บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 499

“อ๋องอัน ”หัวใจของหยวนชิงหลิงตระหนกเป็นอย่างยิ่ง แต่เห็นหยู่เหวินเห้าที่มีท่าทีมั่นใจเต็มเปี่ยม ก็ค่อยๆทำใจให้สงบลงตามไปด้วย“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ แล้วท่านรู้ได้อย่างไร”

หยู่เหวินเห้าดึงนางให้นั่งลง พูดว่า “วันนั้นเจ้าพระยาจิ้งมาหาข้า ให้ข้าวางตำแหน่งขุนนางให้เขาตำแหน่งหนึ่ง ข้าไม่เห็นด้วย หลังจากเขาลงจากรถม้าข้าก็ได้ให้คนคอยสะกดรอยตามเขา พบว่าเขาไปพบกับพี่สี่ และเข้าไปยังจวนของพี่สี่ แม้จะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไรกัน แต่เพื่อเป็นการระมัดระวัง ข้ายังคงให้คนคอยสอดส่องดูเขาอยู่ตลอด วันก่อน มีการอุ้มเด็กคนหนึ่งกลับมาที่จวนเจ้าพระยาจิ้ง ซ่อนไว้ในจวน ข้าจึงเดาว่า ถึงเวลาคงมีการสลับตัวกัน ข้าจึงไหลตามน้ำไปก่อน ให้เขาทำตามแผนสำเร็จ เรื่องนี้ข้าได้ปรึกษากับแม่ทัพหลอแล้ว ถ้าหากพี่สี่ต้องการลักพาตัวลูกเราไปจริง เช่นนั้นจะได้จับเขาคาหนังคาเขา ”

หยวนชิงหลิงโมโหมาก“ท่านถึงกับใช้ข้าวเหนียวเป็นเหยื่อล่อเลยหรือ ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำอย่างไร ”

หยู่เหวินเห้ารู้อยู่แล้วว่านางต้องโมโห ฉะนั้นจึงได้เตรียมคำพูดไว้แต่แรกแล้ว “ถ้าหากพี่สี่มีใจอยากจะทำร้ายลูกของพวกเราอยู่ตลอดเวลา ก็คงยากจะป้องกันได้ ครั้งนี้ทำไม่สำเร็จ ย่อมต้องมีครั้งหน้าอีก มีเพียงทำเรื่องนี้ให้ใหญ่โต ให้เสด็จพ่อรู้ แม้ว่าสุดท้ายพี่สี่จะสามารถหลุดพ้นข้อกล่าวหาไปได้ ก็ไม่กล้าลงมือกับลูกเราอีก เพราะว่า เสด็จพ่อรู้ถึงความคิดของเขาแล้ว ภายหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูก ก็ต้องโทษเขาเป็นแน่”

หยวนชิงหลงโมโหจนหัวใจลุกเป็นไฟ“เขาพาข้าเหนียวไป ต้องการจะทำอะไรกันแน่”

หยู่เหวินเห้าพูดด้วยเสียงเย็นเรียบๆว่า “ยังจะทำอะไรได้อีก แฝดชายสามคนเป็นบุญวาสนามิใช่หรือ พาไปคนหนึ่ง ย่อมเท่ากับไม่มีบุญวาสนาแล้ว อีกอย่าง การจับตัวลูกชายของพวกเราไว้ในมือ ชีวิตของพวกเราสองสามีภรรยาก็เท่ากับอยู่ในมือเขาด้วย”

หยวนชิงหลิงไม่เข้าใจ “เขากล้าจะกำชีวิตไว้ในมือ เสด็จพ่อจะไว้ชีวิตเขาอีกหรือ”

หยู่เหวินเห้ากุมที่ไหล่ทั้งสองข้างของนางเอาไว้ “ถ้าหากลูกตกอยู่ในมือของเขาจริงๆ เจ้ากล้าพูดกับเสด็จพ่อหรือไม่ กล้าเอาชีวิตลูกกับเขามาเผาหยกดั่งหินหรือไม่ ”

หยวนชิงหลิงเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว ไม่กล้า

แค่เพียงคิดเท่านั้น นางก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นลงแล้ว

หยู่เหวินเห้าพูดเสียงเย็นๆว่า “เขารู้ว่าพวกเราไม่กล้า แต่ไหนแต่ไรมาลูกก็เป็นจุดอ่อนของพ่อแม่เสมอ โดยเฉพาะ เขายังคิดว่าตำแหน่งรัชทายาทของข้า ได้มาเพราะพึ่งลูกชาย สุดท้ายข้าก็ได้แต่เป็นหมากตัวหนึ่งของเขา เขาใช้ให้ข้าทำอะไร ข้าก็ไม่กล้าปฏิเสธ นี่คือแผนการที่เขาคิดเอาไว้ ”

หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ รู้สึกเพียงราวกับมีไฟแผดเผาอยู่ในอก ทั้งปวดแสบปวดร้อน เอ่ยอย่างโมโหว่า “ครั้งนี้ไม่เป็นไร แล้วครั้งหน้าเล่า”

หยู่เหวินเห้าพูดว่า “นี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมข้าไม่ให้แม่ทัพหลอพาตัวข้าวเหนียวกลับมาในทันที ขอเพียงจับตัวคนรับช่วงต่อได้ ยืนยันว่าเป็นคนของจวนพี่สี่ เสด็จพ่อก็จะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แม้จะปล่อยไปแล้ว ภายหน้าเขาก็ไม่กล้าคิดจะทำเช่นนี้อีก เพราะถ้าหากยังมีครั้งต่อไป แม้ว่าพวกเราจะไม่กล้าพูด เสด็จพ่อก็คงสงสัยเขาเป็นคนแรก เขาจะไม่กล้าเสี่ยงอีก แต่ครั้งนี้ เขาแน่ใจอยู่แล้วว่าพวกเราไม่กล้าพูด จึงได้ใช้ให้เจ้าพระยาจิ้งพาเด็กไป ยายหยวน ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อต้องการจะให้บทเรียนกับพ่อเจ้าเช่นเดียวกัน ถ้าหากเขาพาข้าวเหนียวไปให้พี่สี่จริงๆละก็ เช่นนั้นก็ไม่ต้องมีความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูก ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อตากับลูกเขยให้ได้รำลึกถึงกันอีกต่อไปแล้ว ”

หัวใจของหยวนชิงหลิงก็กราดเกรี้ยวยิ่งนัก “ไม่ได้เป็นพ่อลูกกันอยู่แล้วตั้งแต่แรก ไหนเลยจะมีความหลังอะไรให้รำลึกถึง ถ้าหากเขาทำร้ายลูกชายข้า ข้าก็กล้าเอาชีวิตเขาเหมือนกัน ”

หยู่เหวินเห้ากอดนางไว้ในอก “เรื่องนี้ ไม่กล้าบอกกับเจ้าตั้งแต่แรก เกรงว่าเจ้าจะไม่ยินยอมให้ข้าเอาลูกมาเสี่ยง เกรงว่าเจ้าจะคิดว่าข้าเลือดเย็น แต่นี่คือวิธีการเดียวที่ลำบากเพียงครั้งเดียวแต่จะสบายไปตลอด ภายหน้าแม้เขาจะมีแผนการร้ายอะไรอีก ก็ได้แต่มุ่งมาที่ข้า ไม่สามารถหาเรื่องลูกๆได้อีก ”

หยวนชิงหลิงรู้สึกโทษเขาอยู่บ้าง แต่ว่า ได้ยินเขาแจกแจงอย่างละเอียด และตนเองก็คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ถ้าหากอ๋องอันยังคงมีความคิดที่จะแตะต้องลูกๆอยู่ตลอด ก็คงจะป้องกันไม่ได้จริงๆ ไม่สู้ลองเสี่ยงอันตรายดูสักครั้ง

นางต้องการการยืนยันอีกครั้ง “แม่ทัพหลอสามารถพาข้าวเหนียวกลับมาอย่างปลอดภัยใช่หรือไม่”

หยู่เหวินเห้าพูดว่า “แม่ทัพหลอทำงาน เจ้าสามารถวางใจได้ ข้าได้สั่งการเขาไว้แล้ว ถ้าหากเกิดสถานการณ์อันตราย ก็ไม่ต้องสนอะไรทั้งสิ้น ช่วยเหลือลูกกลับมาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน เจ้าวางใจเถอะ เสี้ยวหงเฉิงก็ตามไปด้วย ต้องพาข้าวเหนียวกลับมาอย่างปลอดภัยได้แน่นอน ถ้าหากข้าไม่มั่นใจจริงๆ ก็คงไม่เอาชีวิตลูกไปเสี่ยงอันตราย”

และหลังจากที่เจ้าพระยาจิ้งได้เด็กมาอยู่ในมือ พาข้าวเหนียวออกจากทางประตูหลัง

ตอนที่อยู่ในห้อง เขาได้เตรียมเด็กอ่อนคนหนึ่งไว้บนเตียงตั้งแต่ต้นแล้ว ผ้าห่มที่กองขึ้นมาตรงกลางปิดบังสายตาได้พอดี ตอนที่ฮูหยินรองพานางหวงนางโจวนางหลวนไปท่าน้ำแดงและแต้มผงสีแดงให้กับเด็กๆ ก็ได้ทำการสลับตัวอย่างเงียบๆ

ผู้หญิงทั้งสี่คนนี้ เป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกันได้อย่างดี

แต่ก็มีแค่ผู้หญิงทั้งสี่คนนี้ที่เท่านั้นที่เขาใช้งานได้ เรื่องนี้แม้แต่คนขับรถม้าในจวนเขายังไม่กล้าบอก ทำได้เพียงอุ้มและเดินออกจากประตูหลังเท่านั้น เมื่อไปถึงข้างนอกแล้วค่อยจ้างรถม้า

จ้างรถม้าแล้ว เขาเรียกให้คนขับรถม้าไปทางภูเขาซีซาน

อ๋องอันบอกว่าทางนั้นจะมีคนคอยรับช่วงต่อจากเขา หลังจากถึงที่นั่นแล้ว ให้เขานำเด็กไปมอบให้กับคนรับช่วงต่อ งานของเขาก็ถือว่าเสร็จแล้ว หลังจากนี้ก็ไม่มีทางหาเขาอีก

เจ้าพระยาจิ้งไม่กล้าหวังลมๆแล้งๆต่อตำแหน่งขุนนางอีกแล้ว หวังเพียงแค่เรื่องที่ตนเองทำมาทั้งหมดจะไม่ถูกเปิดเผยออกมาก็พอ รักษาชีวิตนี้เอาไว้ได้ก็ไม่เลวแล้ว

ใจเข้าเต้นไม่เป็นส่ำอยู่ตลอดทาง ข้าวเหนียวที่อยู่ในอ้อมอกเขาเงียบอย่างน่าประหลาดใจ ดวงตากลมโตสีดำมองเจ้าพระยาจิ้งอย่างเงียบๆ ดูเหมือนจะยิ้มขึ้นมาด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน