บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 470

เสียนเฟยตื่นเต้นจนไร้คำจะบรรยาย นางปิดปากแล้ว คุกเข่าเบื้องหน้าของฮองเฮา ร้องไห้ไม่มีเสียง

ตระกูลซูท้ายที่สุดก็มีอนาคตสดใส และแม้ว่านางจะไม่ใช่ฮองเฮา แต่ก็จะได้เป็นไทเฮาในที่สุด

นางก็คุกเข่าเพียงแค่ครู่เดียว แล้วลุกขึ้นยืน รอจนมู่หรูกงกงเอาพระราชโองการอีกฉบับหนึ่งออกมา

แต่ทว่า ก็ไม่มี ฮ่องเต้มองดูเพียงแค่หยู่เหวินเห้า จากนั้นตบไหล่ของเขาเบาๆเล็กน้อย แล้วกล่าว: “จัดขบวนกลับพระราชวัง!”

วันนี้เป็นเพียงการดำเนินตามขึ้นตอน ต่อจากนี้ระหว่างฮ่องเต้ขุนนางพ่อและลูก ยังต้องคุยกันสักรอบหนึ่ง

เสียนเฟยเห็นฮ่องเต้หมิงหยวนต้องการจากไปแล้วจริงๆ อดไม่ได้จึงร้องเรียกออกมา “ฝ่าบาท ช้าก่อนเพคะ!”

ฮ่องเต้หมิงหยวนหันกลับไปมองนาง สายตาเคร่งขรึม “ยังมีเรื่องอะไรอีก?”

เสียนเฟยเห็นสายตาเช่นนั้นของเขา คิดถึงวันนั้นที่โดนตบไปฉาดหนึ่ง ในใจของนางหนักหน่วง ครั้นแล้วประโยคนั้นที่เค้นจนถึงลำคอและดวงตาก็ถูกระงับลงไป หลับตาลงแล้วกล่าว: “หม่อมฉันอยากไปอยู่เป็นเพื่อนพระชายารัชทายาทสักครู่ กลับวังดึกหน่อยเพคะ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนสีหน้าไม่เข้าใจ กล่าวว่า: “อนุญาตแล้ว!”

หลังจากที่หยู่เหวินเห้าและเชื้อพระวงศ์ทุกคนส่งเสด็จไทเฮาและฮ่องเต้รวมทั้งท่านหญิงทุกคนออกไปแล้ว อ๋องซุน อ๋องหวย อ๋องฉีล้วนล้อมรอบกล่าวแสดงความยินดีต่อหยู่เหวินเห้า

อ๋องอานยืนอยู่ใต้ต้นไม้ยืนต้น เงาของต้นไม้ยืนต้นปกคลุมเขาพอดี เขายกมุมปากขึ้น ยิ้มเล็กน้อย “น้องห้า ยินดีด้วย!”

หยู่เหวินเห้าชำเลืองมองเขา ในตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก “ขอบพระทัยพี่สี่”

อ๋องอานกล่าวนิ่งๆ: “อย่างไรก็แล้วแต่นี่ไม่ใช่ได้มาด้วยความสามารถของตัวเอง ต่อจากนี้เจ้าต้องพยายามให้มากๆ ไม่เช่นนั้น ตำแหน่งรัชทายาทนี้ ไม่แน่ว่าก็จะถูกแย่งไป”

คำพูดที่แฝงด้วยการยั่วยุนี้ หยู่เหวินเห้าแม้แต่ความปรารถนาที่จะตอกกลับหรือเยาะเย้ย เกือบจะไม่มี เพียงแค่กล่าวอย่างเย็นชา: “พี่สี่พูดถูก”

อ๋องอานหลับตาลง แต่ระหว่างนั้นที่หางตา กลับปรากฏแวบหนึ่งอย่างฉับพลัน แสงเย็นยะเยือกผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เขาหันกลับไปสั่งคนข้างกายให้ไปเชิญพระชายาอาน ต้องการจะขอตัวลากลับจวนแล้ว

ส่งอ๋องอานจากไปแล้ว เสียนเฟยรีบมาดึงหยู่เหวินเห้าเข้าไปในห้องหนังสือเล็กทันที

สีหน้าท่าทางของนางจริงจังเคร่งขรึมเป็นที่สุด “วันนี้เจ้าได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท แต่ท่านแม่ของเจ้ากลับไม่ได้ถูกแต่งตั้งเป็นหวงกุ้ยเฟย เสด็จพ่อของเจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่ เจ้าสามารถเดาได้ไหม?”

เมื่อวาน หลังจากที่แม่นมสี่ทำคลอดให้หยวนชิงหลิงแล้วเขาไปขอให้เจ้าอาวาสบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา นาทีนั้น เขาเกลียดเสียนเฟยเข้ากระดูกดำเป็นอย่างมากจริงๆ

แต่ว่า ด้วยบุญคุณในการให้กำเนิดเลี้ยงดูขวางกั้นไว้ เขาทำได้เพียงเอาไฟโทสะนี้ซ่อนไว้ในก้นบึ้งของจิตใจ ต่อจากนี้ก็ทำหน้าที่ของลูกอย่างเหมาะสมก็พอ คือตัดไม่เรียกยายหยวนไปทำความเคารพไถ่ถามทุกข์สุขกับนางอีก

ตอนนี้ ได้ยินคำพูดนี้ของนาง มองดูใบหน้าที่เคร่งขรึมเย็นชาของนาง ไฟโทสะของหยู่เหวินเห้าก็กลับขึ้นมาอีกแล้ว กล่าวอย่างเย็นชา: “เสด็จพ่อทรงปราดเปรื่อง มีการตัดสินพระทัยอย่างเด็ดขาดด้วยพระองค์เอง”

เสียนเฟยกล่าวด้วยความขุ่นเคืองไม่พอใจ: “มีการตัดสินพระทัยอย่างเด็ดขาดอะไร? เจ้าถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาท แม่ก็ควรจะถูกแต่งตั้งเป็นหวงกุ้ยเฟย ทุกยุคทุกสมัย ล้วนเป็นเช่นนี้”

หยู่เหวินเห้าหัวเราะอย่างเย็นชา: “บางทีเสด็จพ่ออาจรู้สึกว่าท่านแม่ไม่มีคุณธรรม ไม่เพียงพอที่จะแต่งตั้งเพิ่มเป็นหวงกุ้ยเฟยน่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

เสียนเฟยได้ยินดังนั้น เงยหน้าขึ้นฉับพลัน เลือดบนหน้าค่อยๆจางไป คำพูดนี้ พูดออกมาจากปากของหยู่เหวินเห้า ร้ายแรงมาก

นางกลับวังไปด้วยจิตใจและจิตวิญญาณที่แตกสลายแล้ว

ในห้องของหยวนชิงหลิง นอกจากสาวใช้ของจวนเจ้าพระยาจิ้ง คนอื่นล้วนออกไปแล้ว

ฮูหยินใหญ่จับมือของหยวนชิงหลิง ในตาเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดูและความสงสาร “ด่านนี้ นับว่าอดทนผ่านมาแล้ว”

วันนี้หยวนชิงหลิงเหนื่อยเป็นอย่างมากแล้ว สนทนากับคนในครอบครัวทั้งวันแล้ว แต่ว่า ก่อนหน้านี้เหล่านั้นเป็นการเข้าสังคม ตอนนี้เพิ่งจะนับได้ว่าสามารถคุยกันเป็นการส่วนตัวได้ไม่กี่ประโยค

เพิ่งจะอ้อนบอกว่าลำบากและความเจ็บปวด นางหวงก็พูดแล้ว “เจ้าก็รู้ว่าคนที่เป็นพ่อแม่ลำบากแล้วสินะ? ตอนนั้นแม่ให้กำเนิดเจ้าก็เจ็บจนแทบจะไม่ไหว แม่มีบางคำพูดต้องการจะพูดกับเจ้า เมื่อครู่พวกนางอยู่ ไม่ดีที่จะพูดคำนี้..”

“เจ้าอยากพูดอะไร?” ฮูหยินใหญ่มองกวาดด้วยสายตาเย็นชา ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

นางหวงนั่งลงข้างกายของหยวนชิงหลิง ในตาค่อนข้างตื่นเต้น “ก่อนที่จะมา ท่านพ่อของเจ้าก็บอกแล้ว ครั้งนี้เจ้าได้ทำคุณงามความดีให้กับราชวงศ์ ฮ่องเต้จะต้องไม่คิดเล็กคิดน้อยกับความโกรธแค้นและความผิดในอดีต ตอนนี้ท่านอ๋องถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทแล้ว เจ้าเป็นพระชายารัชทายาท อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ก็นับได้ว่าสามารถเอ่ยปากได้แล้ว......”

“เจ้าอยากพูดอะไรกันแน่?” ฮูหยินใหญ่โมโห ขึ้นเสียงถามอย่างโกรธเคือง

นางหวงได้ยินว่าแม่ยายโกรธแล้ว ก็ไม่ได้ปูเรื่องแล้ว กล่าวด้วยใบหน้าเหยเก: “ความหมายของนายท่าน แค่ยังต้องการขอตำแหน่งขุนนาง และไม่ได้เรียกร้องสูง แม้ว่าจะเป็นการคืนตำแหน่งเดิมก็ดี”

ฮูหยินใหญ่ได้ฟังคำนี้ หัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง แต่กลับไม่ได้ว่านาง เพียงแค่กล่าวต่อหยวนชิงหลิง: “เจ้าพักผ่อนดีๆ อีกสองวันย่าจะมาอีก”

“ได้!” หยวนชิงหลิงรู้ความหวังดีของท่านย่า ไม่อยากให้นางฟังนางหวงพูดจาไร้สาระ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน