บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 2021

ความคิดของเป่ยโม่ หยู่เหวินเห้ากับจิ้งถิงสันนิษฐานได้อย่างชัดเจน

ที่จริงประเทศในทวีปนี้ ต่างเข้าใจเป่ยโม่เป็นอย่างดี เหตุผลทางภูมิศาสตร์ พวกเขามีความก้าวร้าวชอบรุกรานอยู่ในสายเลือด หากประเทศใดมีความแตกร้าว พวกเขาก็จะแทรกซึมเข้าไปดูดเลือด

ผู้มีอำนาจพวกนั้น ล้วนเป็นผีดูดเลือดที่เยือกเย็น

ส่วนประชาชนของพวกเขาได้รับการสั่งสอนจากในราชสำนักมาตลอด ไม่เห็นว่าการรุกรานเป็นความผิด ยังไงประเทศก็กำลังพัฒนา การปล้นชิงถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด

“เสริมกำลังการป้องกัน” จิ้งถิงพูดเตือน

“ข้ารู้ ขอบใจที่เจ้าอุตส่าห์มาบอก”

“อาจจะไม่ใช่ ข้ากับกระบี่มังกรยังไม่มีปัญญาทิตย์เชื่อมต่อกัน จึงอาจจะคาดเดาผิดไป”

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาลังเลมาอยู่ตั้งสองวัน ไม่พูดออกมา เพราะการป้องกันไม่ใช่การสั่งคำเดียวเท่านั้น ต้องมีการเคลื่อนย้ายส่งกองกำลังไป ต้องวางแผน ต้องฝึกซ้อม คำพูดของเขาเพียงประโยคเดียว คนภายใต้บังคับบัญชาต้องวิ่งจนขาลาก

“ทางด้านชายแดน ต้องจัดการวางกองกำลังทหารใหม่ หลายปีมานี้ไม่เคยเปลี่ยน ทางด้านเป่ยโม่คงรู้เป็นอย่างดีแล้ว อาศัยช่วงจังหวะนี้ ฝึกฝนค่ายกลเสียใหม่”

“อืม จริง” ประเทศหนึ่งยิ่งร่ำรวยขึ้น ก็ยิ่งต้องให้ความสำคัญด้านการสู้รบ

เป่ยโม่มีความโลภต้องการครอบครองประเทศคนอื่น แต่กับเป่ยถังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ดังนั้นความโลภของพวกเขามักคิดถึงเป่ยถังเป็นอันดับแรก

มีคำสั่งจากกรมทหารไปยังชายแดน เดิมอ๋องอานกับอ๋องเว่ยเพียงแค่เฝ้าจวนเจียงเป่ย ตอนนี้เมืองทั้งห้าก็ต้องดูแลด้วย

ทหารประจำการในเมืองมีน้อย ทหารส่วนใหญ่ล้วนประจำอยู่ที่จวนเจียงเป่ย ตอนนี้กรมทหารได้รับพระราชโองการของฮ่องเต้ ให้มีทหารประจำการในเมืองทั้งห้าด้วย นั่นก็คือต้องวางกองกำลังใหม่

ทำให้ท่านอ๋องทั้งสองเหนื่อยอย่างมากจริงๆ ดีที่แม่ทัพใหญ่ฮู่ก็อยู่ที่นั่น บวกกับเดิมพวกองค์ชายเจ้าหญิงที่ฝึกคนไว้จนสามารถแบกรับภาระได้ระดับหนึ่ง เมื่อร่วมมือกันแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบาก

ต่อจากนี้ก็คือการฝึกซ้อม ฝึกซ้อมการเฝ้าประจำเมืองกับการต่อสู้บนภูเขา

การเฝ้าประตูเมืองเป็นด่านแรก เฝ้าระวังไว้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องสู้รบบนภูเขา

อ๋องเว่ยยังไปที่แคว้นจิน ให้พวกเขาเฝ้าระวังไว้ด้วย รู้สึกเหมือนหากจะเคลื่อนไหวเป่ยโม่ อาจจะจัดการแคว้นจินก่อน

เขาก็รู้ว่าเป่ยถังในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน หากเป็นเมื่อก่อน ทางด้านเป่ยโม่มีความเคลื่อนไหวอย่างไร ทางด้านเป่ยถังก็จะตึงเครียดกันขึ้นมา ร่วมกันปรึกษากลยุทธ์รับมืออย่างเข้มข้น

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน กองกำลังทหารแข็งแกร่งขึ้น กรมคลังสมบูรณ์ ต้องต่อสู้กันขึ้นมาก็ไม่หวาดกลัว

ผ่านไปครึ่งเดือน อ๋องเว่ยจวนเจียงเป่ยส่งจดหมายมารายงานว่า กองกำลังเป่ยโม่ห้าหมื่นคนเคลื่อนกำลังมาเมืองหลวง พวกเขาเตรียมที่จะทำศึกกับเป่ยโม่

ผ่านไปเพียงสิบวัน อ๋องเว่ยจวนเจียงเป่ยส่งข่าวมาว่า ภายใต้ความร่วมมือของจวนเจียงเป่ยเป่ยถังกับแคว้นจิน ต่อสู้กับกองกำลังเป่ยโม่จนพ่ายแพ้ ถอนกำลังไปแล้ว

สาร์นข่าวอ่านในที่ว่าราชการ เหล่าขุนนางต่างตื่นเต้นดีใจอย่างมาก ช่างสะใจยิ่งนัก เป่ยโม่ที่เคยเหี้ยมหาญในการทำศึก ตอนนี้แตกหนีเหมือนอย่างหนู

หยู่เหวินเห้ามองดูเหล่าขุนนางที่ร้องปีติยินดี แล้วพูดขึ้นว่า “ชอบทำศึกจะต้องตาย ลืมการทำศึกจะตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นพวกเราจะชะล่าใจไม่ได้ ต้องระมัดระวังจับตาดูประเทศที่ทะเยอทะยานพวกนั้นอยู่ตลอดเวลา”

“ครั้งนี้คู่ควรแก่การดีใจ แสดงถึงความแข็งแกร่งของประเทศเรา แต่อย่าลืมว่า เป่ยโม่ไม่ล้มเลิกความคิดที่จะทำลายเรา ต้องจำไว้ไปตลอด”

“ขอรับ ข้าน้อยจะจดจำ” เหล่าขุนนางพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน