เสวี่ยผานเพิ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก!
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ...
อู๋หลิงคว้าคอเสื้อของเขาแล้วตบเขารัว ๆ ด้วยหลังมือ “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เจ้ากล้าเอาแม่และพี่น้องมาข่มขู่ข้า เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าฆ่าเจ้าตอนนี้ได้ และจะไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเขาแม้แต่น้อย!”
“เจ้า เจ้า...”
ดวงตาของเสวี่ยผานเบิกกว้างแดงก่ำ ราวจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ
พรวด!
อู๋หลิงผลักกลับและโยนเสวี่ยผานลงบนที่นั่ง เขาเสียบดาบราชวงศ์ถังไว้ข้างคอ แล้วหันหลังกลับและเดินจากไป “อย่ามาท้าทายกับความอดทนของข้าอีก ข้าเกรงว่าวันหนึ่งข้าจะสูญเสียการควบคุมและลงมือทำสิ่งที่ไม่ดี”
“ไอ้สารเลว เจ้ากล้าดียังไงมาทำอย่างนี้กับข้า! เด็ก ๆ เข้ามาจับตัวเขาไป!”
เสวี่ยผานลุกขึ้น คว้าดาบราชวงศ์ถังแล้วชี้ไปที่เขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล!
นักโทษผู้นี้ทำให้เขาอับอายต่อหน้าคนนอกจริง ๆ
พรวด พรวด พรวด...
ทหารกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาจากทั้งสองฝ่าย!
อู๋หลิงมองไปทางซ้าย!
ผัวะ ผัวะ ผัวะ!
ทหารทางซ้ายเซกลับ!
อู๋หลิงมองไปด้านข้างที่ทหารทางขวาอีกครั้ง!
ทหารทางขวาตัวสั่นและล่าถอย!
อู๋หลิงเอามือไพล่หลังและเดินออกจากบ้านของผู้บัญชาการโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“พวกไร้ประโยชน์ เขาไม่มีอาวุธแล้ว พวกเจ้ากลัวอะไรเล่า ไร้ประโยชน์สิ้นดี!”
เมื่อเห็นทหารที่ตัวสั่น เสวี่ยผานก็ด่ากราดราวกับว่าโมโหยิ่งนัก
“สมกับเป็นแม่ทัพหนุ่ม ท่าทางของเขายังคงเหมือนเดิม!”
ไป๋เฟยเฟยทำเสียงจิ๊จ๊ะ โดยไม่สนใจเสวี่ยผานที่กำลังลนลาน และจากไปพร้อมกับผู้หญิงในชุดสีม่วง
อู๋หลิงจับดาบราชวงศ์ถังด้วยความงุนงง จากนั้นแววตาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน ไม่นาน เขาก็หลับตาด้วยความเจ็บปวด และกลับจวนอย่างไร้ความรู้สึก “หาคุณชายหมิงถันในงานประชุมกวีนิพนธ์ติ้งหลงไถเจอแล้ว ข้าอยากพบเขาสักหน่อย”
แม้ว่าเขาจะไม่เคยไปติ้งหลงไถ แต่เขาก็ได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น!
โดยเฉพาะบทนั้น “แดงทั่วธาร รำลึกอู๋มู่” ทำเอาเขาน้ำตาเอ่อล้น!
จวบจนทุกวันนี้ยังมีคนที่ไม่ลืมท่านพ่อของเขา
องครักษ์เหล่าสือซื่อรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพหนุ่ม ท่านกลัวว่าท้องพระโรงจะสงสัยเขา และอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของเขาไม่ใช่หรือ ท่านจะไม่ไปพบเขาหน่อยหรือ”
อู๋หลิงเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว เขากล้าใช้คำว่า 'รำลึกอู๋มู่' เขาจะเข้าไปเป็นขุนนางในท้องพระโรงได้อย่างไรเล่า ข้าจะไปขอบคุณเขา!”
องครักษ์เหล่าสือซื่อพยักหน้า “เราต้องขอบคุณคุณชายผู้นั้นแล้ว มีบัณฑิตมากมายในใต้หล้านี้ เป็นเรื่องดีที่มีคนกล้ายืนหยัดและพูดแทนมู่ซ่วย”
อู๋หลิงหยิบดาบราชวงศ์ถังออกมา “รวมทั้งดาบเล่มนี้ด้วย ดูเหมือนว่าจะเพิ่งถูกหล่อขึ้นใหม่ ซึ่งหมายความว่าเขาเชี่ยวชาญวิธีการสร้างดาบแบบใหม่ ข้าอยากจะชักชวนให้เขาถ่ายทอดวิธีนี้ให้กับท้องพระโรง ตราบใดที่ทหารทุกคนในต้าเย่มีอาวุธวิเศษเช่นนี้ติดตัว เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกโจรด้วยซ้ำ”
เดิมทีเขาเพียงคิดว่ามันเกินจริงที่จะบอกว่าอาวุธวิเศษสามารถตัดเหล็กได้เหมือนโคลน แต่หลังจากใช้ดาบของเสวี่ยผานในบ้านผู้บัญชาการแล้ว เขาก็ได้เข้าใจข้อดีและข้อเสียของมัน
องครักษ์เหล่าสือซื่อขมวดคิ้ว “แม่ทัพหนุ่ม ราชสำนักปฏิบัติต่อท่านอาจารย์เช่นนี้ แต่ท่านกลับยังเป็นห่วงราชสำนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
อัพปตอนต่อหน่อยอ่านถึง373 แล้ววสนุก...
สนุกมมากครับ ปกติเห็นแนวนี้ตัวเอกชอบเป็นผู้หญิง...
รบกวน อัพเดท ด้วยครับ /...
รออยู่ครับ เรื่องนี้ สนุกมาก อย่าเพิ่งเท กันน่ะครับ/ขอบคุณ แอดฯ...
รอตอนต่อไปอยู่ครับ...
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...