปรักหักพังเต็มไปทั่วทุกพื้นที่

สำนักนี้มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เผ่าปีศาจ แต่ไม่นึกเลยว่าจะโดนทำลายจนพินาศแบบนี้

โชคยังดีที่ที่นี่เป็นเพียงทางผ่านของค่ายวาร์ปเท่านั้น ไม่สามารถส่งผ่านจากอาณาจักรเวหาทิพย์ไปถึงแผ่นดินเทียนเหย้าได้ ไม่งั้นเผ่าปีศาจตกอยู่ในอันตรายแน่

“ไปเผ่าวิหคเพลิงกัน”

……

ในเวลานี้เย่จายซิงกำลังอุ้มแจกันดอกไม้เก่าๆ หน้าตาน่าเกลียด นั่งนิ่งอยู่ที่ขั้นบันได

นางฟื้นขึ้นมาก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว ข้างกายก็มีแค่แจกันดอกไม้หนึ่งอันเท่านั้น

ในแจกันดอกไม้มีดอกมะเขือเทศอันใหญ่ เมื่อครู่นางเอามาปอกเปลือกกินเข้าไปแล้ว กินหมดแต่ก็ยังรู้สึกหิวอยู่ดี

ถ้านางจะเดินลงก็ต้องเดินอีกร้อยกว่าขั้นบันได แต่ถ้านางจะเดินขึ้น ก็มีอีกแค่ไม่กี่สิบขั้นบันไดเท่านั้น

ไกลออกไป เป็นกำแพงและคูเมืองโบราณ สามารถมองเห็นผู้คนตัวเล็กเท่ามดกำลังเคลื่อนไหวกันอยู่

“แปลกจัง ทำไมข้าจำอะไรไม่ได้เลย ข้าเป็นใคร มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?”

ในขณะที่นางกำลังสงสัยอยู่นั้น จู่จู่ก็เห็นคนเหาะอยู่บนท้องฟ้า

“สวัสดี เจ้ามาคารวะอาจารย์ที่สำนักหรือ?”

คนบนท้องฟ้ากำลังรีบร้อนบินไปบนภูเขานั้น จู่จู่ก็เลี้ยวและมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

เป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง

ไม่รอนางตอบกลับ ชายหนุ่มคนนั้นก็รีบดึงเธอไปและพูดว่า

“นี้ไม่ใช้เวลามาคารวะอาจารย์ สำนักเฉียนคุนของพวกเราโดนศัตรูบุกรุกแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปหลบซ่อนตัวก่อน!”

จากนั้นเย่จายซิงก็โยนเขาจับขึ้นไปวางบนดาบของเขา ชั่วพริบตา ก็บินมาถึงหน้าประตูสำนัก

“ท่านอาจารย์เจ้าสำนัก!พรรคเทียนฉานบุกเข้ามาแล้ว!รีบตั้งค่ายกลคุ้มครองภูเขากันเถอะ!”

ชายหนุ่มตะโกน

เย่จายซิงอุ้มแจกันอยู่ ลมพัดหมวกม่านบังหน้าของนาง ในตาพร่ามัว เหมือนกับเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยที่พึ่งวิ่งออกมาจากภูเขา

ท่านหัวหน้า ท่านอาวุโส และบรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างกรูกันออกมา พอได้พบหญิงสาวที่สวยเกินมนุษย์แล้ว ต่างพากันตกตะลึง

สำนักเล็กๆ โทรมๆ อย่างพวกเรา มีนางฟ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา