บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 82

เย่จายซิงเป็นห่วงสุขภาพของจวินหยวน

ผลร้ายของยาต้องห้ามชัดเจนมาก ตอนนั้นอีกนิดเดียวเลือดเขาก็จะไหลสวนกระแสชีพจรระเบิดออก เพิ่งจะผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ต่อให้ฟื้นตัวเร็วก็ยังคงเหลืออาการบาดเจ็บภายในไว้อย่างสาหัส

“ไม่ต้อง เมื่อก่อนข้าเคยบอกว่าจะพาเจ้าไปยังสถานที่หาเบาะแสพ่อของเจ้า แล้วยังต้องรีบกลับไปดูการประลองของน้องชายเจ้า เวลามีไม่มาก”

“ไม่เป็นไร เสี่ยวยู่ชนะแน่นอน ต่อให้ข้าไม่อยู่ที่สนามก็ไม่เป็นไร สุขภาพของท่านสำคัญยิ่งกว่า”

นางเอ่ยขึ้น นึกไม่ถึงว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้กลับยังคิดถึงเรื่องการประลองของเสี่ยวยู่ แสดงให้เห็นว่าเขาเห็นใส่ใจเรื่องเกี่ยวกับนางทั้งหมด

อย่างเรื่ององค์หญิงไฉเวยกับเหยียนฮั๋วกวงมายังแคว้นหงส์แดง ก็เป็นเขาที่แจ้งให้รู้ล่วงหน้า หากเขาไม่เอาใจใส่นาง จะไปสนใจเรื่องเหลวไหลเหล่านั้นได้อย่างไร

แล้วยังมีเรื่องเกี่ยวกับเบาะแสของท่านพ่อ เห็นแม่ทัพผางบอกว่า จวินหยวนให้องครักษ์ลับไปสืบนานแล้ว จนได้เบาะแสบางอย่าง เขาถึงได้บอกนาง

ทำเพื่อนางมากมายเช่นนี้เขาไม่เคยอ้างความชอบแม้แต่คำเดียว ราวกับเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว

นางพร่ำพูดให้เขาพักอยู่อีกสองสามวัน รอให้บาดแผลหายดีแล้วค่อยไปก็ยังไม่สาย

“ไม่จำเป็น บาดแผลของข้าข้ารู้ตัวดี พอน้องซิงออกไปไม่ใช่ปัญหา ไว้รอกลับไปแล้วหากน้องซิงรู้สึกสงสารก็มาดูแลข้าที่จวนอ๋องสักสองสามวัน”

จวินหยวนมองดูนางแล้วเอ่ยขึ้น

เย่จายซิงถอนใจหนึ่งเฮือก รู้สึกคำพูดของเขาคลุมเครือจึงพูดว่า:

“ข้าไปดูแลท่านไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว อันที่จริงเพราะท่านมาช่วยชีวิตข้าถึงได้บาดเจ็บเช่นนี้ ว่าแต่เสด็จอา อยู่ ๆ ท่านก็ไม่เรียกตัวเองว่าท่านอ๋องแล้ว ทำให้ข้ารู้สึกแปลก ๆ ไม่คุ้นเลย”

“เจ้าเป็นคู่หมั้นของข้า ข้าไม่อยากแบ่งชนชั้นกับเจ้า น้องซิงไม่ชอบหรือ?”

“ก็ไม่ใช่หรอก”

นางโบกไม้โบกมือ สายตาสั่นระเรื่อทันที นางไม่เคยคิดจะแต่งกับเขาเลย

แต่พอเขาพูดเช่นนี้ ก็ไม่รู้สึกว่ามีแรงกดดัน ไม่ใช่คนที่ดูเย่อหยิ่งอีกต่อไป นางชอบที่เขาเป็นเช่นนี้ ไม่รู้สึกถึงความห่างเหิน ไม่ทำให้นางรู้สึกว่าเขาเป็นคนน่าเกรงขามใหญ่โต

และความสั่นเทาของนาง ทำให้จวินหยวนเข้าใจว่านางนึกถึงหลงเฟยหลีที่ล่วงเกินนาง พอเขาเกิดความไม่สบายใจ ความเกลียดชังโทษตัวเองก็ปะทุขึ้นในใจอีกครั้ง ยื่นมือเอาตัวนางเข้ามากอดในอ้อมอก พยายามใช้เสียงที่อ่อนโยนแต่กลับกลั้นเสียงที่แหบเครือไว้ไม่ได้:

“น้องซิง ข้าไม่ถือสาเลย เจ้าไม่ต้องคิดมาก เจ้าเป็นยังไงข้าก็ชอบหมด”

เย่จายซิงงุนงงว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร?

นางผลักเขาออกด้วยสัญชาตญาณพูดว่า: “เสด็จอา ที่ท่านพูดหมายความอะไร……หืม!”

กอดกันกลมเกลียว

ขอแค่ได้จมปลักอยู่กับอีกฝ่าย

ในหัวของนางมีภาพเหลวไหลบางอย่าง

แต่พอคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อจวินหยวนแน่วแน่ต่อนางแล้ว ต่อไปจะตีตัวห่างจากเขายิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้นางล้มเลิกความคิดนี้ชั่วคราว

นางไม่ใช่ผู้หญิงต่ำช้า หากเป็นอย่างนั้นจริง นางคงรู้สึกไม่ดีเผ่นหนีไปแล้ว

ความสุขที่เข้ามานั้นมีค่า แต่ความมีอิสระมีค่ายิ่งกว่า

นางชอบความมีอิสรเสรีมากกว่า ไม่อยากใช้เวลาทั้งวันอยู่แต่ในจวนอ๋องที่โอ่อ่า หากแต่งงานเร็วไม่รู้ว่าจะอึดอัดแค่ไหน

ความฝันของนางคือดวงดาวและผืนทะเล จะถูกโซ่ตรวนขาไว้ไม่ได้

ดีที่จวินหยวนนอกจากหอมแก้มนางก็ไม่ได้กระทำใด ๆ เกินเลย

พอเห็นนางทรงตัวไม่อยู่แล้วก็หยุด ได้แต่กอดนางไว้ในอกอย่างเงียบ ๆ

เย่จายซิงได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเขาอย่างชัดเจน เร็วเล็กน้อย ตึกตัก มีชีวิตชีวาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

พอนางแหงนหน้าขึ้น ก็เห็นเขากำลังมองดูนาง นัยน์ตาดำขลับทั้งคู่ซ่อนอารมณ์ที่นางไม่เข้าใจ

“น้องซิง”

เขากระซิบเรียกชื่อนาง เสียงแหบเครือ ปลายนิ้วที่เรียวยาวลูบคิ้วของนาง

รอยแดงที่คอเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

อ้อ นางนึกออกแล้ว

หลงเฟยหลีออกไปต่อสู้กับจวินหยวน แมงมุมตัวหนึ่งตกลงมาที่ลำคอของนาง นางจึงตกมัน แต่นึกไม่ถึง แมงมุมตัวนี้เป็นอุบายที่หลงเฟยหลีเตรียมเอาไว้

เขาเข้าใจผิดว่านางกับจวินหยวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง จึงแกล้งยั่วยุให้แตกกัน ให้จวินหยวนเข้าใจว่านางถูกเขาล่วงเกินแล้ว !

เป็นผู้ชายที่ร้ายกาจมาก !

อุบายช่างแยบยลนัก

นึกถึงพฤติกรรมและท่าทางเมื่อครู่ของจวินหยวน นางก็กุมหน้าผาก อลหม่านในใจ

เขาเข้าใจผิดแล้ว มิน่าถึงไม่ถือสาเลยแล้วยังปลอบโยนนางอย่างเงียบ ๆ

กลัวคำพูดจะทำร้ายนางโดยไม่เจตนา จึงระมัดระวังเวลาพูด

การรู้สึกผิดของเขา ทั้งหมดเพราะรู้สึกว่าไม่ได้คุ้มครองนางให้ดี

ถ้าเป็นชายอื่น หากรู้ว่าคู่หมั้นถูกล่วงเกิน ส่วนมากจะรังเกียจและขับไล่คู่หมั้น รู้สึกว่านางไม่บริสุทธิ์

จะบอกว่าไม่หวั่นไหวเป็นไปไม่ได้ จิตใจของนางจึงอลหม่าน

จวินหยวนเพียบพร้อมมาก ยากที่หญิงใดจะไม่หวั่นไหวต่อเขา

การบงการการอยากจะครอบครองเมื่อก่อนของเขาทำให้นางอยากปัดเขาออกไป แต่ความป่าเถื่อนเหล่านี้ไม่มีให้เห็นในตอนนี้แล้ว มีแต่ความอ่อนโยนระมัดระวังปกป้องนาง เช่นนั้นนางควรจะลองยอมรับเขาดูหรือไม่?

เย่จายซิงเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินออกไป จ้องสายตาที่ล้ำลึกของจวินหยวน

เขาไม่ได้สวมหน้ากาก ต่อให้เป็นอยู่ในที่มืดมิด ใบหน้าที่หล่อเหลาก็ไม่มีความมืดมนแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ตรงนั้น ราวกับเทพบุตร ให้ความรู้สึกปลอดภัยแข็งแกร่ง

ตัวนาง ควรบอกความจริงหรือไม่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา