ตอนที่จวิ้นจู่ใหญ่อานจากไป ฝีเท้าโซเซ หากไม่มีคนใช้ที่อยู่ด้านนอกประคองไว้ คงล้มลงไปแล้ว
หยวนชิงหลิงมองดูแผ่นหลังของนาง ส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “อายุขนาดนี้แล้วยังดื้อดึงหัวสูง ไม่ใช่พรของลูกและหลาน”
มู่หร่งกงกงพูดขึ้นว่า “นางแต่งงานกับใต้เท้าหม้ายมานานหลายปีขนาดนี้ มั่นใจในความเป็นจวิ้นจู่มาตลอด ไม่เคยเห็นตนเองเป็นสะใภ้ตระกูลหม้าย เหนียงเหนียงเรียกนางว่าฮูหยิน หวังว่าจะสามารถทำให้นางสำนึกได้ รู้ตัวเองขึ้นมา”
“อุปนิสัยและความคิดหยั่งรากลึกมาหลายปีแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ง่ายๆ ข้าก็ไม่ได้คาดหวังให้นางดีกับกั่วเอ๋ออย่างจริงใจ รอเมื่อกั่วเอ๋อแต่งงานไปแล้ว ยังไงก็ต้องประทานตำหนัก ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่กับเสี่ยวหม้าย ไม่ต้องทนรับอารมณ์พวกที่เห็นว่าตอนเองอาวุโสพวกนี้”
“เจ้าหญิงฉางหนิงมีบุญวาสนาจริงๆ” มู่หร่งกงกงพูดขึ้นอย่างชื่นชม กั่วเอ๋อเติบโตอยู่ในวัง มู่หร่งกงกงก็ชื่นชมนางมาก
บนยอดตำหนักกระจก เจ๋อหลานจูงมือถังกั่วเอ๋อกระโดดลงมา แอบหนีไปทางอุทยานอวี้ฮัว
อาจเป็นเพราะรีบวิ่งอย่างเร็ว แก้มถังกั่วเอ๋อแดงระเรื่อ ร้อนรุ่มไปหมด นางยกมือทั้งคู่ปิดหน้า ซ่อนตนเองไว้ใต้ตอนไม้ ดวงตาทั้งคู่ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน แต่ไม่ยอมมองดูแววตาของน้องสาว
“พี่สาว เห็นทีเรื่องงานแต่งถูกกำหนดไว้แล้ว จนแม่ตามจวิ้นจู่ใหญ่เข้าวังมาตักเตือนแล้ว เจ๋อหลานควงแขนของนาง ทั้งคู่นั่งลง แสงแดดอ่อนสาดส่องลงมาจากกิ่งก้าน กระทบบนแก้มที่สดใสของสาวๆ”
“เมื่อคืนพ่อก็บอกแล้ว” ถังกั่วเอ๋อพูดขึ้น รอยยิ้มแห่งความปีติยินดีค่อยๆ เปล่งประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “น้องสาว หลังจากแต่งงานแล้ว ก็ต้องบอกลาชีวิตในตอนนี้แล้ว เข้าสู่เส้นทางอีกเส้นหนึ่งของชีวิต แต่ข้ายังทำใจไม่ได้”
นางชอบคุณชายหม้าย ดูแล้วก็เป็นคนที่ดีมาก หวู่ปายปายก็ชื่นชมเขา
แต่ชอบก็ส่วนชอบ นางยังไม่อยากเติบโต อยากให้วัยเยาว์ยาวนานกว่านี้ ยาวนานอีกหน่อย
“เจ้าคิดว่า หลังจากแต่งงานแล้ว ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วใช่ไหม?” เจ๋อหลานพอเข้าใจความรู้สึกของนาง
“อืม ข้าไม่อยากเติบโต” ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
เจ๋อหลานดึงมือของนางไว้ ส่ายไปมาเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่งงานแล้วไม่ได้เท่ากับเติบโต หากแต่งงานกับคนดีที่ถูกใจ เจ้าก็สามารถเป็นเด็กไปได้ตลอดชีวิต”
ที่บอกว่าไม่อยากเติบโต เป็นเพียงคำพูดตามประสาเด็ก
“น้องสาว เจ้าอยากเติบโตไหม?” นางถามเจ๋อหลาน
เจ๋อหลานก็เอามือเท้าคาง ครุ่นคิดแล้วก็พูดขึ้นว่า “ที่จริงข้าเติบโตมานานแล้ว ข้าหมายถึงความคิด ไม่ใช่ร่างกาย”
“น้องสาว” แขนของถังกั่วเอ๋อเอื้อมมาหา โอบกอดนางไว้เบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ พร้อมพูดขึ้นว่า “อยู่ตรงหน้าข้า เจ้าเป็นเด็กไปได้ตลอด”
เจ๋อหลานซาบซึ้งใจ แล้วกระพริบตาแล้วก็พูดขึ้นว่า “เจ้าทำให้ข้าท้อแท้ใจ เดิมข้าสาบานว่าจะปกป้องเจ้ากับสวีเปิ้งเปิ้ง”
“ไม่ เราปกป้องสวีเปิ้งเปิ้งด้วยกัน แต่ข้าก็จะปกป้องเจ้า” สายตาถังกั่วเอ๋อฉายแววลักษณะพิเศษของคนตระกูลหยวน กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว บวกกับเคยเรียนมารยาทมาก่อน สามารถพูดได้ว่าสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าคนตระกูลหยวน ราวกับหยกขาวที่ผ่านการขัดเงา ค่อยๆ เผยให้เห็นถึงความสดใสของนาง
เจ๋อหลานอิงหัวซบหัวไหล่พี่สาว ยังไงการกลับบ้านก็คือดีที่สุด เวลาอยู่บ้านเป็นเหมือนอย่างหมาน้อยที่ถูกรักใคร่อย่างมาก ออดอ้อนเสียหน่อยก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องกังกลอะไรเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...