บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 375

พ่อบ้านหลือบมองเย่จายซิงอีกสองสามครั้ง แต่ก็คิดไม่ออก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเรื่องนี้อีกต่อไป ก่อนจะพูดถึงความหลังกับโจวหยวนจื่อด้วยรอยยิ้ม

โจวหยวนจื่อเป็นอาจารย์ยันต์ทิพย์ของตระกูลวิหคเมื่อสิบปีก่อน ยันต์ทิพย์ที่ตระกูลเขาใช้ล้วนมาจากมือของเขา

ถ้าไม่ใช่เพราะในภายหลังโจวหยวนจื่อต้องการเดินทางไปทั่วโลกเพื่อตามหาลูกศิษย์ที่จะสามารถสืบทอดความรู้ของเขา เขาก็อาจจะยังคงเป็นอาจารย์ยันต์ทิพย์ในตระกูลวิหคต่อไป

“หลายปีมานี้ ตระกูลของพวกเจ้าเปลี่ยนไปมาก”

โจวหยวนจื่อมองไปรอบๆ และกล่าว

ในอดีต การตกแต่งรูของตระกูลวิหคเรียบง่าย แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งหมด ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น

“นี่ก็ปรับปรุงได้ไม่นาน เพราะคุณหนูกำลังจะแต่งงาน ประมุขอยากจะส่งตัวคุณหนูออกเรือนด้วยภาพลักษณ์ใหม่ของตระกูล”

พ่อบ้านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คุณหนูที่เขาพูดคือองค์หญิงวิหคจงหนิงฝู องค์หญิงวิหคเป็นชื่อในโลกภายนอก คนในตระกูลล้วนเรียกนางว่าคุณหนู

นิ้วมือของเย่จายซิงขยับ รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย มือที่ขยับเมื่อครู่ ก็ถูกมือคู่ใหญ่เข้ามากุมทันที

เมื่อนางเงยหน้าขึ้น ก็เห็นโม่เสิ่นยวนกำลังใช้สายตาปลอบประโลมนาง น่าประหลาดใจที่อารมณ์ของนางสงบลงมาก

“คุณหนูใหญ่จะออกเรือนเมื่อไร?”

โจวหยวนจื่อถาม

“คุณหนูไม่อยากจะไปจากท่านประมุข หวังว่ายิ่งช้าเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ประมุขอยากจะอุ้มหลานชายเร็วๆ ดังนั้นจึงกำหนดเวลาในสาวเดือนให้หลัง”

“เร็วมาก เช่นนั้นช่วงนี้พวกเจ้าคงจะยุ่งมากเลยสิ”

“ยังไหวอยู่ ท่านประมุขเตรียมเรื่องแต่งงานของคุณหนูมานานแล้ว และทุกคนก็ตั้งตารอวันนั้น”

พ่อบ้านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จงหนิงฝูอายุไม่น้อยแล้ว และแน่นอนว่าในโลกาบำเพ็ญเซียนอายุไม่นับว่าเกินร้อยปี กระทั่งอายุหลายร้อยปีก็ยังไม่ออกเรือน

แค่การแต่งงานของจงหนิงฝูเป็นความต้องการของประมุขตระกูล จงหนิงฝูทำได้แค่พยักหน้ายอมรับการแต่งงาน ทุกคนต่างก็ดีใจกันมาก

นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ารื่นเริงของตระกูลวิหค

กุญแจสำคัญคือจงหนิงฝูออกเรือนไปไม่ไกลนัก หากอยากกลับมา ก็ใช้เวลาไม่นาน

นี่คือเรื่องที่ประมุขชราพอใจกับป๋ายหลี่ฮุยมาก

โจวหยวนจื่อและพ่อบ้านพูดคุยกัน ส่วนเย่จายซิงและโม่เสิ่นยวนก็ไปเดินเล่นรอบๆ แน่นอนว่าสถานที่สำคัญไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาแค่เดินไปรอบนอกเท่านั้น

อีกทั้งได้ยินคำจากพ่อบ้าน จงหนิงฝูออกมาน้อยครั้งมาก นางตั้งใจฝึกฝนอยู่ในเรือน ในวันธรรมดา มีเพียงประมุขและสาวใช้สองสามคนเท่านั้นที่ได้เห็นนาง คนอื่นๆ อยากเห็นก็คงไม่ได้เห็น

“นักปราชญ์โจว ตระกูลวิหคของพวกเรายินดีต้อนรับท่านทุกเมื่อ ไม่นานมานี้ประมุขยังบ่นถึงท่านอยู่”

พ่อบ้านกล่าวอย่างจริงจัง

โจวหยวนจื่อเป็นปรมาจารย์ยันต์ทิพย์ขั้นแปดเพียงคนเดียวในดินแดน ความสามารถของเขา ประมุขของตระกูลวิหคก็รู้ดี พ่อบ้านหวังว่าโจวหยวนจื่อจะสามารถกลับไปวาดยันต์ได้อีกครั้ง

