บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 93

“เสด็จอา ข้าว่าพวกเขาจะมีแผนสำรองนะ พวกเราควรลงมือก่อนดีหรือไม่?”

เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านเย่จายซิงก็กระซิบกับจวินหยวน

คนไม่ได้เกิดมาเพื่อให้สวรรค์ลงโทษ

ถ้าใครจะฆ่าเรา เราต้องลงมือฆ่าก่อน

เย่จายซิงไม่ใช่แม่พระ นางรู้ดีว่าเวลาไหนควรลงมือ ในฐานะราชินีทหารรับจ้าง สัมผัสที่หกของนางนั้นแม่นยำเสมอ

นางรู้สึกว่าพี่น้องของลู่จือเหลยต้องมีแผนชั่วช้ารออยู่แน่นอน หากพวกเขาถูกเจอตัว แล้วถูกคนพวกนั้นล้อมโจมตี ในสถานการณ์ที่จวินหยวนบาดเจ็บมันต้องน่ากลัวมากแน่นอน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ลงมือก่อนเพื่อเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส

“ข้ามีแผนดีๆ”

จวินหยวนให้นางเอาหูไปใกล้

นางรีบเข้าไปใกล้ทันที และฟังความคิดเห็นของเขา แต่เสียงที่ต่ำนั้นกลับเต็มไปด้วยแรงดึงดูด ทำให้กูของนางจั๊กจี้ และนางก็ต้องตั้งสมาธิเพื่อฟังสิ่งที่เขาพูด

เมื่อฟังไปเรื่อยๆ ดวงตาของนางก็สว่างขึ้น นางพูด้หมือนกับนางเพิ่งรู้จัก “เสด็จอา ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะจะมีด้านที่แย่ขนาดนี้ด้วย!”

ความคิดนั้นร้ายกาจพอสมควร

ฮิฮิ แต่นางชอบ!

เมื่อพูดก็ลงมือทำทันที พวกเขาหาลานว่าง และจวินหยวนก็สร้างค่ายกลหลอนจิตในทันที

นี่คือสิ่งที่เขาได้เรียนรู้หลังจากค้นหามารหนู เดิมทีเป็นค่ายกลหลอนจิตของราชาปีศาจ มันถูกมารหนูขโมยจวินหยวนจึงนำมันมาพัฒนาให้เป้นค่ายกลที่แข็งแกร่งมากขึ้น

หลังจากตั้งค่ายกลหลอนจิตสองแห่งในที่ไม่ไกลมาก จวินหยวนและเย่จายซิงก็แยกกันเข้าไปค่ายกลหลอนจิต

จวินหยวนปล่อยพลังกดดันออกมา

นอกจวนเจ้าเมือง สองพี่น้องที่กำลังเตรียมจะเผาแก่นโลหิตเพื่อใช้วิชาต้องห้ามก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย ก่อนจะวิ่งไปยังสถานที่ที่พลังฝึกตนปรากฏขึ้น

เจ้าเมืองโชคดีที่รักษาชีวิตไว้ได้ ตกใจจนกลิ่งกลับจวนเจ้าเมือง

ลู่จือเหลยใช้ความเร็วที่เร็วมาก หายใจเพียงไม้กี่ครั้งก็ถึงนอกค่ายกลหลอนจิตแล้ว เมื่อเขาเห็นจวินหยวนสวมหน้ากากอยู่ในค่ายกล ก็แค่นเสียงเย็นชา

“แค่ค่ายกลหลอนจิตก็คิดว่าจะขังข้าได้หรือ ช่างน่าขำ! ให้คนพวกอาณาจักรต่ำต้อยอย่างเจ้าได้เห็นว่าฝีมือการทำลายค่ายกลของข้านั้นร้ายกาจขนาดไหน แค่ชีวิตน้อยๆ ของเจ้ามันคณามือข้าหรอก!”

เขาก้าวเข้าไปในค่ายกลหลอนจิต

แต่ทันทีที่เขาเข้ามา เขาพบว่าค่ายกลหลอนจิตนี้ไม่ได้กำจัดง่ายอย่างที่เขาคิด

ลู่จือเหลยโกรธมากจนอาเจียนเป็นเลือด ทายาทผู้สูงศักดิ์ของตระกูลลู่ที่อยู่ในอาณาจักรเวหาทิพย์ตกอยู่ในแผนการของผู้ฝึกตนของอาณาจักรระดับต่ำ!

ขณะที่ลู่จือเหลยกำลังจะเข้าไป นางก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของไข่มุกกลียุค

“ไข่มุกกลียุคอยู่อีกด้านหนึ่ง!”

หนูเทพที่อยู่ในอ้อมกอดก็กระโดดออกมาแล้ววิ่งออกไปทันที นางเองก็ตามไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตามหาอยู่ในค่ายกลหลอนจิต

หนูเทพแกะรอยวิ่งเข้าไปในค่ายกลเหมือนสายฟ้า

ลู่จือหรุ่ยก็กัดฟันแล้วเดินตามเข้าไป นางไม่เชื่อว่านางจะทำลายค่ายกลหลอนจิตไม่ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ามา นางก็มีอารมณ์เดียวกันกับพี่ชาย คิดไม่ถึงว่านางจะประเมินค่าค่ายกลหลอนจิตนี้ต่ำไป จนถูกดึงดูดเข้าไปในภาพมายา

สิ่งที่นางและลู่จือเหลยไม่รู้ก็คือมีภาพมายามากกว่าหนึ่งโหลรอพวกเขาอยู่

จวินหยวนเป็นยอดฝีมือแห่งค่ายกล และค่ายกลที่เขาวางขึ้นมาเองก็เพียงพอจะถ่วงเวลาให้พวกเขาได้กินน้ำชาสักเหยือก

เย่จายซิงอยู่ในใจกลางของค่ายกล ปลอดภัยมาก และมีกิเลนคอยปกป้องนางอยู่ข้างๆ แต่ทันทีที่หนูเทพติดตามเข้าไป กิเลนก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับเสียงเลอ

สองพี่น้องนี้ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะเอาชีวิตมาทิ้งในดินแดนระดับต่ำที่พวกเขาเกลียดนักหนา

ในเวลาเดียวกัน ในโถงสาขาของตระกูลลู่ ตะเกียงวิญญาญาณของทั้งสองก็ค่อยๆ ดับลง

“ท่านหัวหน้า เหลยเอ๋อร์กับหรุ่ยเอ๋อร์ตายแล้ว” พ่อของทั้งสองคนพูดกับชายที่มีใบหน้าเคร่งขรึม

“อะไรนะ”

ประมุขตระกูลลู่ตบเก้าอี้แล้วลุกขึ้นมากล่าวด้วยความเดือดดาล “กระตุ้นใช้ทักษะย้อนภาพเพื่อดูว่าพวกเขาสองคนตายที่ไหน!”

เขาคิดว่าทั้งสองคนจะสามารถนำไข่มุกกลียุคกลับมาได้ ดูท่าตนคงประเมินพวกเขาสูงไป!

พวกสวะสองตัวประโยชน์!

“ท่านประมุข ไฟวิญญาณของพวกเขาหายไป ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้วิชาย้อนรอยได้! ใครกันถึงโหดร้ายขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ฆ่าพวกเขาเท่านั้น แต่ยังบดขยี้วิญญาณของพวกเขาด้วยเพื่อไม่ให้เกิดใหม่อีก!”

“ขยะ! ขยะอะไรอย่างนี้!”

ใบหน้าของเจ้าบ้านลู่ซีดเผือด ก่อนจะสบัดแขนเสื้ออกไป เขาต้องการกลับไปที่สาขาหลักของตระกูลและส่งคนไปเพิ่มเพื่อตามหาไข่มุกกลียุค

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ารอยแยกนั่นปรากฏและมีเพียงสองพี่น้องนั่นเข้าไปได้ เขาคงไม่ได้ทุ่มเทความหวังไว้กับลูกหลานสาขา ช่างเสียเวลาของเขาจริงๆ

“เจ้าบ้านลู่! ท่านจะไปไหน เพื่อช่วยท่านตามหาไข่มุกกลียุคสาขาของเราได้ทุ่มอาวุธเทพและม้วนกระดาษมิติไป เหลยเอ๋อร์และหรุ่ยเอ๋อร์เป็นทายาทที่ดีที่สุดของสาขาของเรา พวกเขาตายแล้ว ตอนนี้ ถ้าท่านไม่ช่วยเรา สาขาของพวกข้าก็จะพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง!”

กลุ่มคนขวางอยู่หน้าเจ้าบ้านลู่

เจ้าบ้านลู่หัวเราะเยาะ “ที่พวกเขาตายก็เพราะพวกเขาไม่มีประโยชน์ ทำให้ข้าต้องเสียเวลาไม่น้อย ข้าไม่คิดบัญชีกับพวกเจ้าก็ดีเท่าไหร่แล้ว!”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็กลายเป็นลำแสงยาวและหายตัวไปในท้องฟ้า ทิ้งให้พวกสาขาตระกูลลู่ตาแดงก่ำด้วยความเกลียดชัง

หากไร้ความช่วยเหลือจากเจ้าบ้านลู่ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน อย่าว่าแต่แก้แค้นให้พี่น้องสองคนนั้นเลย แม้แต่กระดูกของสองคนนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางหาเจอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา