บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 2003

หลังจากยุ่งมือเป็นระวิงกับเรื่องของราชสำนักมาระยะหนึ่ง หยู่เหวินเห้าก็รู้สึกว่าเหล่าขุนนางคนสนิทรอบตัวเขา เหมือนว่านอกจากจะยุ่งกันจนหัวหมุนแล้ว ก็ไม่มีเรื่องบันเทิงอะไรเลย

แบบนี้ไม่ได้ สิ่งที่เรียกว่าการผสมผสานระหว่างการทำงานและการพักผ่อน จะมุ่งเน้นเพียงงานยุ่งไม่หาความสนุกเลย มันอาจทำให้คนซึมเศร้าหรือเป็นโรคประสาทได้ง่าย ๆ

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสั่งช่างฝีมือในวัง ให้แกะสลักไพ่นกกระจอกออกมาชุดหนึ่ง วางแผนว่าจะสอนพวกเขาเล่นไพ่นกกระจอก อยากพูดอะไรก็สามารถพูดได้บนโต๊ะไพ่

หลังจากเลิกประชุมในวันนั้น ก็ไปจัดการงานราชการในห้องทรงพระอักษร ทิ้งบรรดาขุนนางทั้งหลายไว้ตามลำพัง แล้วพูดอย่างลึกลับว่าจะแสดงอะไรสนุก ๆ ให้พวกเขาดู

ทุกคนต่างมองหน้ากันแวบหนึ่ง ไร้ท่าทีสนอกสนใจชัดเจน

เพราะฝ่าบาทพูดว่าเรื่องสนุก ๆ ทุกคนก็อาจไม่คิดว่ามันสนุกก็ได้ มุมมองทางสุนทรียภาพของเขามักจะแปลก ๆ เสมอ เช่น เขาอาจจะบอกว่าหนอนผีเสื้อที่มีขนยุ่บยั่บทั้งตัวน่ารักมาก แล้วบังคับให้ทุกคนคิดว่ามันสวย

ปกติเขาจะไม่ค่อยชอบพูดถึงอภิสิทธิ์ของฮ่องเต้ แต่ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ เขาจะให้ความสำคัญกับอภิสิทธิ์ที่ว่าเป็นพิเศษ จะต้องบังคับให้มุมมองด้านสุนทรียภาพของทุกคนเป็นเหมือนเขาให้ได้ ต้องแสดงสีหน้าท่าทางชื่นชมออกมา ว่าหนอนขนยุ่บยั่บนั่นมันน่ารักมาก

อันที่จริง หนอนผีเสื้อที่มีขนสีเขียวพรายถ้าจะบอกว่าน่ารักก็นับว่ายังพอทน แต่ประเภทที่ขนสีดำทะมึนไปทั้งตัวนั่น เขากลับคิดว่ามันน่ารักกว่า ถึงกับบอกว่ามีนิสัยพิเศษเป็นเอกลักษณ์ในความน่ารักนั้น สิ่งนี้ต่างหากมันยากจะทนรับไหว

หนอนขนดำมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งยังน่ารักมาก เรื่องบ้าบออะไรไม่ทราบ?

หลังจากที่โสวฝู่กับหงเย่เห็นไพ่นกกระจอกตัวแรก มันคือสามเสาะ โสวฝู่พลันแค่นหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาทันที "นี่ไม่ใช่ไพ่นกกระจอกหรอกรึ? แต่แค่แกะสลักจากไม้เท่านั้นเอง"

หยู่เหวินเห้ากลอกตาใส่เขา "เจ้าจะไปรู้อะไร? ไพ่นกกระจอกดั้งเดิมมีแค่แผ่นป้ายรูปม้าสี่สิบแผ่นป้าย แต่ไพ่นกกระจอกของข้ามีมากกว่าหนึ่งร้อยแผ่นป้าย อีกทั้งรูปแบบการเล่นก็ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง วางใจเถอะ ข้าจะสอนพวกเจ้าเอง"

ตอนที่พูดประโยคนี้ หยู่เหวินเห้ารู้สึกมั่นใจมาก เพราะช่วงสองวันนี้เขายุ่งมากไม่มีเวลาเล่น แต่เขายังพอมีเวลาไปศึกษาเรียนรู้อีกสองวัน

เขามีอาจารย์ แท้จริงแล้วก่อนที่จะทำไพ่นกกระจอกออกมา เขาก็ได้ไปขอคำปรึกษาจากท่านอาจารย์

อาจารย์ท่านนี้ก็คือย่าหยวน ย่าหยวนบอกว่าที่นั่นถ้าใครอายุไม่มากพอก็จะไม่สามารถเล่นไพ่นกกระจอกได้ คนที่เล่นไม่เป็นนับว่ายังไม่สมบูรณ์

แต่ว่ากันตามจริง ย่าหยวนไม่ได้เก่งกาจอะไรเป็นพิเศษ อาศัยแค่ว่าหลังจากเพื่อนเก่าเกษียณ ก็ได้เรียนรู้ศิลปะแขนงนี้ แล้วก็มาชวนนางเล่น นางเป็นคนที่อ่อนด้อยที่สุดในบรรดาทุกคนในนั้นแล้ว

แต่ถึงกระนั้น การมาเป็นอาจารย์ให้เจ้าห้าก็นับว่ามากเกินพอแล้ว

หลังจากผ่านสองคืนของการฝึกพิเศษ เจ้าห้าก็เข้ารับตำแหน่งพร้อมใบรับรองเรียบร้อย

ไพ่นกกระจอกต้องทำจากไม้เท่านั้นหรือ? ใช้หยกขาวได้หรือไม่? หยกเขียวล่ะ? หรือต่อให้ต้องใช้ไม้จริง ๆ ก็เปลี่ยนไปใช้ไม้ลายปีกไก่หรือไม่ก็ไม้จันทน์ไม่ได้หรือ?

เขาเองก็เป็นคนประเภทชอบลงมือทันที จึงเรียกคนมาสั่งการให้คัดเลือกวัสดุที่ต้องการ ใช้หยกขาวแกะสลักไพ่นกกระจอกออกมาสำรับหนึ่ง ทั้งที่เป็นคนที่เคยเล่นไพ่นกกระจอกเพียงแค่คืนเดียว เขาก็จดจำอักษรทั้งหมดบนไพ่ได้แล้ว ทั้งยังสามารถวาดออกมาแล้วส่งไปให้ช่างฝีมือเริ่มแกะอักษรแล้วเรียบร้อย

แต่พอคิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าไม้แกะสลักนั้นเหมาะสมดีแล้ว อีกทั้งฝีมือของช่างสวีก็ดีมาก สามารถไปขอให้ช่างสวีแกะสลักไม้อีกสำรับหนึ่งก็ได้

เช้าวันรุ่งขึ้น จึงรีบตรงไปที่โรงงานเพื่อขอพบช่างสวีทันที

ช่างสวีได้ยินว่าเป็นแผ่นเกมไพ่ที่ฝ่าบาทต้องการเล่น จึงตั้งใจทำเต็มที่ หลังจากดูภาพตัวอย่างที่ท่านชายสี่วาดอย่างละเอียดแล้ว ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างง่ายทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะช่างฝีมือที่อยู่ในระดับมืออาชีพแถวหน้าคนหนึ่ง นางจะไม่ยอมให้งานฝีมือของตัวเองไร้ซึ่งลักษณะเด่นเป็นอันขาด

นางสัญญาว่าจะส่งมอบงานภายในสิบห้าวัน ยืนยันหนักแน่นว่าหลังจากผ่านไปสิบห้าวัน ฝ่าบาทจะต้องทรงพอพระทัยมากแน่ ๆ

ท่านชายสี่ถึงกับชะงักค้าง ไม่ใช่ว่าควรต้องให้เขาพอใจหรอกหรือ? ทำไมต้องให้ฝ่าบาทพอใจล่ะ? ในเมื่อคนจ่ายเงินคือเขาแท้ ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน