บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 634

รอยยิ้มของหยู่เหวินเห้าแข็งข้างอยู่ที่มุมปาก หัวใจหนักอึ้ง คนในครอบครัวนางจริงๆ พวกเขาตามหาจนเจอแล้ว แล้วจะพานางกลับไปหรือไม่

ทันใดนั้นในสมองของหยู่เหวินเห้าก็นึกถึงภาพของหยวนชิงหลิงที่เล่าถึงความฝันว่าต้องการกลับบ้านด้วยน้ำตา คนในครอบครัวหานางเจอแล้ว นางคงต้องตามกลับไปแน่ ความรู้สึกที่นางมีต่อครอบครัวนั้นลึกซึ้งมาก

“เจ้าห้า พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”หยวนชิงหลิงพูด ประคองคุณย่าหยวนเข้าไปยังโถงใหญ่

หยู่เหวินเห้าตอบรับเสียงหนึ่ง เดินตามเข้าไปอย่างคนไร้วิญญาณ ในใจรู้สึกว้าวุ่นมาก ตอนที่ขึ้นบันไดหินก็เกือบจะลื่นล้ม ตอนก้าวข้ามธรณีประตูก็เกือบจะสะดุดขาจนล้มไป

หยวนชิงหลิงประคองคุณย่าให้นิ่งลงตรงเก้าอี้ปรมาจารย์ที่อยู่ตรงกลาง ตัวเองก็นั่งลง แต่กลับเห็นหยู่เหวินเห้าที่ยืนเด่นอยู่กลางห้อง สีหน้าเต็มไปด้วยความทำตัวไม่ถูกท่าทีก็ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “คนโง่ ยังไม่เข้ามาคำนับคุณย่าอีก”

ในใจของหยู่เหวินเห้านั้นตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ขาทั้งสองข้างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังสั่นเทา เดินโซซัดโซเซเข้ามาข้างหน้าแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นประสานคำนับอย่างสุภาพเรียบร้อย ขาทั้งสองข้างก็ไม่รู้ว่าเพราะอ่อนแรงหรือว่าต้องการให้พิธีคำนับสมบูรณ์ คุกเข่าลงไปกับพื้น“คำนับท่านย่า ”

คุณย่าหยวนเห็นท่าทีของเขาเช่นนี้ ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาชั่วครู่ “รีบๆลุกขึ้นมานั่งเถอะ”

หยู่เหวินเห้าลุกขึ้นเดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆ มองหยวนชิงหลิงตาปริบๆ ท่าทีร้อนใจอยู่ไม่สุขเลยสักนิด

โชคดีที่เวลาเดียวกันนี้ อ๋องชินสู้กับท่านชายสี่เหลิ่งต่างก็เข้ามาพอดี บอกว่าเตรียมตัวจะรับประทานอาหารแล้ว

เดิมทีหยู่เหวินเห้านั้นหิวจนท้องร้อง แต่ตอนนี้กลับไม่มีกะจิตกะใจอยากจะกินอะไรเลย เขาอยากจะลากตัวหยวนชิงหลิงออกไปถามคำถาม แต่เหมือนหยวนชิงหลิงจะตัวติดหนึบอยู่กับคุณย่าอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่นั่งอยู่ก็มองคุณย่าด้วยสายตาทึ่มทื่อ เหมือนเกรงว่าถ้ากะพริบตาแล้วคนจะหายสาบสูญไป

คุณย่าหยวนก็เป็นคนที่เข้าใจมีเหตุมีผล จึงได้พูดกับหยวนชิงหลิงว่า “หลานเขยเสื้อผ้าสกปรกหมดแล้ว หลานพาหลานเขยไปเปลี่ยนเสื้อผ่าก่อนเถอะ”

คำว่าหลานเขย เป็นการยอมรับสถานะของหยู่เหวินเห้า นี่ทำให้ความตื่นเต้นประหม่าของหยู่เหวินเห้าลดลงไปบ้างเล็กน้อย ได้สติกลับคืนมา คิดว่าตอนนี้ยายหยวนก็คลอดลูกแล้ว ท่านยาคงไม่พานางกลับไปแน่

แต่ว่า คนอย่างยายหยวนนั้นไร้ซึ่งน้ำใจ นางคิดถึงบ้านอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้คุณย่าก็มาหาถึงที่แล้ว นางคงจะทิ้งสามีทิ้งลูกกลับบ้านมารดาไปจริงๆ

อีกอย่าง ทำไมคุณย่าจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ ใช่ยายหยวนให้คนแอบติดต่อมาหรือไม่ นางอยากจะกลับบ้านอยู่แล้วเต็มที แต่ไม่มีความกล้าที่จะพูดออกมา ฉะนั้นครั้งนี้จึงให้ผู้อาวุโสมาด้วยตนเอง เพื่อง่ายต่อการแสร้งทำทีว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

เมื่อคิดเช่นนี้ หยู่เหวินเห้าก็จ้องเขม็งไปยังหยวนชิงหลิงที่เดินอยู่ข้างหน้า สีหน้าดุดัน ได้คาดโทษหยวนชิงหลิงไว้แล้ว

เมื่อเข้าไปในหอด้านข้าง หยู่เหวินเห้าดึงแขนของนางเอาไว้แล้วใช้ขาเตะปิดประตู ตรงเข้ากดนางเอาไว้ในวงล้อมของแขน เอ่ยอย่างดุดันว่า “ยายหยวน ข้าขอเตือนเจ้า ถ้าเจ้าจะกลับบ้านมารดา ก็อย่าแม้แต่จะคิด ทางที่ดีรีบล้มเลิกความคิดนั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้”

หยวนชิงหลิงมองเขา “ดุอะไร คุณย่าข้าก็อยู่ข้างนอก ท่านจะดุทำไม”

“ข้าดีต่อเจ้านี่นา ดีมากด้วย”หยู่เหวินเห้าดึงมือของนางมาข้างหน้า พูดอย่างร้อนรนว่า “เจ้าไม่ได้บอกนางหรือ เจ้าอธิบายให้นางฟัง บอกว่าข้านั้นดีกับเจ้าตั้งเท่าไหร่”

หยวนชิงหลิงมองเขา เอ่ยอย่างจริงจังว่า “บอกแล้ว เริ่มจากตั้งแต่ข้ามาถึงที่นี่ ถูกคนตบหน้า จากนั้นก็ถูกโบยไปสามสิบที……”

สีหน้าของหยู่เหวินเห้าขาวซีด ดวงตาเหลือกขึ้น ท่าทีราวกับจะเป็นลม พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่บีบคั้นขึ้นมาจากในอกหนึ่งเฮือก กลับเหมือนราวกับจะขาดมิขาดใจอย่างไรอย่างนั้น “เจ้า เจ้ารื้อฟื้นเรื่องเก่าอีกแล้ว เจ้าพูดเช่นนี้กับนางได้อย่างไรกัน เจ้าไม่รู้จักกตัญญูเอาซะเลย เจ้าต้องการทำให้นางตกใจตายจากนั้นก็ทำให้ข้าตกใจตายตาม ”

หยวนชิงหลิงดึงตัวเขาให้ลุกขึ้น “ไปเถอะ เหล่านั้นข้าไม่ได้พูด อีกอย่างข้าเองก็เพิ่งจะคุยกับคุณย่าได้ไม่นานท่านก็มาแล้ว คำพูดเหล่านั้นข้าอยากจะบอกนางแต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป แต่นางกลับเห็นรอยแผลเป็นที่ข้อมือของข้า คาดว่าคงคิดว่าท่านเป็นคนที่ทำให้เป็นเช่นนี้ ฉะนั้นในใจคงจะมีความรู้สึกไม่ดีต่อท่านอยู่บ้าง”

ใจของหยู่เหวินเห้าราวกับนั่งรถบนเส้นทางภูเขา ตกลงไปอย่างกะทันหันแล้วก็ขึ้นมาอย่างกะทันหันเช่นกัน หัวใจเหมือนจะรับน้ำหนักไม่ไหวอยู่บ้าง ดึงตัวหยวนชิงหลิงเอาไว้และพูดว่า “เจ้าอยากได้พูดถึงข้าในเรื่องไม่ดีต่อหน้านางแม้แต่ครึ่งคำ มากสุดก็แค่ภายหน้าไม่ว่าเจ้าให้ข้าทำอะไรข้าก็จะทำ ข้าจะไม่คัดค้านตอบโต้เจ้าเป็นอันขาด”

หยวนชิงหลิงกอดแขนของเขาเอาไว้เดินออกไปด้วยกัน นี่จึงเป็นการปลอบประโลมจิตใจอันอ่อนแอที่ได้รับบาดเจ็บของเขา “ท่านดีต่อข้าจริงๆ เรื่องที่ข้าต้องการจะทำ ท่านก็คอยสนับสนุนอย่างไม่เคยคิดเสียใจภายหลังมาก่อน”

“เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ”หยู่เหวินเห้าเดินไปด้วยฝีเท้าโซเซ “แล้วอีกสักครู่ข้าต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง คุณย่าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ข้าไม่ได้เตรียมของขวัญมาด้วย เจ้าลองดูสิว่าจะหาของขวัญที่พอจะให้เกียรติในจวนเหลิ่งนี้ได้หรือไม่ หาให้ข้าก่อนหนึ่งชิ้น ประเดี๋ยวกลับไปแล้วข้าค่อยคืนให้”

“ไม่ต้องแล้ว ไปเถอะ ถึงเวลาท่านค่อยตอบแทนนางก็พอ นางจะอยู่ที่นี่ ”หยวนชิงหลิงพูดคำนี้ ด้วยน้ำเสียงสะอื้น

“เจ้าห้า แม้แต่ฝันข้าก็ไม่กล้าคิดว่านางจะมาถึงที่นี่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว ข้าก็มีคนของบ้านมารดา ข้าก็มีญาติอยู่ข้างกายแล้วเช่นกัน ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน