บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 377

ทั้งสูงทั้งใหญ่ มองดูแวบแรกเหมือนหมีดำตัวใหญ่ก็คือเทาเที่ยสัตว์เทพในตำนาน น่าเกลียดและดุร้าย

อีกตัวคือจิ้งจอกเพลิงตัวเล็กๆ ก็จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิง

เย่จายซิงได้ยินโม่เสิ่นยวนพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อเห็นพวกมันนางจึงรู้สึกไม่แปลกใจนัก

พวกมันเห็นจิตสำนึกของนางเข้ามาในห้วงกาลเวลา ทุกตัวจึงมาห้อมล้อมนางอย่างตื่นเต้น

อยู่ข้างนอกหนึ่งวัน เป็นเวลาเกือบเดือนในห้วงกาลเวลา ครึ่งเดือนที่อยู่ด้านนอก ในห้วงกาลเวลาก็ผ่านไปหนึ่งปี

ห้วงกาลเวลาถูกปิด ถึงแม้ว่าจะมีกระแสพลังงานชี่ทิพย์อย่างต่อเนื่อง แต่พวกมันก็กังวลมากเมื่อไม่ได้เจอหน้าเจ้านานนานขนาดนี้

ยิ่งกว่านั้น พวกมันได้ทำพันธสัญญาวิญญาณกับเย่จายซิง หากเจ้านายประสบอุบัติเหตุ พวกมันก็ต้องเกิดด้วย

หากเย่จายซิงสลบ อาการของพวกมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก

แน่นอนตอนนี้ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว

“ข้าสบายดี ไม่ต้องห่วง ครั้งหน้าข้าจะเข้ามาเยี่ยมพวกเจ้าอีก”

หลังจากเย่จายซิงพูดกับพวกมันเสร็จแล้ว จิตสำนึกก็ค่อยๆ หายไป

เย่เจ๋อหยวนกำลังจับมือนางและน้องชายของตนเอาไว้แน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

แม้ว่าเย่จายซิงจะแปลงโฉม แต่เขาก็รู้ว่านี่คือลูกสาวของเขา

“ข้ายังอยากพาแม่ของพวกเจ้าไปเยี่ยมพวกเจ้าหลังจากความทรงจำของนางฟื้นกลับมา คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะมาที่แผ่นดินหลิงเซียว”

“ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ข้ากับพี่สาวยังคิดว่า...”

ดวงตาของเย่ยู่หยางกลายเป็นสีแดงก่ำ

ทุกคนคิดว่าเขาถูกฝังอยู่ในท้องของสัตว์อสูรแล้ว แต่ภายหลังโม่เสิ่นยวนก็บอกพวกเขาว่าพ่อของเขายังไม่ตาย ดังนั้นเขาจึงมีความหวัง

เย่ยู่หยางรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นพ่อของเขาด้วยตาของตัวเองในวันนี้

“ข้าขอโทษ ข้าผิดเองที่ทำให้พวกเจ้าต้องเป็นห่วง”

เย่เจ๋อหยวน มองดูพี่สาวและน้องชาย พวกเขาโตขนาดนี้แล้ว เขาเองก็มีความสุขมาก เขาเคยเกือบตายในปากของสัตว์อสูร ในเวลานั้น เขาเจอถ้ำที่ใช้เป็นที่ซ่อนได้ และก็พบว่าในถ้ำนั้นมีค่ายวาป จากนั้นก็มาที่แผ่นดินหลิงเซียว

แผ่นดินหลิงเซียวเป็นสถานที่ที่เขาใฝ่ฝันอยากจะมา เพราะภรรยาที่เขารักมาจากแผ่นดินหลิงเซียว และภรรยาของเขาก็หายตัวไปหลายปีแล้ว เขาจึงสงสัยว่าภรรยาของเขากลับมาที่แผ่นดินหลิงเซียวหรือไม่

ต่อมาเขาพบภรรยาในแผ่นดิน หลิงเซียว แต่นางจำเขาไม่ได้ และนางก็จำไม่ได้ว่าพวกเขามีลูกด้วยกันสองคน

เขาไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับนางเลยด้วยซ้ำ

การมาครั้งนี้ของเขามันฉุกละหุก เพื่อป้องกันไม่ให้นางแต่งงานกับ ป่ายหลี่ฮุย แต่เขาคาดไม่ถึงว่าตนจะตกหลุมพรางตระกูลป๋ายหลี่

ถ้าหากโม่เสิ่นยวนและเย่ยู่หยางยังมาไม่ถึง เขาอาจจะตายอยู่ที่นั่น

“ชายหนุ่มเมื่อครู่นี้เป็นใครกัน?”

