บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1924

เดิมหม้ายชิงหวานึกว่าใครช่างกล้ายิ่งนัก กลับคิดไม่ถึงว่าเป็นเด็กผู้หญิงหน้ามนงดงาม ดวงตากลมโตคู่นั้นโผล่ขึ้นมาบนกำแพง ประกายแวววาวและ....เก้อเขิน

ในใจของเขาเหมือนถูกอะไรบางอย่างกระทบอย่างแรง เต้นแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดาบที่อยู่ในมือห้อยลงหรือยังไม่รู้ตัว

คือนาง

ทำไมนางถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่? เขากำลังฝันไปหรือ?

เห็นนางกำลังจับไถลลงหนีไป ในใจหม้ายชิงหวาตื่นเต้น สมองรีบสั่งการให้พูดขึ้นว่า “แม่นางชอบอาวุธของข้าในนี้หรือ? เข้ามาดูได้นะ”

เดิมถังกั่วเอ๋อกำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไง ยังไงก็แอบปีนขึ้นมาบนกำแพงคนอื่นเหมือนอย่างโจร กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ส่งความหวังดีมาถึงตรงหน้า ไม่รับไว้ก็น่าเสียดาย

นางกระโดดลงไป พร้อมยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “ขออภัย ข้าได้ยินมาว่าที่นี่มีสนามฝึกฝีมือการต่อสู้ เก็บอาวุธไว้มากมาย จึงมาแอบดู ขออภัยจริงๆ”

ตอนที่หม้ายชิงหวาเห็นนางกระโดดลงมา ก็เป็นห่วงกลัวว่านางจะล้ม จริงรีบก้าวเดินข้างหน้าหนึ่งก้าว หลังจากที่นางยืนบนพื้นอย่างมั่นคงแล้ว เขาค่อยวางใจ พร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยนพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ดูได้ตามสบาย เดิมนี่ก็ไม่ใช่สิ่งของล้ำค่าอะไร”

ในใจถังกั่วเอ๋ออึดอัดมาก ตนเองทำเช่นนี้จะทำให้พ่อขายหน้า

โชคดีที่ได้เจอคนนิสัยดี

ถังกั่วเอ๋อชอบอาวุธจริงๆ คนฝึกฝีมือการต่อสู้ เมื่อเห็นอาวุธที่ดีสักอันก็ราวกับเห็นสิ่งของล้ำค่า

นางเดินไปที่ชั้นวางอาวุธ ดวงตาประกายแววอิจฉา ถึงแม้นางจะเป็นคนฝึกฝีมือการต่อสู้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอาวุธเป็นของตนเอง ปกติที่ฝึกฝีมือดาบ ก็ใช้ดาบที่ทำจากไม้ พ่อกับแม่บอกแม่ดาบที่ทำจากไม้จะไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่น

“มีอันที่แม่นางชอบไหม? หากชอบสามารถเลือกแล้วนำกลับไปได้” หม้ายชิงหวามองเห็นแววตาอิจฉาของนาง ถึงแม้รู้ว่าพูดเช่นนี้แล้วไม่เหมาะสม แต่ก็อยากให้นางดีใจ

ถังกั่วเอ๋ออึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เอากลับไป? แบบนี้ไม่ได้ ข้าจะแย่งของรักของคนอื่นได้อย่างไร? ข้าได้เห็นก็พอแล้ว”

“ไม่เป็นไร ไม่ใช่สิ่งของล้ำค่า” หม้ายชิงหวาสบกับสายตากลมโตคู่นั้น ในใจเต้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น

เขาจึงไปขอเป็นศิษย์อาจารย์มีชื่อเสียงท่านซานจุย เพื่อสอนความรู้ เขียนบทกวีวาดภาพ จนมีชื่อเสียงดังโด่งดัง แต่สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ชื่อเสียง ไม่ใช่การถูกยกย่อง แต่เป็นผลประโยชน์ที่อยู่เบื้องหลัง ภาพวาดของเขาหนึ่งภาพ ก็สามารถขายได้หลายพันตำลึง หลายปีมานี้ เขาสั่งสมทรัพย์สินเงินทองไว้อย่างมากมายแล้ว

ตอนนี้เขามีความมั่นคงแล้ว

ดังนั้นรู้ว่านางถึงวัยที่จะต้องแต่งงานแล้ว เขาจึงไปคุยกับท่านแม่ ท่านแม่ไปคุยกับท่านย่า ท่านย่าตำหนิปฏิเสธทันที กลับคิดไม่ถูกเวลานี้ทางด้านตระกูลหยวนก็ชอบพอเขา ถูกพวกภรรยาขุนนางร่ำลือกันออกไป ท่านยากจึงตั้งใจพูดว่าร้ายให้ใต้เท้าสวีเสียหาย

เดิมเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ เพราะปกติเขามักจะไม่สนใจคำพูดร่ำลือของคนอื่น จนเมื่อท่านปู่กลับมาจากว่าราชการเช้า แล้วมาตำหนิต่อว่าทันย่าเขาถึงดูได้รู้

เขาโกรธโมโหอย่างมาก ยังไม่รอให้เขาได้ไปต่อว่าท่านย่า ท่านย่ากลับตามเขาไปหาเสียก่อน พูดว่าหากเขาแต่งงานกับลูกสาวตระกูลสวีนั้น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

เขาโกรธจัดกลับแสดงท่าทีสงบเงียบ ไม่เถียงเลยสักคำ แล้วก็ย้ายออกมาจากจวนเจ้าพระยา ไม่อยู่ใต้อาณัติของใคร ส่วนคนอื่นอยากพูดว่าอะไรก็ปล่อยให้พูดไป รอเมื่อเรื่องราวสงบลงแล้ว เขาจะไปหาใต้เท้าเหลิ่ง ขอให้ใต้เท้าเหลิ่งเป็นธุระให้เขา เขาจะไปสู่ขอนาง

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าวันนี้นางจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ตอนนี้เห็นนางยืนอยู่ตรงหน้าอาวุธแล้วก็เผยแววตาเป็นประกาย เขารู้สึกราวกับฝันไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน