ความรู้สึกของหยู่เหวินเห้าสั่นสะเทือนตกตะลึง นางกล่าวว่ายอมตายก็ไม่อยากเป็นพระชายาฉู่งั้นหรอ?
น่าขันยิ่งนัก ตำแหน่งพระชายาฉู่ไม่ใช่สิ่งที่นางใช่เลห์มารยาคิกทำทุกวิถีททาง เพื่อเข้ามายืนในจุดนี้?
“เจ้าตื่นมาคุยกับข้าให้รู้เรื่อง!”หยู่เหวินเห้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาจับเข้าไปที่หน้านางและใช้มือตบแก้มนาง
แม่นมสี่เห็นดังนั้นจึงโมโหขึ้นมาทันที นางไปยืนขวางที่ตรงหน้าของหยวนชิงหลิง“ทำไมพระองค์ถึงทำได้ลงคอ?ท่านอ๋อง ทำไมพระองค์ถึงเปลี่ยนไปเป็นคนโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้?
หากไม่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา แม้ต่อให้เป็นเพียงคนแปลกหน้า ก็มิควรทำเช่นนี้?ข้าหมดความอดทนกับพระองค์แล้วจริงๆ?”
หยู่เหวินเห้ามองไปที่ใบหน้าซีดขาวไร้เรี่ยวแรงของหยวนชิงหลิง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า น้ำตาที่ยังไหลออกมาไม่หยุด ดูดื้อรั้นและเย็นชา
เขาไม่สามารถทนดูทิฐิและความดื้อรั้นของนางได้ต่อไป จึงหันกลับมาและออกไป
หยู่เหวินเห้าเดินออกไปนอกตำหนักยืนอยู่ใต้ต้นฉัตรจีน ชมใบไม้สีเหลืองหมุนพลิ้วตามสายลม หัวใจดวงนี้เป็นเหมือนดั่งสายลมพัดที่พัดผ่านไป ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
“ท่านอ๋อง!”เสียงที่ดังจากด้านหลัง เป็นเสียงเรียกของพระชายาฉีฉู่หมิงชุ่ย
หยู่เหวินเห้ารีบเก็บอาการและอารมณ์ของตัวเอง หันกลับไปมองนาง
นางยืนอยู่ที่ระเบียง กระโปรงลากไปข้างหลัง น้ำเสียงสง่า เหมือนดั่งเทพธิดา
ความงดงามของนาง ยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบได้
คู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ แต่ตอนนี้นางได้ไปเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว หัวใจของเขา รู้สึกเจ็บปวดมาก
ฉู่หมิงชุ่ยสังเกตเห็นแววตาและท่าทางที่ดูเลื่อนลอย ทำให้นางรู้สึกอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย
ถึงอย่างไรเขายังลืมนางไม่ได้
นางเลิกคิ้วขึ้น ด้วยความสบาย มองเขาด้วยความโล่งอก “ตอนนี่อาการป่วยของไท่ซ่างหวงดีขึ้นแล้ว เสด็จพ่อก็มีท่าทีความคิดที่เปลี่ยนไปดีกับเจ้ามากขึ้น ข้าก็ยินดีกับเจ้าด้วย ”
เขาไม่ได้พูดอะไร
ผ่านไปไม่นาน นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าสบายดีใช่ไหม?”
หยู่เหวินเห้ากวาดสายตามองไปที่นาง “ก็สบายดีอยู่นี่ไง ยังมีชีวิตอยู่”
ดวงตาของฉู่หมิงชุ่ยมองไปที่เขาด้วยสายตาห่วงใย ขนตายกขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เกรงว่าวันหนึ่ง พวกเจ้าจะแย่งชิงตำแหน่งกัน สงครามที่เกิดขึ้นไม่เจ้าก็เขาที่ต้องตาย”
หยู่เหวินเห้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยๆส่ายหัว “ไม่หรอก ข้าไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้น เจ้าอย่ากังวลไปเลย เมื่อก่อนเคยสัญญากับเจ้าไว้ ข้าจะรักษาคำสัญญา”
ฉู่หมิงชุ่ยถอนหายใจอย่างแผ่วเบา มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา“ เจ้าก็รู้ ในใจข้านั้นคือเจ้า”เมื่อพูดเสร็จ ขนตาของนางกะพริบและน้ำตาก็ไหลออกมาเมื่อนางมั่นใจว่าอ๋องฉู่เห็นแล้ว จึงได้เดินจากไป เขายืนอย่างเฉยชา และไตร่ตรอง ไม่ใช่สายตาที่อ่อนโยนของฉู่หมิงชุ่ยเมื่อครู่ แต่เป็นสีหน้าอันเจ็บปวดหนักแน่นของหยวนชิงหลิง
แม่นมสี่ยกน้ำออกมาด้านนอน ยืนอยู่ข้างหลังของเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านอ๋อง เข้าไปด้านในเถอะ มีเรื่องอะไรก็พูดคุยกันดีๆ”
หยู่เหวินเห้าตอบรับด้วยรอยยิ้ม หันกลับและเดินเข้าไปด้านใน ที่จริงแล้วเขามีหลายเรื่องที่อยากถามหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงยังคงนอนคว่ำอยู่บนเตียง เสื้อผ้าถูกห่อหุ้มบางๆบนหลังของนางแล้วปกคลุมด้วยผ้าห่ม หน้านางหันไปด้านข้าง หน้าซีดเพราะเสียเลือดมาก
พอเห็นว่าหยู่เหวินเห้าเข้ามา นางหลับตาลง ดวงตาที่อ่อนล้ามีรอยช้ำจางๆ ลดตาลงต่ำ ขนตางอนยาว ร่างกายรู้สึกทรุดลงมากและมีอาการอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
หยู่เหวินเห้าเองก็สงบสติอารมณ์ลงมาก ลากเก้าอี้ไม้หนึ่งตัวนั่งลงตรงหน้านาง “เรามาคุยกันดีๆเถอะนะ”
หยวนชิงหลิงค่อยๆลืมตาขึ้นมาเงยหน้ามองเขา “อย่าสงสัยอะไร กับสิ่งที่ข้าพูด สิ่งนั้นคือความจริง ในเมื่อท่านอ๋องอยากให้ข้าอธิบาย ข้าก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออธิบาย ข้าไม่ใช่คนที่อดทนต่อความเจ็บปวดทางจิตใจและร่างกายจะรู้สึกมีความสุข ต้องถูกทบตีลงโทษก่อนถึงจะยอมให้ความร่วมมือ”
เท้าเรียวยาวของหยู่เหวินเห้าวางลงข้างเตียง เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาไม่เปลี่ยนไปจากเดิม เขาเองอยากขจัดหยวนชิงหลิงให้ไปพ้นๆจากกายและใจเช่นกัน
แต่คำพูดของหยวนของหลิง กลับทำให้ความรู้สึกรังเกียจนางของเขาลดลงบ้างโดยไม่ต้องสงสัย
“เจ้าให้ยาอะไรกับเสด็จปู่?”
หยวนชิงหลิงรู้สึกแปลกใจและสงสัยกับคำตอบของเขา บุญคุณและความแค้น?ของเขาหรอ ?
บุญคุณนางไม่รู้ แต่ความแค้นนางเองก็รู้ดี คงเป็นเจ้าของร่างเดิมหยวนชิงหลิงทำอะไรให้เขา เขาถึงได้แค้นขนาดนั้น คงไม่ปล่อยให้หยวนชิงหลิงอยู่อย่างสงบสุข
นางอ่อนเพลียอย่างมาก หลับลงไปอย่างไม่รู้สึกตัว
ก็ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว พอตื่นขึ้นก็เห็นแม่นมสี่นั่งอยู่ขอบเตียง
เมื่อพอว่านางตื่นขึ้น แม่นมสี่ยื่นมือไปแตะที่หน้าผาของนาง พร้อมกับพูดว่า “ไม่มีไข้แล้ว”
หยวนชิงหลิงเองก็รู้สึกว่าตัวเองอาการดีขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ขอบคุณแม่นมสี่ที่เคยดูแลข้า”
“มิบังอาจเพคะ!”แม่นมสี่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ลุกขึ้นไปเทน้ำให้นางหนึ่งแก้ว และได้หยิบยาที่หยู่เหวินเห้าทิ้งเอาไว้มา “กินยาเพคะ”
“คือยาอะไร?”หยวนชิงหลิงแบมือเอายามาดู มองไปที่เม็ดยาสีแดง เหมือนกับมอลทรีเซอร์ฮอช็อคโกแลต
“ยาเม็ดจื่อจิน”
“ยาเม็ดจื่อจิน?”คืออะยาอะไร?ดื่มน้ำจื่อจินไปแล้วยังไม่พอยังต้องมากินยาเม็ดจื่อจินอีก?
แม่นมสี่กล่าว“สามารถรักษาภาวะเลือดออกและสร้างกล้ามเนื้อในร่างกาย ทำให้อาการดีขึ้น ยาเม็ดนี้ กษัตริย์หนึ่งพระองค์ จะมียานี้เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น หากเป็นการป่วยที่สาหัส สามารถรักษาให้หายได้”
“วิเศษขนาดนี้เลยหรอ?ใช้ส่วนผสมอะไรกัน”หยวนชิงหลิงสนใจและอยากรู้เกี่ยวกับยาตัวนี้มาก ดังนั้น ดังยื่นมือไปรับยานั้นมา ดมไปทีหนึ่ง
กลิ่นของโสมซานชีแรงมาก ใช้โสมซานชีผสมหรอ?
“ไม่ทราบเช่นกัน รู้แต่เพียงว่าเป็นยาที่หายากมาก ท่านอ๋อง…………”แม่นมสี่มองไปที่นาง “ท่านอ๋องเคยถูกลูกธนูยิงเกือบถึงชีวิต ท่านเองก็ไม่ใช้ยาเม็ดนี้”
หยวนชิงหลิงมีความรู้สึกสับสนและสงสัย หากยานี้สำคัญขนาดนี้ ทำไมเขาถึงให้ข้า หรือว่าเขาเชื่อแล้วว่าข้าสามารถรักษาไท่ซ่างหวงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...