บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 38

ดวงหน้าของเย่จายซิงเปี่ยมไปด้วยความขุ่นเคือง ไม่เคยมีบุรุษคนใดกล้าทำเช่นนี้กับนางมาก่อน

เมื่อคิดถึงความรู้สึกผิดปกติเมื่อครู่ นางแทบอยากจะเขวี้ยงเข็มเงินออกไป ให้เขาลุกไม่ขึ้นอีก

แต่ความสามารถต่างกันอย่างสิ้นเชิง นางกลัวว่าตนจะคว้าน้ำเหลว

เมื่อเห็นจวินหยวนขยับเข้ามาใกล้นางด้วยความดุดัน นางเอามือไว้ด้านหลัง หากเขาคิดจะทำเรื่องเลวร้าย......

"น้องซิง เจ้าเป็นคนยั่วยวนข้าก่อน"

เขาหลบตาลงมองไปที่นาง เสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย

"ข้าเปล่า! ท่านคิดสกปรก ข้าเพียงนวดให้ท่านเท่านั้น!”

นางโมโหยิ่งนัก เขาเป็นคนชั่วแต่กลับพูดขึ้นก่อน

เห็นนางขุ่นเคือง ราวกับปลาปักเป้า เขาหัวเราะเสียงเบา:

"ได้ ข้าคิดสกปรก ทำให้น้องซิงตกใจ ข้าขอโทษ"

หึ เขาขอโทษเนี่ยนะ นี่ไม่เหมือนเขาแม้แต่น้อย

ขณะที่เย่จายซิงกำลังคิดเช่นนี้อยู่นั้น จู่ๆ เสียงของเขาก็ดังขึ้น ดวงตาสีดำสนิทมองไปที่เขา:

"แต่ว่าวันข้างหน้าน้องซิงแต่งงานกับข้า ต้องมีลูกกับข้า ไม่ช้าก็เร็วย่อมชินกับเรื่องเหล่านี้"

คำหวานของเขา เคล้าไปด้วยความเสน่หา ยามแววตาลุ่มลึกมองผู้คน ราวกับน้ำวนที่ไม่สิ้นสุด ดูดคนเข้าไปด้านใน

ผู้ใดจะแต่งงานกับท่าน มีลูกกับท่าน! ไร้ยางอายสิ้นดี!

หัวใจของเย่จายซิงเต้นแรง ทั้งยังรู้สึกว่าเขาไม่หนักแน่น กับสตรีคนอื่น เขาก็เป็นเช่นนี้?

ถึงแม้จะได้ยินว่าข้างกายของเขาแม้แต่ยุงตัวเมียก็ไม่มี นอกจากนางแล้ว เขาไม่เคยเข้าใกล้สตรีคนใดมาก่อน แต่ผู้ใดจะรู้ก่อนที่เขาจะมาแคว้นหงส์แดงเป็นเช่นไร เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดรู้อดีตของเขา

ถึงแม้นางจะมาจากยุคปัจจุบัน แต่ด้านความรักนางยังเป็นเพียงกระดาษแผ่นขาว ไม่อาจถูกคนที่คล้ายผู้เชี่ยวชาญด้านความรักเช่นเขาลวงหลอก

นางดึงสติกลับมา ถูกเขาดึงตัวไปด้วยความเอาแต่ใจแล้ว ยังไม่รอให้นางเคลื่อนไหว จวินหยวนก็ดึงตัวนางกลับไปนั่งบนเก้าอี้ ส่วนเขากลับยืนอยู่ด้านหลังนาง ถอนมือกลับอย่างสุภาพบุรุษ ไม่แตะต้องนางเอง

เวลานี้ของชิ้นที่สิบในงานประมูลถูกประมูลด้วยราคาสูงแล้ว ประเดี๋ยวก็จะถึงสิ่งประมูลรองสุดท้ายแล้ว

เย่จายซิงสนใจเพลิงพิลึก อดไม่ได้ที่จะยื่นคอ ตั้งหน้าตั้งตารอเล็กน้อย

ทว่า พนักงานกับยกกรงขังขนาดสูงประมาณคนหนึ่งคนขึ้นมา ใช้ผ้าสีดำปิดเอาไว้ คล้ายว่าผ้าสีดำมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้แม้แต่ใช้ดวงจิตก็ไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

แต่ว่านี่ต้องไม่ใช่เพลิงพิลึกแน่นอน เพลิงพิลึกไม่มีวันอยู่ในกรง เย่จายซิงเลิกคิ้วขึ้นขมวดเล็กน้อย แววตาของนางผิดหวังอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ถึงแม้อัคคีผนึกนภากาฬจะได้ครอบครองยาก แต่ก็เป็นเพียงเพลิงพิลึกขั้นสามเท่านั้น ไม่อาจประมูลเป็นชิ้นสุดท้าย จากที่นางรู้ โดยมากของที่ประมูลชิ้นสุดท้ายในงานประมูล ล้วนเป็นสิ่งที่ราคาแพงที่สุดในงานประมูล

ดังนั้นนางจึงผิดหวัง จุดประสงค์ในการมาของนางก็เพื่อประมูลเพลิงพิลึก เพิ่มคุณภาพของยา

เย่เจียหยูก็ผิดหวังเช่นเดียวกัน นางตกตะลึงยิ่งนัก ทั้งที่นางได้ยินว่า งานประมูลนี้จะมีการประมูลอัคคีผนึกนภากาฬ นางบอกเซี่ยซือห้าวแล้วว่าขอยืมเงินก้อนหนึ่ง แต่เหตุใดจึงไม่มี?

