มังกรเขียวนั้นแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เกล็ดมังกรเขียวสะท้อนแสงสีเงินเย็นยะเยือกภายใต้ดวงอาทิตย์สีชาด มองแล้ว ดูเหมือนจริงมาก แต่ให้ความรู้สึกเหมือนฝัน ราวกับว่าอยู่ในจินตนาการ
แต่ทุกคนรู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา นี่คืออสูรเทพมังกรเขียวตัวจริง และชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงหน้า เขาคือเจ้าของวิญญาณของอสูรเทพมังกรเขียว
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครยังไง แต่รู้แน่ชัดว่า ตั้งแต่วันนี้ไป ชื่อของเขาจะเป็นที่รู้จังมากยิ่งขึ้น
เมื่อมีอสูรเทพออกมา ใครจะกล้าต่อกร?
ในใจเทพธิดากู่หลิงเกลียดชังโม่เสิ่นยวน แต่ในเวลานี้ นางต้องยอมรับว่า ความแข็งแกร่งของเขาน่าหลงใหลมาก
นางขบเม้มริมฝีปาก เหลือบมอง เย่จายซิงอย่างอิจฉาและถอยห่างจากฝูงชนอย่างเงียบ ๆ
นางต้องบอกพ่อของนางเรื่อง ผู้อาวุโสห้าป๋ายหลี่ถูกฆ่าตาย
เป็นการดีที่สุดถ้าพ่อของนางจะสามารถส่งคนมาฆ่าเย่จายซิงได้ แล้วนางสามารถใช้โอกาสนี้เข้าไปได้
ไม่มีศัตรูที่ถาวร ถ้าเขาเต็มใจที่จะแต่งงานกับตน ตระกูลป๋ายหลี่ ก็จะยอมรับเขาเช่นกัน เขามีพลังมากขนาดนี้ จะมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด ซึ่งสามารถก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ตระกูล
เมื่อคิดอย่างนั้นมุมปากของนางก็กระตุก
ส่วนร่างของผู้อาวุโสห้าป๋ายหลี่ ตายก็ตายไปแล้ว ร่างนั้นยังจะมีความจำเป็นอะไรอีก
แม้แต่แหวนมิติของของเขา ก็ยังถูก โม่เสิ่นยวนทำลายเป็นผุยผง
……
มังกรเขียวทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่ง่ายเลยที่จะออกมาอีกครั้ง แต่ก็ยังออกมาอย่างเปิดเผย มันเลื้อยไปเลื้อยมาอยู่บนเมฆ แต่ไร้ผู้ที่จะสามารถมองเห็น
กิเลนน้องชายของมันไม่มีโชคเช่นนี้ และยังต้องอยู่ในห้วงกาลเวลาของนายท่านเป็นเวลานาน
โม่เสิ่นยวนจับมือเย่จายซิงไว้ และกลับไปในเรือทิพย์
ไม่ว่าโลกภายนอกจะตื่นตระหนกหรือกล่าวขานเรื่องนี้อย่างไร ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขา
“เสด็จอา มังกรเขียวของท่านทรงพลังมากเลย ถ้าเทาเที่ยของข้าออกมา เด็กน้อยนั้นต้องตกใจร้องไห้เป็นแน่”
หากมองจากที่ไกล ก็อยู่เหมือนวิญญาณหมีดำตัวหนึ่ง
ใครจะจินตนาการได้ว่า เทาเที่ย หน้าตาเป็นอย่างไร ถ้านางไม่เห็นเทาเที่ยในห้วงกาลเวลา ให้ตายยังไงนางก็ไม่คิดว่าเทาเที่ยหนึ่งในอสูรเทพ จะหน้าตา......ไร้คำอธิบายอย่างนั้น
และไม่รู้ว่าจะยังมีห้วงกาลเวลาที่การกลายร่างอีกหรือไม่
โม่เสิ่นยวนยิ้มอยู่ตรงหน้านางและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า:
“เทาเที่ยแม้ว่าจะค่อนข้างอัปลักษณ์และทึ่ม และยังค่อนข้างตะกละ ข้าอ่านเจอในตำราโบราณว่า เทาเที่ยในวัยผู้ใหญ่จะมีความสามารถในการต่อสู้ ไม่ได้ด้อยไปกว่ามังกรเขียวของข้าเลย"
นางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “แต่มันก็ยังห่างไกลจากวัยผู้ใหญ่อีกนาน ข้าจะจนเพราะความตะกละของมันแล้ว และข้ายังต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้หินทิพย์มา”
“ข้าจะช่วยน้องซิงหาหินทิพย์ เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว”
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อรักเรือนหลังนี้ก็ต้องรักแม้กระทั้งนกอีกาที่เกาะอยู่บนหลังคาเรือนหลังนี้ด้วย เขาเต็มใจลำบาก เพื่อเลี้ยงดูน้องซิงรวมถึงวิญญาณอสูรของน้องซิงด้วย
“พวกเราเข้าไปในห้วงกาลเวลากันเถอะ ข้าจะเอาหินทิพย์ให้เจ้าเอาให้เทาเที่ยกิน”
เย่จายซิงไม่ได้ท้เหมือนเขาเป็นคนนอก เมื่อได้ยินก็พยักหน้าพลางพูด “ได้สิ” หลังจากนั้นก็พาเขาเข้าไปในห้วงกาลเวลา
นางคิดแค่ว่าหินทิพย์ที่เขาพูดถึงจะมีเพียงเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าการใช้แหวนมิติของเขาเพียงหนึ่งครั้ง ก็สามารถเอาเขาหินทิพย์มาได้ทั้งลูก
ดวงตาของนางเบิกกว้าง: "ทำไมมากมายขนาดนี้!"
อย่างน้อยต้องเป็นหินทิพย์จากเหมืองหินทิพย์หลายแห่ง!
และทั้งหมดเป็นหินทิพย์ชั้นหนึ่งและหินทิพย์ชั้นเยี่ยม ไม่เห็นหินทิพย์ชั้นต่ำเลยสักก้อน
หินทิพย์เหล่านี้ สามารถซื้อถนนนหลายแห่งในเซียนเหอได้อย่างไม่มีปัญหา
นางคิดว่าห้วงกาลเวลาของเขาจะต้องไอเซียนลอยฟุ้ง โดยเฉพาะมีห้วงนึกคิด ไม่คิดเลยว่าเมื่อเข้ามาจะมีเพียงผักเพียงแตง
ทันทีที่นางเข้าไป ทันใดนั้น อสูรน้อยตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหานาง กอดขาของนาง และไถ่หัวของมันไปกับขาของนาง
จากนั้นอสูรน้อยตัวนั้นก็ค่อยๆขยายตัวโตขึ้น นางต้องเงยหน้าถึงจะเห็นร่างทั้งร่างได้
“อสูรเทพกิเลนหรือ?”
ยอดเยี่ยมมาก
เย่จายซิงตื่นตะลึงมาก
มันช่างน่าเกรงขามเกินไป หากเทาเที่ยที่ติ๊งต๊องของนางยืนอยู่ตรงหน้ามัน อาจจะแตกต่างราวกับราชาหมาป่ากับหมาธรรมดาเลย
คุณสมบัติพิเศษนั้น ยิ่งเทียบไม่ติด
กิเลนกระดิกหางอย่างมีความสุข เดินวนรอบตัวนาง สายตาของความเป็นมนุษย์เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ดูเหมือนว่า กิเลนตัวนี้จะชอบนางมาก
นางยื่นมือออกไป มันก็โน้มหัวโตๆเข้ามา ถูฝ่ามือของนางเหมือนลูกแมว
โม่เสิ่นยวนเห็นนางยิ้มอย่างเจิดจรัส พยายามระงับความคิดที่จะผลักหัวกิเลนออกไป และกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ
"นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เมื่อก่อน น้องซิง ชอบกิน ข้านำเมล็ดพืชมาปลูก กิเลนดูแลพวกมันให้ข้า ทั้งองุ่นและลูกพีชที่เจ้ากินก่อนหน้านี้ ก็เก็บจากที่นี่ "
เย่จายซิงประหลาดใจมาก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่งที่เขาปลูกไว้ให้ตนหรือ?
นางมองไปรอบๆ อย่างละเอียด และพบว่าล้วนเป็นสิ่งที่นางชอบกิน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลทิพย์ที่เขานำออกมาจะรสชาติหวานและสดใหม่ ที่แท้ก็เพราะเขาปลูกเอง ชี่ทิพย์ในห้วงกาลเวลาของเขา ไม่ได้น้อยไปกว่าชี่ทิพย์ในห้วงกาลเวลาของตนเลย
ชายผู้นี้ จดจำได้อย่างชัดเจนว่านางชอบกินอะไร และยังปลูกผักและผลไม้ทางจิตวิญญาณธรรมดาๆเหล่านี้ไว้ในห้วงกาลเวลาของเขาอีก
หากนางไม่เข้ามาคงไม่มีทางได้รับรู้เจตนานี้เป็นแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...