อยู่ๆ เย่เจ๋อหยวนก็ถามขึ้น

คนที่เขาหมายถึงก็คือโม่เสิ่นยวน

แม้ว่าเขาจะรู้จักโม่เสิ่นยวนมาก่อน แต่ในขณะนั้นโม่เสิ่นยวนชื่อจวินหยวน และเขามักจะสวมหน้ากาก จึงไม่ค่อยได้เห็นใบหน้าที่แท้จริง

เย่เจ๋อหยวนรู้สึกว่าคุ้นเคยกับเงาร่างของโม่เสิ่นหยวน แต่ก็ยากที่จะรู้ว่าเขาเป็นใคร และคิดว่าเขาคงเป็นสหายที่ดีของลูกๆ ที่ได้พบในดินแดนหลิงเซียวนี้

“เขาเป็นสามีของพี่สาวข้า ชื่อโม่เสิ่นยวน ท่านพ่อไว้พวกเราค่อยคุยกันอย่างละเอียด”

เย่ยู่หยางพูดด้วยรอยยิ้ม จริงๆ แล้วเขามีหลายอย่างอยากจะพูด แต่นี่ไม่ใช่เวลามาพูดถึงเรื่องนี้

“ซิงเอ๋อร์แต่งงานแล้วหรือ?”

เย่เจ๋อหยวนมีใบหน้าตกใจ

อีกอย่าง ชื่อโม่เสิ่นยวนก็ฟังดูคุ้นๆ เดี๋ยวก่อน โม่เสิ่นยวนไม่ใช่เซ่าตี้แคว้นเทพมังกรหรือ?

เกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายปีที่เขาจากไป?

เย่จายซิงพยักหน้าให้บิดานาง “ท่านพ่อ ข้าแต่งงานแล้ว และมีลูกกับเขาแล้ว”

นางรู้สึกไม่ช้าก็เร็วนางก็ต้องบอก มิสู้พูดออกไปตอนนี้ จะได้ไม่ต้องพูดทีหลัง

เมื่อพวกเขาได้อยู่กันพร้อมหน้า และอยู่ห่างจากองค์หญิงวิหคเพียงกำแพงกั้น

ไม่รู้ว่าป๋ายหลี่ฮุยจะมีหน้าตาอย่างไรถ้าเขารู้เรื่องนี้

“ขอโทษอาจารย์ด้วย ที่เรือนของท่านค่อนข้างปลอดภัย ข้าเลยพาพวกเขามาที่นี่ ศิษย์กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้ท่านหรือไม่?”

เย่จายซิงพูดกับโจวหยวนจื่อ

โจวหยวนจื่อโบกมือด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องห่วง ที่นี่ปลอดภัยมาก ถ้าตระกูลป๋ายหลี่กล้ามาที่นี่ ข้าจะเรียกให้คนตระกูลวิหคมาที่นี่เช่นกัน ดูสิว่าจะกล้ามาค้นหรือไม่ แค่ช่วงนี้อย่าเพิ่งออกไปข้างนอกก็พอแล้ว เอาล่ะ พวกเจ้าก็รำลึกความหลังของครอบครัวไปแล้วกัน ข้าจะให้ลุงหวางทำความสะอาดห้องให้พวกเจ้า”

ทันทีที่โจวหยวนจื่อจากไป เย่เจ๋อหยวนก็มองไปที่เย่จายซิง และกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ซิงเอ๋อร์ปานของเจ้าหายไปแล้ว แถมยังมีรากทิพย์อีกด้วย!”

หลังจากที่นางเข้ามา นางก็ถอดหน้ากากออก ดังนั้นเย่เจ๋อหยวนจึงมีความสุขมากเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางไม่มีปานแดงแล้ว

“ปานถูกกำจัดแล้ว และรากทิพย์ก็งอกออกมาเพราะข้ากลืนไข่มุกกลียุคเข้าไป”

เย่จายซิงอธิบายให้เขาฟังและบอกที่มาของไข่มุกกลียุคไป

นี่คือสิ่งที่โม่เสิ่นยวนบอกกับนาง

เย่เจ๋อหยวนถอนหายใจครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“คิดไม่ถึงว่าสุดท่ายไข่มุกกลียุคก็ไปอยู่ในมือเจ้า ดีจริงๆ ตอนนั้นแม่ของเข้าเจ้าได้ไข่มุกกลียุค ข้าก็คิดว่าถึงแม้นางจะไม่มีความทรงจำก่อนหน้านี้ แต่นางก็ยังคิดถึงเจ้าในจิตใต้สำนึกของนาง และยังคิดจะปลูกรากทิพย์มให้กับเจ้า”

คำพูดของเขาคล้ายกับสิ่งที่โม่เสิ่นยวนคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้

“ถ้านางรู้ว่าเจ้าได้ฟื้นฟูใบหน้า และให้กำเนิดรากทิพย์กลียุค นางคงจะมีความสุขมากกว่าข้า ย้อนกลับไปในตอนนั้น นางโทษตัวเอง และคิดว่าตัวเองคือคนที่ทำร้ายเจ้า”

ในเวลานั้นจงหนิงฝูรักลูกของนางมาก แม้ว่าลูกของนางจะไม่มีรากทิพย์หรือมีปานบนใบหน้า แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้นางรักลูกของตนน้อยลง

ในทางตรงกันข้าม นางกลับโทษตัวเอง และคิดว่ามันคือความผิดของนางเองที่ทำลายอนาคตของลูกสาว และนางก็มักจะร้องไห้บ่อยๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา