บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 374

บทที่ 374 ทะยาน

บทที่ 374 ทะยาน

แขนขาที่ขาดวิ่นปลิวว่อนขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมา

เมื่อเฉินซีเข้าสู่สถานะต่อสู้ ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สีหน้าของชายหนุ่มเรียบเฉยไม่แยแสต่อสิ่งใดทั้งสิ้น จิตสังหารโอบรอบอยู่ทั่วร่างกายของเขาในขณะที่ยันต์ศัสตราเป็นราวกับเคียวที่อยู่ในมือของยมทูต ไล่เก็บเกี่ยวชีวิตอย่างไร้ความปรานี

การต่อสู้แบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เขาสามารถคำนวณได้อย่างชัดเจนว่าเพียงแค่ต้องออกแรงสี่ในสิบส่วนของกำลังทั้งหมดตอนนี้ก็เกินพอที่จะจัดการศัตรูที่อยู่ต่อหน้าอย่างง่ายดาย โดยไม่เสียแรงเปล่าจากการใช้กำลังมากเกินไป

นี่คือสิ่งที่เกิดจากความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ของเขา มีเพียงผู้มีประสบการณ์จากการต่อสู้แลกชีวิตเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจถึงวิธีการฆ่าที่รวดเร็วที่สุดและใช้แรงกายน้อยที่สุด!

เฉินซีรู้ดีว่าทุกรายละเอียดของสิ่งที่เขาทำจะถูกทุกคนในโลกภายนอกจะเห็นได้อย่างชัดเจน และรวมถึงสหายเก่าจากกองกำลังใหญ่ทั้งหกแห่งด้วย

แต่เขาไม่สนใจมัน เพราะเขาต้องการที่จะประกาศความตั้งใจที่จะแก้แค้นด้วยการกระทำเหล่านี้!

มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่สามารถปิดล้อมและไล่สังหารเขาได้?

‘ยั่วยุข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาคิดว่าข้าเป็น ‘ลูกพลับ’ อ่อนนุ่มที่พวกเขาจะเหยียบย่ำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นหรือ?’

ฆ่า!

มีเพียงการฆ่า! ฆ่าจนถึงจุดที่ทำให้พวกเขารู้สึกวิตก หวาดกลัว และครั่นคร้ามเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์และเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!

แล้วถ้าพวกเขาโกรธล่ะ?

ตราบใดที่เขาติดอันดับหนึ่งในสิบของการชุมนุมดาวรุ่งได้ ใครจะกล้ามาแก้แค้นเขาเพราะเรื่องนี้กัน? เกรงว่าจักรพรรดิฉู่คงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้น!

อาจกล่าวได้ว่า ยามนี้เฉินซีกำลังไล่สังหารคนเหล่านี้โดยปราศจากความกลัวและแรงกดดันอย่างสิ้นเชิง

ฟุ่บ!

ลำคอของศัตรูคนสุดท้ายถูกเจาะ เลือดไหลพุ่งออกมาพร้อมกับที่เขาร่วงลงไปกองกับพื้น

จนถึงตอนนี้ คนทั้งสิบสามคนที่ปิดล้อมเฉินซีอยู่ได้ถูกกวาดล้างจนหมดแล้ว และไม่มีใครรอดไปได้สักคนเดียว!

“อัศจรรย์ยิ่ง! สหายผู้นี้เป็นเทพเจ้าแห่งการฆ่าฟันที่เย็นชาและโหดเหี้ยมโดยแท้!”

“สวรรค์! เขาฝึกฝนวิธีการฆ่าคนที่ประณีตและว่องไวเช่นนี้มาได้อย่างไรกัน? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาไม่ได้ถูกพลังของเต๋ารู้แจ้งกดข่มเลย เขาช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

“ศิษย์ขอบเขตแกนทองคำขั้นสมบูรณ์แบบทั้งสิบสามคนจากนิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดถูกฆ่าตายภายในไม่กี่ลมหายใจ โดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะบดขยี้ตราหยกเพื่อหลบหนีด้วยซ้ำ… นี่มันเป็นการสังหารหมู่ชัด ๆ!”

หลังจากผู้คนทั่วทั้งนครหลวงธารสายไหมได้เห็นภาพนี้ ความโกลาหลก็ระเบิดขึ้นในทันที ถนนทั้งเส้นตั้งแต่ต้นยันปลายสายเต็มไปด้วยการสนทนาที่มีชีวิตชีวา และสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ

นี่เป็นการต่อสู้ที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดการชุมนุมดาวรุ่งมา และเป็นการสังหารที่ถือว่าเป็นตำนานอันสมบูรณ์แบบที่ใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการเอาชนะศัตรูทั้งหมดตรงหน้า!

“ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่เฉินซีจะไม่เป็นไร!” มู่เหวินเฟยกระโดดอย่างตื่นเต้นและโบกมือไปมาอย่างบ้าคลั่งราวกับคนบ้า

“ช่างโหดร้ายยิ่ง…” เหยียนเยียนพูดในขณะที่จ้องมองอย่างว่างเปล่า

“โหดร้าย?” อวิ๋นน่าผู้คุ้นเคยกับสิ่งนี้มานานแล้วพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าเป็นข้า ข้าจะหั่นมันเป็นชิ้น ๆ ดูพวกมันสิ กล้ารุมรังแกคนอื่นได้อย่างไร!”

นักพรตเต๋าหลงเหอและคนอื่น ๆ เองก็มองจ้องเป่ยเหิงอย่างเย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาคุกคามเช่นกัน

ทว่าเป่ยเหิงไม่สนใจการข่มขู่เหล่านั้น ที่นี่คือพระราชวังธารสายไหม ซึ่งเป็นสถานที่สูงส่งที่สุดในราชวงศ์ซ่ง แม้ว่าหวงฝู่จิ่งเทียนจะได้รับความเคารพในฐานะราชันผู้ปรีชา แต่หากเขากล้าเคลื่อนไหวโดยพลการที่นี่ เขาก็จะถูกกำจัดทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน!

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีป้ายคำสั่งของตระกูลไป๋แห่งเทือกเขาหนามม่วงอยู่ในความครอบครอง และมันก็เป็น ‘ยันต์ป้องกัน’ ที่ทำให้ทุกคนหวาดเกรงอย่างมาก ดังนั้นแม้ว่าการชุมนุมดาวรุ่งครั้งนี้จะสิ้นสุดลง และเขาต้องออกจากที่แห่งนี้ไป เขาก็ไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าชีวิตของตนจะถูกคุกคาม

“สหายนักพรตเต๋าดูนั่นเร็วเข้า! เฉินซีได้ทะยานขึ้นไปบนยอดเขาทะยานสวรรค์แล้ว!” มหาเสนาบดีกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ “นั่นคือตำแหน่งที่สูงถึงหมื่นจั้งและเขายังสามารถทะยานขึ้นฟ้าไปได้ การฝึกฝนเต๋ารู้แจ้งของเด็กคนนี้ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ”

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง และแน่นอนว่าพวกเขาเห็นร่างของชายหนุ่มกำลังทะยานอยู่บนเส้นทางในภูเขา ดุจกลุ่มควันบางเบาด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย ราวกับว่าเขาไม่ได้รับแรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้งเลยแม้แต่น้อย

ภาพนี้ทำให้ผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพีทั้งหลายต่างตกตะลึง และเริ่มคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาว่าเหตุใดจู่ ๆ เด็กคนนี้ถึงระเบิดพลังของเขาออกมาในตอนนี้กัน?

ในเวลานี้ นครหลวงธารสายไหมเองก็ปั่นป่วนเช่นกัน

“บัดซบ! สหายผู้นี้ปกปิดความแข็งแกร่งของเขาเอาไว้จริง ๆ ด้วย!”

“เขากำลังบิน! เขาสามารถบินขึ้นไปบนยอดเขาทะยานสวรรค์ได้สูงถึงหมื่นจั้งแล้ว!”

“ถ้าข้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่ามีเพียงชิงซิ่วอี้ จ้าวชิงเหอ หวงฝู่ฉางเทียน และอีกสองสามคนเท่านั้นที่สามารถผ่านมาถึงจุดนี้ได้ใช่หรือไม่?”

“เฉินซีผู้นี้แข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผลโดยแท้ ก่อนหน้านี้เราทุกคนประเมินความแข็งแกร่งของเขาต่ำไปจริง ๆ”

ในขณะนี้ สายตาของผู้บ่มเพาะมากกว่าครึ่งในนครหลวงธารสายไหมต่างจับจ้องไปที่เฉินซี ความตกใจของพวกเขาเกินจะบรรยายออกมาได้ แม้แต่ย่าชิงและคนอื่น ๆ ก็ยังทั้งประหลาดใจและรู้สึกชื่นชมไปพร้อมกันเมื่อเห็นภาพนี้

แต่ในขณะเดียวกัน ผู้คนที่เห็นภาพนี้ก็เกิดคำถามในใจโดยทั่วว่า เหตุใดเฉินซีจึงจงใจเลือกช่วงเวลานี้เพื่อเร่งความเร็วขึ้นอย่างกะทันหันกัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]