บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 2055

ใต้เท้าจางอยู่ที่เป่ยถังครึ่งเดือน จากนั้นก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวง

หยู่เหวินเซียวประกาศให้วันนี้ทุกคนพักผ่อนครึ่งวัน ส่งใต้เท้าจางกลับ

เช้ามาองครักษ์เงาดำก็ออกไปจับจ่ายซื้อของแล้ว ปากบ่นพึมพำว่าเย่าฮุยน่าเวทนาโดยแท้ ล้มป่วยหลายวันขนาดนั้นก็ยังไม่ดีขึ้น จะซื้อยาสำเร็จรูปของแคว้นต้าโจวให้เขากินระหว่างทางสักหน่อย

กล่าวอำลาอาลัยอาวรณ์พักหนึ่ง ทำจนใต้เท้าจางหลั่งน้ำตา

แม้ชายกำยำทั้งหลายจะไม่ร่ำไห้ แต่รถม้าของใต้เท้าจางจากไปนานแล้วก็ยังไม่แยกย้าย มองจุดที่ฝุ่นคลุ้งค่อยๆ จางหายอยู่ในประตูเมือง

จากนั้นก็ถอนหายใจหนักพร้อมกัน มองหน้ากัน อารมณ์คิดถึงบ้านเกิดพลันทะลักขึ้นมาในหัวใจ อยากกลับไปสักครั้ง อยากกลับไปสักครั้งมากจริงๆ ต่อให้แค่เข้าใกล้เป่ยถัง กลับไม่ถึงเมืองหลวง พวกเขาก็ดีใจแล้ว

ความโศกเศร้าอาลัยในการลาจากคงอยู่ไม่นานก็วิ่งกลับไปยังตำแหน่งตัวเองทันที เป็นพนักงานต่างแดนต่อ

ชื่อของเจิ้นลี่และเจิ้นรุย แรกเริ่มทุกคนรู้สึกว่าดีมาก แต่นานวันก็เปลี่ยนการเรียกขานเสียใหม่ เจิ้นลี่กลายเป็นต้าเป่า(ลูกคนโต) ส่วนเจิ้นรุยก็กลายเป็นเอ้อร์เป่า(ลูกคนรอง)

เสือขนทอง หมาป่าหิมะกับเจ้าหูแหลมต่างหางานได้แล้ว ทำงานอยู่ในคณะละครสัตว์

แคว้นต้าโจวเป็นแคว้นที่มีการผสมผสานหลากวัฒนธรรม และเนื่องจากมั่งคั่งร่ำรวย ดังนั้นวัฒนธรรมความบันเทิงจึงมีระดับสูงด้วย คณะละครสัตว์เป็นรูปแบบใหม่ ได้ยินว่าเผยแพร่มาจากแคว้นหลัวอะไรสักอย่าง

เพียงแต่หลังจากเผยแพร่มาถึงแคว้นต้าโจวแล้วก็ผสมหลอมรวมกับกายกรรมของท้องถิ่น กลายเป็นละครกายกรรมสัตว์

งานของเสือขนทองค่อนข้างสบาย คือการยืดอกเชิดหน้าออกมาเดินสองสามรอบ แล้วคำรามทีหนึ่ง ให้ประชาชนที่ชมอยู่ได้สัมผัสความกดดันที่มาจากสายเลือดเจ้าแห่งสรรพสัตว์สักหน่อย

หมาป่าหิมะลำบากกว่านิดหนึ่ง ต้องกระโดดลอดห่วงไฟ กระโดดลอดห่วงไฟที่ทอดตัวยาว

ที่แย่ที่สุดก็คือเจ้าหูแหลม เพราะนอกจากต้องกระโดดลอดห่วงไฟแล้ว ยังต้องทำท่าทำทางตามคำสั่งด้วย ให้ทุกคนเห็นว่าสุนัขตัวนี้เหมือนอย่างคน ฟังภาษาคนรู้เรื่อง ดังนั้นหากผู้ชมให้เงิน ก็ยังสามารถออกคำสั่งกับเจ้าหูแหลมได้ด้วย ให้มันไปทำตามที่สั่ง แต่นี่จะเก็บเงินค่อนข้างแพง

เถ้าแก่ของคณะละครสัตว์เดิมทีเป็นคนขี้เหนียวมาก คิดจะหักค่าแรง แต่พอเสือขนทองคำรามใส่เขาทีเดียว เขาก็แสดงออกว่าจะแบ่งให้ครึ่งต่อครึ่งทันที

เหล่าแม่ทัพทั้งหลายทำงานแต่เช้าจรดค่ำทุกวัน จะคว้าเบี้ยรางวัลความขยันมาให้จงได้ เนื่องจากเงินหมดแล้ว แต่ทุกไตรมาสมักมีเงินรางวัล พวกเขาจึงอาศัยเงินรางวัลเหล่านี้ทำมื้ออาหารของตัวเองให้อุดมสมบูรณ์

เดือนสอง ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าก็หกเดือนแล้ว ฮ่องเต้แคว้นต้าโจวมีราชโองการ อนุญาตให้คนของแคว้นต้าโจวที่ติดหนี้กลับบ้านเยี่ยมญาติได้

วันหยุดในการเยี่ยมญาติคือหนึ่งเดือนเต็มๆ

เนื่องจากน้าเสวี่ยและน้าหลางก็จะกลับเป่ยถังตอนที่ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าหกเดือนด้วย ตอนนี้มีวันหยุดเยี่ยมญาติหนึ่งเดือนจึงสามารถคุ้มครองพวกเขากลับไปได้แล้ว

เป่ยถัง เป่ยถัง พวกเขากลับบ้านพร้อมกับความสำเร็จ

ด้วยความใจร้อนในการกลับบ้าน ดังนั้นการเดินทางจึงไวว่อง กินดื่มไม่เป็นเวลา เหล่าชายกำยำต่างไม่รู้สึกว่าลำบาก ลำบากแต่เพียงพวกท่านน้าเท่านั้น

รถม้าโคลงเคลง ท่านน้าอาเจียนหลายครั้งตลอดทาง โล่หมันสงสาร ดังนั้นจึงให้ทุกคนช้าหน่อย แต่ท่านน้ากลับโบกมือบอกว่าไม่ต้อง ต้องเร่งเดินทางให้เร็วที่สุด อยู่เป่ยถังได้นานอีกหนึ่งวันก็คือหนึ่งวัน อย่าได้เสียเวลาอันมีค่ากับการเดินทาง

องครักษ์เงาดำประทับใจมาก เบิกดวงตาดวงโตที่จะถลนออกมาเพราะการอดอาหารหลายมื้อมองพวกนาง “พวกท่านวางใจ เอาไว้กลับไปแล้ว จะชดเชยเนื้อที่อาเจียนออกมาให้ครบเลย”

ท่านน้าเอ่ยอย่างมีใจแต่ไร้กำลัง “อย่าพูดมาก รีบเดินทาง พวกเราแค่อยากพาต้าเป่ากับเอ้อร์เป่ากลับไปให้ทุกคนเห็นเร็วๆ เท่านั้น”

การกลับไปคราวนี้ไม่ได้บอกคนทางเป่ยถังล่วงหน้า เกรงว่าจะเกิดปัญหาอะไร นับจากวันที่พวกเขาออกเดินทาง จี๋เอ๋อร์ก็รออยู่ที่ประตูเมือง เด็กคนนั้นบทจะดื้อดึงขึ้นมา วัวสิบตัวก็ฉุดไม่อยู่

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงเร่งเดินทางต่อ วินาทีที่เหยียบแผ่นดินเป่ยถัง พวกเขาก็ตื้นตันจนหลั่งน้ำตา

กระทั่งกลางคืนก็ถึงเมืองหลวง แม้ประตูเมืองจะปิดแล้ว แต่พอเห็นหอประตูเมืองอันคุ้นเคยอยู่ไกลๆ พวกเขาก็ยังอดกรอบตาแดงไม่ได้

องครักษ์เงาดำปาดน้ำตา “มารดา! ถ้าเร็วกว่านี้ครึ่งชั่วยามก็เข้าเมืองทันก่อนประตูเมืองปิดแล้ว ตอนนี้ต้องตบประตูแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน