ตอนนี้ความจริงทุกอย่างได้กระจ่างแล้ว
ตอนที่จงหนิงฝูอุ้มท้องกลับไปที่แผ่นดินหลิงเซียว นางต้องการบอกพ่อของนางว่านางแต่งงานและมีลูกแล้ว
แต่เพราะนางไว้ใจป๋ายหลี่ฮุยผู้ซึ่งเติบโตมาด้วยกันในวัยเด็ก นางจึงมาพบเขาก่อน แต่กลับถูกเขาเกลี้ยกล่อมไปที่อาณาจักรตะวันตก
จงหนิงฝูคลอดลูกอยู่ที่อาณาจักรตะวันตกในแคว้นกู่โหมวเดิมทีป๋ายหลี่ฮุยตั้งใจจะฆ่าลูกในครรภ์ของนาง แต่คิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะสบายดี และยังคลอดออกมาได้อย่างราบรื่น
ในเวลาเดียวกัน สาวใช้ข้างกายที่อุ้มท้องก็ให้กำเนิดทารกเพศหญิงในวันเดียวกัน ด้วยความอิจฉาริษยาและความเกลียดชัง เขาจึงขุดเอารากทิพย์ของลูกสาวจงหนิงฝูไป แล้วฝังลงในร่างของลูกสาวตน แล้วเลี้ยงดูทารกเพศหญิงในแคว้นกู่โหมวและปิดบังเอาไว้ตลอดมา
ผ่านไปหลายปี ไม่มีใครรู้ว่าเขามีลูกสาวอายุสิบหกปี
ลูกสาวที่เขาให้กำเนิดเป็นเทพธิดากู่หลิง เนื่องจากมีรากทิพย์สูงส่งในร่างกายของนาง จึงมีพรสวรรค์ที่แตกต่างจากคนทั่วไปตั้งแต่นางยังเด็ก
ส่วนเย่จายซิงที่ถูกขุดเอารากทิพย์ ก็กลายเป็นคนพิการที่ไม่สามารถฝึกฝนได้ และถูกผู้อื่นเยาะเย้ยมาเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่งนางได้กลืนไข่มุกกลียุคลงไป และให้กำเนิดรากทิพย์กลียุค ถึงได้สลัดคำว่าคนไร้ประโยชน์ออกไปได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะป๋ายหลี่ฮุย
“ท่านแม่สูญเสียความทรงจำ เป็นฝีมือของป๋ายหลี่ฮุยด้วยหรือไม่?”
เย่ยู่หยางกำหมัดแน่นและถามเสียงเย็นชา
เย่เจ๋อหยวนพยักหน้า “จะเป็นใครได้อีกหากไม่ใช่เขา แม่ของเจ้าไม่ได้สูญเสียความทรงจำอื่น แต่เป็นความทรงจำในช่วงเวลาที่นางอยู่กับพ่อ ราวกับว่ามีคนลบความทรงจำส่วนนั้นของนางออกไป นางสูญเสียความทรงจำ และจำการกระทำชั่วร้ายของป๋ายหลี่ฮุยไม่ได้ ดังนั้นป๋ายหลี่ฮุยจึงสามารถเผชิญหน้าอยู่กับนางได้ ไล่ตามจีบนางราวกับไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เขาอยากจะฟื้นฟูความทรงจำของจงหนิงฝูอย่างมาก แต่นางก็ชอบอยู่สันโดษ เขาไม่เคยได้เห็นหน้าของนางด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปลุกความทรงจำของนาง
“
“พวกเรามาหาวิธีใกล้ชิดท่านแม่ก่อนดีกว่า ดูว่านางพอจะสามารถฟื้นความทรงจำเก่าๆ ของนางได้หรือไม่ เมื่อไรที่นางจำทุกอย่างได้ งานแต่ก็จะยุติลง”
เย่จายซิงกล่าว
“ไม่ได้!”
ในเวลานี้โม่เสิ่นยวนและเย่เจ๋อหยวนก็พูดออกมาพร้อมกัน
พวกเขามองหน้ากัน โม่เสิ่นหยวนจึงเอ่ยก่อน
“ในร่างกายของเจ้ายังมีคำสาป ตอนนี้ในเมื่อรู้แล้วว่าคนที่ใส่คำสาปในร่างกายของเจ้าอาจจะเป็นป๋ายหลี่ฮุยและเทพธิดากู่หลิง ถ้าอย่างนั้นซิงเอ๋อร์กับข้าต้องไปที่แคว้นกู่โหมว ถ้าเทพธิดากู่หลิงเป็นคนลงคำสาป ก็แค่สังหารนาง แต่ถ้าเป็นป๋ายหลี่ฮุย ก็จับลูกสาวของเขามา แล้วขู่ให้เขาแก้คำสาปซะ”
ในสายตาของโม่เสิ่นยวน การถอนคำสาปเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่องอื่นๆ ยังสามารถเอาไว้ทำทีหลังได้
เย่เจ๋อหยวนได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ากล่าว
“พ่อเองก็หมายความเช่นนั้น ซิงเอ๋อร์ คำสาปนี้มันลึกลับมาก ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายได้ลงคำสาปอื่นอีกหรือไม่ ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องเอารากทิพย์ของตัวเองกลับมา เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ทำร้ายเจ้าไม่ได้อีก แน่นอนว่าตอนนี้คำสาปในร่างของเจ้าควรจะแก้ไขให้เร็วที่สุด”
“ใช่ พี่สาว พวกเราต้องกำจัดคำสาปก่อน! พี่ยังมีลูกอยู่ในท้อง อย่าปล่อยให้คำสาปส่งผลต่อเด็กที่อยู่ในท้อง”
เย่ยู่หยางเอ่ยเสริม
อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาอีกสามเดือนก่อนการแต่งงานครั้งใหญ่ระหว่างตระกูลป๋ายหลี่และตระกูลวิหคจะเริ่มขึ้น หากท่านแม่ไม่สามารถฟื้นคืนความทรงจำได้ก่อนงานแต่งงาน เช่นนั้นก็ต้องทำลายงานแต่ง และลักพาตัวท่านแม่ออกมาในสถานการณ์ที่ชุลมุนนั่น
อย่างมากก็แค่ไปหาวิธีตายเอาดาบหน้า
สิ่งสำคัญที่สุดคือการแก้คำสาปในร่างกายของพี่สาว
เย่จายซิงลูบหน้าท้องส่วนล่างของนางทันที ถ้านางไม่เห็นความสำคัญของร่างกาย ก็จะไม่ได้สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ สองชีวิตในท้องของนาง
แต่เมื่อนางมองเห็นความสำคัญในร่างกาย นางก็จะเห็นเด็กน้อยสองคนที่พยายามจะเติบโตอย่างช้าๆ แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ และความรักของแม่ก็เปล่งประกายออกมาจากหัวใจ
เพื่อชีวิตน้อยๆ ทั้งสองดวงนี้ นางต้องแก้คำสาปในร่างกายให้สำเร็จ จะปล่อยให้คำสาปอยู่ในร่างกายของนางไม่ได้
“สามีภรรยาคู่นี้ไม่นอนพูดคุยกันอยู่ในห้อง แต่มาหาชายชราอย่างข้าที่นี่ด้วยเหตุอันใดกัน?”
แก้มของเย่จายซิงแดงเรื่อทันที
แต่กลับกันโม่เสิ่นหยวนกลับยิ้มและพูดปกติ
“ซิงเอ๋อร์กับข้ามาที่นี่เพื่อขอบคุณ พวกเราจะมาบอกลาท่านสองสามวัน”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ลูกศิษย์ของข้าล้ำค่าขนาดนี้ ทุกสิ่งที่ข้าเหลือไว้ล้วนจะตกเป็นของนาง ไม่ต้องพูดอะไรที่พิธีรีตอง แค่คิดเสียว่าข้าเป็นคนในครอบครัวไม่ใช่คนอื่นก็พอ!”
โจวหยวนจื่อกล่าว
เย่จายซิงซาบซึ้งมาก นางกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ช่างใจดีกับศิษย์เหลือเกิน ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไรดี”
“เจ้าตั้งใจวาดยันต์ สืบทอดวิชาของข้า แล้วเลี้ยงคนแก่อย่างข้าจนลมหายใจสุดท้ายก็นับว่าเป็นการตอบแทนที่ยิ่งใหญ่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า! ศิษย์ข้า ขอให้เจ้าคิดให้รอบคอบถี่ถ้วน มีแต่ทางได้ไม่มีทางเสีย”
นางอดยิ้มไม่ได้ “พอฟังแล้ว เหมือนจะให้ศิษย์เอาเปรียบผู้อื่น”
“ข้ามีเจ้าเป็นศิษย์คนเดียว หากไม่ดีกับเจ้าแล้วจะให้ดีกับใคร? เอาล่ะ บอกมาเร็วๆ พวกเจ้าจะไปที่ไหน แล้วจะกลับมาเมื่อไร?”
โจวหยวนจื่อกล่าว
“ข้ากับเขาจะไปที่แคว้นกู่โหมว เรื่องมันยาว อีกอย่างไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ไว้พวกเรากลับมาจะมาอธิบายให้ท่านอาจารย์ฟัง”
เย่จายซิงกล่าวเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าไม่อยากบอกโจวหยวนจื่อ แต่มันซับซ้อนเกินไป นางกลัวว่าเขาจะเกิดความเกลียดชังเหมือนกับนางเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และต้องการจะไปที่แคว้นกู่โหมวกับพวกเขา
เป็นการดีกว่าหากไม่ทำให้คนแก่อย่างเขาลำบากไปมากกว่านี้
“เอาเถอะ กลับมาเร็วๆ แล้วกัน พ่อกับน้องชายเจ้าก็อยู่ที่นี่ล่ะ วางใจได้”
โจวหยวนจื่อโบกมือและขอให้นางกับโม่เสิ่นยวนรีบไปรีบกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...