“ได้ รอให้ประมุขกลับมา ข้าจะคุยกับเขาอีกครั้ง”

โจวหยวนจื่อตอบรับ

เดิมทีเขาอยากจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข แต่ตอนนี้เขารับลูกศิษย์แล้ว เพื่อให้ลูกศิษย์มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง เขาในฐานะอาจารย์ ทำได้แค่ต้องออกไปทำงานต่อเท่านั้น

“เช่นนั้นก็ดีเลย รอให้ท่านประมุขกลับมา ข้าจะแจ้งท่านเอง”

พ่อบ้านส่งคนทั้งสามที่ประตูด้วยรอยยิ้ม

หลังจากกลับไป โจวหยวนจื่อก็ถามเย่จายซิงและโม่เสิ่นยวน

“พวกเจ้าดูเหมือนจะสนใจตระกูลวิหคมาก มีเหตุผลอะไรกับเรื่องนี้หรือไม่?”

เขาดูออก สองคนนี้มองพิจารณาตระกูลวิหค ไม่ใช่การพิจารณาธรรมดา

อีกอย่างเมื่อผ่านประตูฉุยฮวา ดูเหมือนลูกศิษย์ของเขาอยากจะเข้าไปข้างใน

เย่จายซิงและโม่เสิ่นหยวนมองหน้ากัน หลังจากเห็นเขาพยักหน้า ม่านอาคมรอบๆ ก็ถูกสร้างขึ้น นางมองโจวหยวนจื่อแล้วกล่าวว่า

“แต่ก่อนหน้านี้พ่อบ้านก้มองเจ้าอยู่หลายครา ไม่รู้ว่าเพราะเขาคิดว่าเจ้าคล้ายกับฮูหยินของท่านประมุขหรือไม่”

เมื่อกล่าวจบ เขาก็กล่าวต่อ

“เหตุใดเจ้าไม่ไปหาครอบครัวเล่า?”

“นางสูญเสียความทรงจำ จำข้าไม่ได้ ต่อให้ข้าไปสารภาพ ก็ไม่มีความหมายอันใด ข้าหวังว่าหลังจากที่ความทรงจำของนางฟื้นฟูกลับมา จะนึกถึงข้าและน้องชาย”

“อะไรนะ เจ้ายังมีน้องชายอีกหรือ?”

โจวหยวนจื่อตกตะลึง

เขากล่าว “ประมุขรอคอยมาหลายปีแล้ว ถ้าเขารู้ว่าเขามีหลานสาวและหลานชายจะต้องไม่บังคับองค์หญิงวิหคให้ออกเรือนแน่นอน แต่เจ้าก็พูดถูก องค์หญิงวิหคจำอะไรไม่ได้ เจ้ารีบไปสารภาพ ไม่แน่นางอาจจะยอมรับได้ยากว่านางมีลูกสาวที่โตขนาดนี้แล้ว อีกอย่างตระกูลป๋ายหลี่ก็ไม่ใช่คนที่จะรับมือด้วยได้ง่ายๆ”

“เจ้าต้องมองการณ์ไกลในเรื่องนี้ โชคดีที่ยังมีเวลาอีกสามเดือนก่อนที่องค์หญิงและป่ายหลี่ฮุยจะแต่งงานกัน”

เย่จายซิงพยักหน้าและกล่าวว่า “เมื่อท่านประมุขกลับมา ข้าอยากจะตามอาจารย์ไปพบเขา ดูว่าเขาเป็นคนอย่างไร แล้วจึงวางแผนอื่น”

“ได้สิ ไม่มีปัญหา ท่านประมุขเป็นมิตรมาก แต่บางครั้งเขาก็ดื้อรั้น”

ในขณะนี้ การแสดงออกของโม่เสิ่นหยวนจมดิ่งลง ก่อนจะพูดกับเย่จายซิง

“ยู่หยางส่งข้อความเสียงมา พ่อของเจ้าปรากฏตัวแล้ว พวกเราไปที่นั่นกันเถอะ!”

เย่จายซิงพยักหน้า ในใจกังวลยิ่งนัก และปล่อยให้เขาจับมือตนไปข้างนอก

“ศิษย์ข้า ให้อาจารย์ช่วยอะไรหรือไม่?”

โจวหยวนจื่อตะโกนอยู่ข้างหลัง

“ไม่เป็นไร ท่านพักผ่อนให้เต็มที่เถอะ”

โม่เสิ่นยวนตอบแทนนางแล้วพานางออกไป พริบตาเดียวก็ผ่านถนนมาหลายสาย และหามุมที่ไม่มีใคร นำยาแปลงโฉมออกมาให้นางหนึ่งเม็ด

“ปลอมตัวก่อน พวกเราค่อยไปเถอะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา