เย่จายชิงกล่าวขอบคุณแม่ทัพผางอย่างเคร่งขรึม
บางสิ่งที่นางบอกกับเขาในวันนี้ ทำให้นางเข้าใจพ่อแม่ของนางได้ดีขึ้น และให้วิธีสร้างรากทิพย์อีกทางหนึ่งแก่นาง
วิธีที่ลั่วกูหยุนบอกมาก่อนหน้านี้ ก็คือการสร้างรากทิพย์ใหม่เช่นกัน แต่แตกต่างจากวิธีที่พ่อของนางทิ้งไว้ให้ มันคือการใช้ยาทิพย์มาสร้างรากทิพย์เทียม รากทิพย์เทียมนั้นธรรมดามาก ความเร็วในการฝึกฝนนั้นก็จะช้ามาก
แต่วิธีที่พ่อของนางทิ้งไว้ให้นั้นดีกว่าลั่วกูหยุนมาก ใช้ยาทิพย์อันสูงอันล้ำค่าเหล่านี้ กลั่นยาขั้นหกที่ชื่อยาเสริมสร้าง จากนั้นหลังจากยาออกฤทธิ์ รากทิพย์ก็จะสร้างขึ้นมาใหม่
แน่นอนว่ารากทิพย์ที่เกิดขึ้นมาใหม่จะไม่ดีมาก และดีกว่ารากวิญญาณที่สร้างขึ้นมา
ถึงอย่างไร ทุกคนเกิดมาพร้อมกับรากทิพย์หนึ่งเดียว รากทิพย์ของนางถูกคนขุดออกไป ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้อีก และรากทิพย์ที่งอกขึ้นมาได้ใหม่ ย่อมไม่ธรรมดา
ยาเสริมสร้างคือยาที่นางไม่เคยกิน แผ่นดินเทียนเหย้าดูเหมือนว่าไม่มียาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าพ่อของนางไปได้มาจากไหน
เพื่อให้นางได้ฝึกตนได้ เขายอมลำบากมามากมาย
แม่ทัพผางยังมีเรื่องต้องทำ ใกล้จะถึงวันน้ำขึ้นน้ำลง อสูรในเทือกเขาเริ่มปั่นป่วน เขายังหาเวลาออกมาพบนาง
ก่อนออกเดินทาง เขากำชับเย่จายซินให้นางค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องกังวลกับเรื่องรากทิพย์ ถ้าหากคิดจะใช้ทางลัดย่อมไปไม่ถึง นางยังเด็กอยู่ จะดีกว่าหากสร้างรากทิพย์ขึ้นมาใหม่ก่อนอายุยี่สิบปี
เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรเสียยาเสริมสร้างก็ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินเทียนเหย้า แม้ว่าจะหานักกลั่นยาขั้นหกเจอ ก็อาจไม่สามารถกลั่นได้สำเร็จ
ด้วยความหวังมากเกินไป ก็อาจจะผิดหวังได้ง่ายๆ
“อย่ากังวลไปเลย แม่ทัพผาง ข้ามีแผนในใจ ท่านก็ใส่ใจกับเมืองหลินเฟิงให้มากๆ” นางพยักหน้า
แม่ทัพผางหัวเราะและจากไปอย่างรวดเร็ว
เย่จายซิงเก็บถุงที่พ่อทิ้งไว้ให้อย่างดีและออกจากห้องไป ไม่ทันรู้ตัว ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว
พระจันทร์เต็มดวงในวันนี้ แสงสว่างไสว จากระยะไกล นางเห็นจวินหยวนเอนพิงราวบันได กำลังมองดูดวงจันทร์ที่สว่างไสว
สายลมเบาๆ พัดปอยผมที่แนบบนขมับ และแสงจันทร์ทำให้คางภายใต้หน้ากากนั้นเดินชัดขึ้น เหมือนว่าเขากำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง กลิ่นอายรอบๆ ตัวดูโดดเดี่ยวและสง่างาม ทำให้เขาดูปล่อยวางให้ไปตามสายลม
ทั้งที่เขาทำตัวเผด็จการ แต่บางครั้งก็ทำให้นางรู้สึกย้อนแย้ง
จวินหยวน เจ้าเป็นคนอย่างไรกันแน่?
จวินหยวนรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของนาง จึงหันกลับไป
“น้องซิงเองหรือ”
เสียงที่เขาเรียกนางนั้นมันทั้งไพเราะและมีเสน่ห์
นางก้าวไปอยู่ตรงหน้าเขาภายในสามก้าว
“ขอบคุณเสด็จอาที่พาแม่ทัพผางมาพบข้า ข้าเลยรู้เรื่องที่สำคัญ”
นางรู้ว่าเขาต้องจงใจปล่อยข่าวที่ตนจะมายังเมืองหลินเฟิง ดังนั้นแม่ทัพผางจึงมาหานาง
เขาห่วงใยนางมากกว่าที่นางคิด
จวินหยวนมองมาที่นาง แววตาของเขายังล้ำลึกเช่นเคย
“ความฝันข้าได้เปลี่ยนไปแล้ว”
ขาไม่ได้พูดเรื่องของนาง แต่อยู่ๆ ก็พูดถึงความฝัน
เย่จายซิงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ
“หรือว่าความฝันของเสด็จอายังเกี่ยวกับข้า?”
ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่พูดมันออกมา
“ไม่ ความฝันของข้านั้นเป็นความว่างเปล่า ซิงเอ๋อร์ เจ้าว่าการที่ข้าฝันเช่นนี้มันหมายความว่าเจ้าจะทิ้งข้าหรือไม่??”
เขาจ้องมองนางด้วยสายตาลึกล้ำ และน้ำเสียงของเขาดูอันตรายเล็กน้อย
ตามที่นางได้ยินมา นี่ดูเหมือนเป็นการเตือนตัวเองมากกว่า
ดูสิ อารมณ์ของเขาขึ้นลงไม่ปกติ ทั้งที่เมื่อครู่ยังดีๆ
นางกลัวว่าเขาจะทำเรื่องที่พิกล นางจึงหัวเราะเจื่อนๆ พูดว่า
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เจ้าบอกเองว่าพวกเราถูกชะตากำหนดให้มาคู่กัน ข้าจะทิ้งเสด็จอาได้อย่างไร อย่าคิดมากเกินไปเลย!”
คลื่นสัตว์อสูร?
แววตาของนางสับสน นางสวมเสื้อผ้าและลุกจากเตียงโดยบังเอิญ ยังไม่ทันยืนให้มั่นคงก็ถูกเขาลากตัวออกไป และไปถึงกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ กำแพงเมืองเต็มไปด้วยทหาร มีธนูอยู่ในมือและลูกธนูอยู่ด้านหลัง สีหน้าดูจริงจังราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจ
“อ๋องเซ่อเจิ้ง”
แม่ทัพผางในชุดเกราะเห็นพวกเขาก็เดินเข้ามา
“คลื่นสัตว์อสูรกำลังมา บนกำแพงเมืองตอนนี้อันตรายมาก”
“ไม่เป็นไร ข้าจะช่วยต้านให้เจ้าเอง”
เสียงของจวินหยวนดูไม่แยแส เย่จายซิงพบว่านอกจากจะมีน้ำเสียงที่แตกต่างจากตัวเองแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีท่าทีที่ไม่แยแสต่อผู้อื่นเช่นเดียวกัน
แม่ทัพผางเหลือบมองมองที่อยู่ด้านหลังจวินหยวนด้วยความลังเล
ในเวลานี้มีเสียงกึกก้องดังขึ้นมาจากพื้นดิน ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
เย่จายซิงมองไปที่ภูเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปด้วยสีหน้าสงสัย
สัตว์อสูรจำนวนมาก ถึงได้สร้างความน่าหวาดกลัวเช่นนี้
เสียงที่ตามมานั้นก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ พื้นดินก็สั่นขึ้นเรื่อยๆ นางเห็นแสงสีแดงสว่างขึ้นนับไม่ถ้วน
นั่นคือดวงตาของสัตว์อสูรที่มีสีแดงเหมือนเลือดนก
ในตอนกลางคืนเมื่อมีสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนตัวกัน ก็ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นทะเลเพลิง
“ยิง!”
ด้วยคำสั่งของแม่ทัพผาง ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกไป และสัตว์อสูรที่อยู่แถวหน้าก็คำรามออกมาก่อนจะล้มลงไปทีละตัว
ทหารได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ธนูถูกสลับยิงออกไป ลูกศรยาวเหมือนสายฝน ทำให้ศพกองพะเนินเป็นภูเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...