แต่คนอื่นๆ กลับตื่นเต้นดีใจยิ่งนัก ล้วนคาดเดาว่าสิ่งที่อยู่ภายใต้ผ้าสีดำคืออะไร ดูเหมือนจะลึกลับอย่างมาก

พรึ่บ!

ในงานประมูล นักประมูลดึงผ้า ผ้าสีดำตกลงบนพื้น หลังจากนั้นสิ่งของที่อยู่ในกรงก็สะท้อนอยู่ในสายตาของทุกคน

เย่จายซิงจับต้อง นางคิดว่าในกรงจะเป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ คิดไม่ถึงว่าจะตัวเล็กแค่นี้ ราวกับลูกจิ้งจอก ขนสีแดง

แต่เมื่อสัตว์ในกรงเห็นผู้คน ขนลุกชั้น แยกเขี้ยวยิงฟัน ดูเหี้ยมโหดยิ่งนัก แต่ว่ามันน่าจะอายุยังน้อย ไม่มีความน่ากลัวแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามดูน่ารักเล็กน้อย

มีความคล้าย——น้องชายรูปงาม!

นักประมูลพูดเสียงดัง เขาเพิ่งพูดออกมา บรรดาคนที่อยู่เบื้องล่างต่างนั่งกันไม่ติดแล้ว

จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงตัวนี้ ดีกว่าอาวุธคุ้มกันราคาแพงไม่รู้ตั้งเท่าใดต่อเท่าใด นี่คืออสูรศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถแทนชีวิตได้!

ทันทีที่ทำสัญญากับมัน ในอนาคตหากเจ้านายตกอยู่ในอันตราย จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงก็จะแทนชีวิตเจ้านายได้

แม้แต่แววตาของเยเจียหยูก็ฉายความอยากได้ อยากจะให้จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงรับนางเป็นเจ้านาย

อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นสัตว์เลี้ยง เป็นสัญลักษณ์ของฐานันดรศักดิ์ พาจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงออกไป ไม่ว่าจะเดินไปที่ใดล้วนเป็นจุดสนใจ!

อนาคตข้างหน้านางไปเฉินตู ก็จะถูกคนตามเอาใจเพราะอสูรศักดิ์สิทธิ์ แค่คิดนางก็ดีใจแล้ว

นางเตรียมที่จะให้เซี่ยซือห้าวประมูลให้นาง สำหรับเพลิงพิลึก วันข้างหน้าค่อยหาก็ได้ อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏในวันนี้สำคัญยิ่งกว่าเพลิงพิลึก

เย่จายซิงที่อยู่ในห้องรับรองฉายความสงสัย เหตุใดนักประมูลเองก็คิดว่าจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงคืออสูรศักดิ์สิทธิ์?

"เจ้าไป๋ สวรรค์ไม่อาจรับอสูรโหดได้ แต่เวลานนี้ที่แผ่นดินเทียนเหย้า จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงกลับถูกมองว่าเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ เกิดข้อผิดพลาดขึ้นที่ใดหรือไม่?"

เจ้าไป๋ครุ่นคิดแล้วพูด: "หรือว่าจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงเผ่าหนึ่งบังเอิญสืบทอดกันมา ในตอนหลังฉลาดหลักแหลมมากขึ้น ไม่กินดวงวิญญาณเป็นอาหารแล้ว แต่กินอย่างอื่นเป็นอาหารแทน ยกตัวอย่างเช่นหินทิพย์เป็นต้น ต้องรู้ว่า เผ่าจิ้งจอกเลื่องชื่อเรี่องความฉลาด"

เย่จายซิงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้นี้สูง

ไม่แน่ว่าเผ่าจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงกำลังอดทนกับความอัปยศ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จิ้งจอกน้อยในกรงอันตรายยิ่งนัก ผู้ใดจะรู้ว่ามันจะแอบดูดวิญญาณมนุษย์หรือไม่?

อสูรโหดเช่นนี้ นางไม่เข้าใกล้เป็นการดีที่สุด

"น้องซิงมองนานเช่นนี้ อยากได้หรือ? ข้าให้เจ้า"

ทันใดนั้นเอง เสียงแหบพร่าของจวินหยวนดังมาจากด้านหลัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา